ลองจับ Mi Mix 3 ก่อนขายจริงในไทย

ลองจับ Mi Mix 3 ก่อนขายจริงในไทย

ลองจับ Mi Mix 3 ก่อนขายจริงในไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจาก Mi Mix 3 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปเปิดตัวเรียบร้อย พร้อมโชว์คุณภาพด้านกล้อง กวาดคะแนนด้านการถ่ายภาพนิ่งไปถึง 108 คะแนน ทีมงานแบไต๋ได้มีโอกาสจับเครื่องจริงก่อนที่จะขายในไทยครับ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องที่น่าประทับใจเลย

สัมผัสแรก Mi Mix 3

แม้ว่าเราจะมีมือถือจอเต็มแล้วกล้องหน้าเป็นแบบสไลด์กันมาหลายรุ่นแล้ว แต่ Mi Mix 3 มีรูปแบบการสไลด์กล้องที่แตกต่างออกไปด้วยระบบแม่เหล็กครับ ที่ผู้ใช้ต้องสไลด์กล้องขึ้นลงด้วยตัวเอง ไม่ได้มีมอเตอร์เคลื่อนกล้องขึ้นลงเหมือน Oppo Find X หรือ Vivo Nex ซึ่งก็เป็นสัมผัสที่สนุกดีนะครับเวลาสไลด์กล้องขึ้นๆ ลงๆ แล้วมีเสียงแกร็กๆ ซึ่งมันสนุกมากจนเราไม่แน่ใจว่าที่ Xiaomi การันตีว่ากลไกเคลื่อนขึ้นลงนี้ใช้ได้ 300,000 ครั้งมันจะทนพอสำหรับการเล่นสไลด์ขึ้นๆ ลงๆ รึเปล่า 555 (ถ้าสไลด์วันละ 100 ครั้ง มันก็ใช้ได้ 3,000 วันหรือ 8 ปีกว่า เออ มันก็น่าจะทนอยู่นะ) เอาเป็นว่าใครจับเจ้ามือถือตัวนี้ต้องสไลด์เล่นทุกรายครับ

เจ้ากลไกสไลด์ของ Mi Mix 3 นั้นทำได้หลายอย่างนะครับ ทั้งสไลด์เพื่อรับสาย ซึ่งจะใช้ลำโพงแนบหูที่อยู่ด้านหลังแทนลำโพงที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งก็ยังไม่ได้ลองว่าลำโพง 2 ตัวนี้เสียงมันต่างกันยังไง นอกจากนี้เวลาใช้กล้อง เมื่อสไลด์กล้องขึ้นก็จะเป็นการเปิดใช้โหมด Selfie โดยอัตโนมัติด้วย

สัมผัสตัวเครื่องถือว่าดีนะครับ ด้วยฝาหลังที่เป็นเซรามิก มี 3 สีคือ สีเขียวหยก (Jade Green), สีฟ้าพลอย (Sapphire Blue) และสีดำนิล (Onyx Black) ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม ขนาดเครื่องก็ไม่ใหญ่เกินไปนักด้วยจอ 6.39 นิ้วที่ขอบบางเฉียบ

ส่วนเรื่องซอฟต์แวร์ในเครื่องเรายังไม่ได้ทดสอบมากนักครับ เพราะยังเป็นรอมจีนอยู่ แต่ก็มีปุ่มเรียกผู้ช่วยส่วนตัวอยู่ข้างเครื่องด้วย ซึ่งรอมจีนจะใช้เรียก AI ของ Mi ขึ้นมา แต่ในรอมรุ่นที่ขายทั่วโลกก็กำลังพัฒนาให้เรียก Google Assistent ได้ และเรื่อง Winevine CRM ที่เสียวมี่มักจะมีปัญหาว่าได้แค่ระดับ L3 ซึ่งไม่สามารถเล่น Netflix แบบ HD ที่ต้องการ L1 ได้ ทางผู้บริหารของเสียวหมี่ประเทศไทยก็รับรู้ปัญหาแล้ว และกำลังร่วมงานกับ Google เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ตอนนี้ว่า Mi Mix 3 จะรองรับ Winevine ระดับไหน

