รีวิว "WD My Passport Wireless SSD" 3 in 1 SSD แบบพกพาที่ได้ทั้งชาร์จ สำรองข้อมูล และถึกสุดๆ
จากความสำเร็จของ "WD My Passport Wireless" ที่เปิดมาทั้งหมด 2 รุ่นและได้รับความนิยมสูงจากกลุ่มช่างภาพ มาวันนี้ WD ก็ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ที่คราวนี้ทนกว่าเดิมอย่าง My Passport Wireless SSD ที่เหมาะกับช่างภาพตัวจริง มาดูกันว่ามันเหมาะอย่างไรและน่าใช้แค่ไหน
เปิดกล่องของ WD My Passport Wireless SSD
ภายในกล่องของ WD MyPassport SSD ประกอบด้วย
- WD My Passport Wireless SSD 1 ลูก พร้อมเคสกันกระแทก
- CD Driver
- สาย USB 3.0 สำหรับ Hard Disk
- คู่มือการใช้งาน
เรียกได้ว่าอุปกรณ์ที่ติดกล่องมาครบถ้วยพร้อมใช้งานได้ทันที เห็นแล้วถ้าอยากให้สามารถลุยได้ ก็น่าจะให้จุกปิดช่องทั้ง SD Card และช่อง USB ต่างๆ เช่นเดียวกันครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องและการออกแบบดีไซน์ของ WD My Passport Wireless SSD
สำหรับ WD My Passport Wireless SSD ยังคงออกแบบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เหมือนกับรุ่น 2 และมีไฟบอกสถานะด้านหน้าของตัวเครื่องที่สามารถบอกได้ทั้งสถานะการเปิด Wireless LAN, สถานะการทำงานของ SSD บนด้านซ้ายมีไฟบอกปริมาณของแบตเตอรี่และกลางเครื่องออกแบบให้เป็นเส้นแนวนอนเลยทีเดียว
ช่องเสียบต่างๆ จะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง มีปุ่มกดเช็คสถานะแบตเตอรี่ หรือ กดสำรองข้อมูล SD Card, USB สำหรับจ่ายไฟออกให้อุปกรณ์, ช่องเสียบ USB 3.0 สำหรับชาร์จไฟและสำรองข้อมูลออกให้กับคอมพิวเตอร์ และปุ่มกดเปิดเครื่อง
ด้านข้างออกแบบเรียบง่าย มีเพียงแค่ฝั่งซ้ายเท่านั้นที่มีช่องเสียบ Card Reader แบบ SD Card เท่านั้น นอกนั้นจะเป็นสีเทาไม่มีอะไร
ใต้เครื่องมีข้อมูลของตัวเครื่องเช่นเลขรหัส, บอกรหัส WiFi ที่เป็นค่าเริ่มต้นของ SSD ก้อนนี้
เมื่อออกแบบให้สามารถลุยได้ทำให้ WD My Passport Wireless SSD จะมียางหุ้มรอบตัว ใส่เข้าไป เพื่อป้องกันตกและกระแทกได้ น่าเสียดายที่ไม่ได้ออกแบบให้กันน้ำ ยกเว้นคุณจะหาจุกมาปิดช่องเสียบต่างๆ ซึ่งกันกระแทกและฝุ่นได้ระดับหนึ่ง
เปิดเครื่อง WD My Passport Wireless SSD ลองฟังและลองใช้ฟีเจอร์
เมื่อเปิดเครื่องมาพบกับไฟติดและทำงานได้ทันที โดยจะมีไฟบอกสถานะของ SSD ว่าพร้อมทำงาน แต่สิ่งที่ต้องรอคือ Wireless LAN ที่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่าน Wireless โดยต่อกับมือถือผ่าน Application My Cloud
SSD ภายในเร็วแค่ไหน
จากที่ได้ทดสอบออกมาเมื่อเทียบกับความเร็วสูงสุด 390MB/s ในด้านการอ่าน และการเขียนถือว่าพอประมาณเลยล่ะ ฉะนั้นแล้ว เมื่อเทียบกับรุ่น Hard Disk ถือว่าเร็วขึ้นอย่างชัดเจน และมีปุ่มที่สามารถย้ายข้อมูลสำรองข้อมูลจาก SD Card ด้วยเช่นเดียวกัน
