[Hands On] สัมผัสแรกกับ "Razer Phone 2" มือถือสเปคแรงจัดเพื่อการเล่นเกมตัวจริง มาแล้ว

สัมผัสแรกครั้งนี้ทีม Sanook! Hitech ได้พามาลองของแรงกับ Razer Phone 2 ถือว่าเป็นมือถือสเปคแรงจัดและออกแบบเพื่อการเล่นเกมโดยแท้จริง ซึ่งมีการเปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทย และเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโปรโมชั่นและราคาเครื่องเป็นอย่างไร เรามาดูกันเลยดีกว่า

รายละเอียดสเปคของ Razer Phone 2

• มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาด 5.7 นิ้ว มาพร้อมจอ IGZO LCD , ความละเอียด 1440x2560 พิกเซล อัตตราส่วน 18:9
• ขนาด 158.5 x 78.99 x 8.5  มิลลิเมตร
• น้ำหนัก ไม่มีข้อมูล
• มาตรฐานกันน้ำ / กันฝุ่น : IP67
• ระบบปฏิบัติการ :Android 8.1 (Oreo)
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 845 + GPU Adreno 630
• หน่วยความจำแรม (RAM) 8GB
• หน่วยความจำภายใน (ROM) 64GB รองรับ Micro SD Card 1TB
• รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)
• กล้องด้านหลัง12 (F1.75) + 12 (F2.4) ล้านพิกเซล + Auto Focus + LED Flash
• กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด f/2.0
• การเชื่อมต่อ 4G LTE-A, Bluetooth V5.0, WiFi 802.11 AC
• แบตเตอรี่ความจุ4000 mAh (Standard Battery)
• พอร์ตชาร์จUSB-C รองรับ Quick Charge 4+, Wireless Charge
• ระบบความปลอดภัย สแกนนิ้วด้านข้าง
• สี: ดำ
• ราคา: 27,990 บาท

รูปร่างของ Razer Phone 2 เป็นอย่างไร

รูปร่างของ Razer Phone 2 นั้นไม่ค่อยแตกต่างจากมือถือ Startup ในอดีตที่ Razer ไปซื้อกิจการมานั่นคือ Nextbit แต่ว่าคราวนี้ตัวเครื่องใหญ่ขึ้นเพราะเลือกใช้หน้าจอขนาด 5.7 นิ้วและมีสีสันที่สดใสสวยงามมากมีกล้องหน้าอยู่ด้านบนพร้อมกับเซนเซอร์และลำโพงอยู่ทั้งด้านบนและล่าง อัตราส่วนหน้าจอ 18:9

ด้านข้างของเครื่องเน้นความเหลี่ยมสันและดูแพง มาพร้อมกับฝั่งซ้ายมีปุ่มเพิ่มลดเสียงและช่องใส่ซิมการ์ด

ฝั่งขวามีปุ่มเปิดปิดเรื่องพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ

ด้านบนมีไมโครโฟนเท่านั้น

ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C (ถูกบังโดยระบบความปลอดภัย) และไมโครโฟน สำหรับสนทนา

ด้านหลังออกแบบเป็นกระจกสวยงามมีกล้องหลังคู่ 12 + 12 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash ไว้ตรงกลาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโลโก้ Razer ที่สามารถเปลี่ยนสีได้มากมาย

ภาพรวมจากที่ได้จับ นั้นน้ำหนักตัวเครื่องกำลังดีไม่มากและไม่น้อยไป มาพร้อมกับ ความเหลี่ยมแต่ทำให้ตัวเครื่องถือได้ง่าย และเมื่อเล่นเกมก็สามารถประคองได้ดี แม้ว่าหน้าจอจะไม่ได้เต็มขอบเหมือนชาวบ้าน แต่ผมว่าการออกแบบลักษณะนี้ Gamer คงชอบไม่เบา