ว่าด้วยสเปคของ Mi Mix 3

CPU: Snapdragon 845 RAM: 6, 8, 10 GB (ตัว 10 GB ไม่ได้นำเข้ามาขายในไทย) หน่วยความจำในเครื่อง: 128 หรือ 256 GB จอสไลด์แบบ Magnatic การันตีสไลด์ได้ 300,000 ครั้ง ทำให้ซ่อนกล้องไว้ด้านหลังได้ และเป็นแบบต้องสไลด์เอง ไม่ใช่มอเตอร์เลื่อนให้เหมือนหลายๆ รุ่น จอขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 แบบ AMOLED พื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่องมาก 93.4% เพราะมีขอบจอล่างแค่ 4.46 mm จากการปรับเสาอากาศใหม่ ทำให้ใช้พื้นที่น้อยลง ลำโพงหูฟังมีทั้งที่หน้าจอ และชุดกล้องด้านหลัง กล้องหลัง 12 + 12 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.4 um พร้อมความสามารถถ่ายกลางคืนโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง กล้องหน้า 24 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมสามารถถ่ายวิดีโอ Selfie แบบเบลอหลังได้ด้วย AI ฝาหลังเซรามิก แถมตัว Wireless Charger มาให้ในกล่อง และรองรับ Quick Charge 4+ Mi MIX 3 มีจำหน่าย 3 สี ประกอบไปด้วย สีเขียวหยก (Jade Green), สีฟ้าพลอย (Sapphire Blue) และสีดำนิล (Onyx Black) ราคาและวันวางจำหน่ายในไทยยังไม่ออก

เสียวหมี่ ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย

ปัจจุบัน เสียวหมี่ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสี่ของโลก และเป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย เรื่องราวความสำเร็จนี้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2010 ในขณะที่ผู้ประกอบการเทคโนโลยีนายเหลย จุน ได้เชิญกลุ่มเพื่อนมาสังสรรค์และสนทนาถึงเรื่องราวชีวิต เขาได้คาดการณ์ไว้ว่าอนาคตของยุคอินเทอร์เน็ตสมาร์ทโฟนจะเข้ามามีบทบาทสำคัญที่สุด นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาตัดสินใจที่จะสร้างธุรกิจใหม่ และ เสียวหมี่ ได้ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่วันนั้น

แปดปีต่อมา ก่อนที่เสียวหมี่จะถูกจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง นายเหลย จุน กล่าวว่า “เมื่อแปดปีที่แล้ว ผมมีความคิดแปลกๆ ที่จะใช้อินเทอร์เน็ตมาทำประโยชน์กับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าของจีน และทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงทุกคนทั่วโลก ซึ่งในขณะนั้น น้อยคนที่จะสนับสนุนในความคิดนี้ แต่ต้องขอบคุณที่วันแรกของการก่อตั้งบริษัท เราทั้ง 13 คนมีความเชื่อเดียวกันและพยายามที่จะทำให้ความฝันของเราเป็นจริง”

มาถึงวันนี้ หัวใจหลักของเสียวหมี่ยังคงเป็นความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆเพื่อประสิทธิภาพที่ดีและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สินค้าของเราจะจำหน่ายในราคาที่จริงใจต่อผู้บริโภค ดังนั้น นายเหลย จุน จึงต้องคิดอย่างพิถีพิถันและรอบคอบในการปรับปรุงประสิทธิภาพของสินค้าอยู่เสมอเพื่อเป็นการลดต้นทุนการดำเนินงาน แต่ยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าเป็นสำคัญ ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าทุกบาทที่เสียไปจะได้รับความคุ้มค่าอย่างแน่นอน

ลูกค้าคือหัวใจสำคัญและมีความหมายที่สุดสำหรับเสียวหมี่ นาย เหลย จุน เชื่อว่า บริษัทที่ดีคือบริษัทที่สามารถทำกำไรได้ขณะที่บริษัทที่ยอดเยี่ยมนั้นสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้ ในเดือนเมษายน 2561 นายเหลย จุน ประกาศกำไรสุทธิหลังหักภาษีของ Xiaomi Hardware ไม่เคยเกิน 5% และเสียวหมี่จะคืนกำไรที่เกินจาก 5% ให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อใจให้แก่พวกเขา ในปี 2560 ที่ผ่านมา เสียวหมี่ได้แจกคูปองมูลค่ากว่า 1.43 พันล้านบาท (300 RMB) ให้แก่ลุกค้าเป็นการตอบแทน

จอห์น เฉิน ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่ เทคโนโลยี

นายจอห์น เฉิน ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่ เทคโนโลยี กล่าวว่า “เสียวมี่ เป็นแบรนด์โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ พวกเราภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้น และการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง Mi MIX 3 จะเริ่งการเติบโตนี้ขึ้นอีก ในระดับโลก เสียวหมี่ คอร์ปอเรชั่น ได้บรรลุเป้าหมายการจัดส่งโทรศัพท์ 100 ล้านเครื่อง ไปแล้วเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา และเกินยอดจัดส่ง 90 ล้านเครื่อง ในปี 2560”

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook