One Plus 6T เปิดตัวแล้ว มือถือสเปคจัดเต็ม พร้อมสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ

เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ OnePlus 6T จากค่ายของวันพลัสที่นำของเดิมอย่าง OnePlus 6T มาปรับโฉมให้เร็วขึ้น แต่ว่าเข้าเน้นความลื่นราบรื่น หรือ Smooth เข้าไป ซึ่งรายละเอียดของตัวเครื่อง OnePlus 6T นั้นให้คำนิยามว่า Clean Fast และ Intuitive

 

รูปร่างของ OnePlus 6T มีความคล้ายกับ OnePlus 6 แต่มีการเพิ่มขนาดหน้าจอให้เป็นขนาด 6.41 นิ้ว มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ ซึ่งจะมีการให้แสงภายในหน้าจอลอดขึ้นไปผ่านจอ AMOLED และมีระบบ Ultra Sonic ภายในหน้าจอ ซึ่งเคลมว่า เร็วกว่าใครและสำหรับสหรัฐอเมริกา นี่คือครั้งแรกของมือถือที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือภายในหน้าจอ และปลดล็อคภายในเวลk 0.34 วินาที

นอกจากนี้หน้าจอของ OnePlus 6T นอกจากจะใหญ่ขึ้นแล้วยังละเอียดขึ้น และเพิ่มความละเอียดไปที่ 2340x1080 พิกเซล พร้อมกับความสว่างระดับมากกว่า 600nits และมีการปรับรูปแบบของสีได้มากมายรวมถึง DCI-P3

ทำให้ด้านหลังของเครื่องจะไม่มีเซนเซอร์ระบบสแกนลายนิ้วมืออีกต่อไปเหลือเพียงกล้องหลังคู่ที่มีขนาด 16 + 20 ล้านพิกเซล และมาพร้อมกับสีเดิมคือ Mirror Black ที่จะเป็นแบบเคลือบเงาติดกระจก ส่วนอีกสีเป็น Midnight Black ใช้วัสดุที่เป็นรอยนิ้วมือได้ยาก

 

กล้องหลังของเครื่องยังคงให้ความละเอียด 16+20 ล้านพิกเซล F1.7 รองรับการถ่าย Slo-mo ที่ 480 FPS และมีระบบกันสั่น OIS + EIS มาให้ด้วย คุณภาพของนั้นถือว่าดีขึ้นและสามารถเก็บรายละเอียดของภาพในเวลากลางคืนได้ดีกว่าเดิม มีการเพิ่มฟีเจอร์ Nightscape ที่เก็บรายละเอียดในการถ่ายภาพกลางคืน ทำงานร่วมกับ HDR ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ภายใน 2 วินาที ข่าวดี ฟีเจอร์นี้จะมีใน OnePlus 6 ด้วย

ส่วนกล้องหน้าของ OnePlus 6T ให้ความละเอียด 20 ล้านพิกเซลเท่าเดิมแต่มีการเน้นเรื่องการถ่าย Portrait ที่ดีขึ้นและตัวเลือกที่หลากหลายกว่าเดิม

 

ด้านขุมพลังใช้ Qualcomm Snapdragon 845, RAM 6 – 8GB ความจำมีให้เลือกหลากหลายทั้ง 128GB, 256GB แต่ว่ามาพร้อมกับเทคโนโลยี Smart Boost ที่จะใช้ความจำที่เหลือมาเป็น RAM ด้วย ช่วยให้โหลดเร็วขึ้น 20% และได้แบตเตอรี่ขนาด 3700 mAh และมา Dash Charge ชาร์จไฟเร็วขึ้นกว่าเดิม และมาร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android Pie และสลับ Apps ได้รวดเร็วกว่าเดิม และสามารถใช้งาน Google Assistant และปรับแต่งได้มากถึง 500 รายการ

OnePlus 6T เปิดราคาดังนี้

• RAM 6GB / ความจำ 128GB =549 ดอลล่าร์สหรัฐ = ประมาณ 18,300 บาท
• RAM 8GB / ความจำ 128GB = 579 ดอลล่าร์สหร์ฐ = ประมาณ 19,300 บาท
• RAM 8GB / ความจำ 256GB = 629 ดอลล่าร์สหรัฐ = ประมาณ 20,900 บาท

โดยจะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา 1 พฤศจิกายน และ ทวีปยุโรป 6 พฤศจิกายน นี้ ส่วนประเทศอื่นๆ คงต้องรอกันต่อไปนะ