ฟีเจอร์เด็ดที่ได้ลองสัมผัสแรก

ถ้าเปิดเครื่องมาจะพบกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo การตกแต่งเน้นเความเรียบง่าย และมี Theme ให้เลือกจาก Razer Theme Store

หน้าจอของเครื่องมีขนาด 5.7 นิ้วแบบ Ultra Motion การตอบสนองได้ถึง 120Hz ทำให้การทำงานของหน้าจอราบรื่นเมื่อเล่นเกมหรือใช้งานด้านต่างๆ แถมให้สีที่เรียกได้ว่าใช้ได้

โลโก้ด้านหลังเปลี่ยนสีด้านถึง 16.8 ล้านสีและสามารถแสดงผลแจ้งเตือนได้ นอกจากนี้เลือกรูปแบบสีได้ทั้งแบบสีเดียวหรือจะเปลี่ยนสี รวมถึงแบบจังหวะหายใจได้

มาพร้อมกับลำโพงคู่ด้านหน้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Dolby ATMOS ให้เสียงเวลาเล่นเกมดังสะใจเพราะไม่มีอะไรบังลำโพง

ขณะที่สเปคของเครื่องถึงแม้จะเป็น Qualcomm Snapdragon 845, RAM 8GB พร้อมการ์ดจอ Adreno 630 แต่พัฒนาระบบระบายความร้อนด้วยไอน้ำทำให้ตัวเครื่องสามารถคงประสิทธิภาพได้ดีแม้ทำงานหนัก ไม่ร้อนมากจนเกินไป แต่ที่จับมันก็อุ่นระดับหนึ่ง ส่วนความจำในตัว 64GB มองว่าน้อยไปหน่อย แต่สามารถเพิ่มได้สูงสุดด้วย MicroSD 1TB

ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 4000 mAh รองรับ Qualcomm QuickCharge 4+ รุ่นล่าสุดที่สามารถชาร์จไฟได้เร็วขึ้น และข่าวดีรองรับ Wireless Charge

และเรื่องของกล้องนั้นให้กล้องหลังคู่ขนาด 12 + 12 ล้านพิกเซล โดยเลนส์ตัวแรกจะเน้นเรื่องของการถ่ายในสภาพแสงน้อย ส่วนตัวที่ 2 เน้นเรื่องการซูม นอกจากนี้มาพร้อมกับระบบกันสั่น OIS รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 4K

นอกจากนี้กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เน้นเรื่องของการละลายหลัง และรองรับการทำวิดีโอ Streaming แบบ full HD ได้ด้วย

สรุปหลังลองใช้ Razer Phone 2 ในระยะเวลาสั้นๆ

หลังจากสัมผัสของ Razer Phone 2 มาแบบสักพักหนึ่งในระยะเวลา 30 นาที ต้องบอกว่ามือถือรุ่นนี้ นอกจากได้สเปคดี จอสวยและระบบระบายความร้อนที่เรียกได้ว่าช่วยทำให้เครื่องไม่ร้อนมากจนเกินไป ทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่เหมาะกับการเล่นเกมอย่างยิ่ง และใช้งานทั่วไปได้กำลังดีเช่นกัน

ส่วนราคาของเครื่องนั้น ต้องบอกว่ามันจะสูงสักหน่อยเพราะเคาะที่ 27,990 บาท แต่ว่า ขายเฉพาะแค่ AIS ที่มาพร้อมกับซิมการ์ดที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด รวมถึงใช้ Next G ได้และบริการต่าง ๆ ฟรี 3 เดือนและไม่ติดสัญญา เช่นเดียวกัน

จัดว่าเหมาะสมกับตัวเครื่องสเปคท็อปแบบนี้ ที่มีคู่แข่งเยอะแต่ก็ต้องเลือกในสิ่งที่ลงตัวกับคุณเอง แต่ทีมจะมีโอกาสรีวิวรุ่นนี้ในภาคต่างๆ หรือไม่ รอติดตามใน Sanook! Hitech กันให้ดีต่อไปครับ