อีกจุดเด่นหนึ่งของการเลือกใช้ SSD เพราะการออกแบบของ My Passport Wireless จะต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลา เสี่ยงต่อความเสียหาย ทำให้เลือกใช้ SSD ที่มีการออกแบให้ทนทานเป็นพิเศษ
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่โดดเด่นที่คุณได้ใช้ใน WD Mypassport Wireless SSD
นอกจาการเปลี่ยนมาใช้ SSD แล้ว WD My Passport Wireless SSD ก็มีเทคโนโลยีต่างๆ มากมายเช่น
- My Passport Wireless มีเครื่องอ่าน SDTM การ์ดในตัวที่มาพร้อมความเร็วในการอ่านสูงสุด 65MB/s* และปุ่ม One-touch card copy ที่ทำให้ง่ายต่อการสำรองข้อมูลรูปภาพและวิดีโอจาก SD การ์ดโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
- SSD โอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็ว (ความเร็วการอ่านสูงสุด 390MB/s) เมื่อใช้พอร์ต USB 3.0 ในการย้ายไฟล์จากคอมพิวเตอร์พีซี หรือ Mac
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน (ใช้ติดต่อกันได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง)
- ยังสามารถปล่อยให้อุปกรณ์อื่นๆ เช่นมือถือ, กล้องดิจิทัล ก็ได้ แต่ Tablet อาจจะไม่เพียงพอ
- สตรีมวิดีโอแบบ 4K ได้แบบไร้สาย และดูรูปภาพด้วยแอปพลิเคชัน My Cloud
- รองรับไฟล์ภาพแบบ RAW สามารถเข้าไปดูรายการสินค้าที่รองรับไฟล์ภาพแบบ RAW ได้ที่ support.wd.com
ลองใช้ My Passport Wireless SSD เป็นอย่างไร
เรียกได้ว่าลูกเล่นครบครันสมกับอุปกรณ์สำรองข้อมูลที่มีราคาสูงและเหมาะกับคนใช้งานจริงจัง เมื่อใช้งานจริงพบว่าน้ำหนักของเครื่องไม่ได้มากมายอะไรนัก และช่วยลดอุปกรณ์ในการพกพาไปได้พอสมควร
บางครั้งก็ถ้าออกรอบถ่ายรูป แต่ต้องการสำรองข้อมูลเข้าไปเพราะการ์ดจะเต็ม ตัวเครื่องสามารถตอบสนองได้ดี
เรื่องเป็นแบตเตอรี่สำหรับใช้งานเกี่ยวกับการสำรองข้อมูลถือว่าเพียงพอทั้งวันได้สบาย 10 ชั่วโมงถือว่าเพียงพอแล้ว แต่การนำมาเป็นแบตเตอรี่เสริมให้กับอุปกรณ์ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า แบตเตอรี่ของ My Passport Wireless ไม่ได้ให้มาเยอะมากขนาดนั้น อาจจะทำให้ไฟฟ้าของเครื่องไม่เพียงพอต่อการใข้งาน เอาไว้แค่เป็นอุปกรณ์สำรองฉุกเฉินจะดีกว่า
สรุปผลหลังทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ทดสอบและลองเล่น เครื่อง WD My Passport Wireless SSD มาสักระยะ
ถือว่าแก้ปัญหารุ่นเดิมที่น้ำหนักเยอะและฟีเจอร์ไม่สามารถใช้งานได้มากเพราะติดข้อจำกัดของ Hard Disk แต่รูปลักษณ์เปลี่ยนไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมาให้แข็งแรงขึ้นและมีเคสกันกระแทกมาให้ จึงเรียกว่า WD My Passport Wireless SSD เหมาะกับคนที่เดินทางข้างนอกบ่อยๆ อย่างแท้จริง
สำหรับราคาของ WD My Passport Wireless SSD มีดังนี้
- 250GB ราคา 7,990 บาท
- 500GB ราคา 9,990 บาท
- 1TB ราคา 16,900 บาท
- 2TB ราคา 29,900 บาท << เป็นรุ่นที่นำมาทดสอบ
ถือว่าราคาสูงเอาเรื่องเหมือนกัน สุดท้ายแล้วสำหรับคนที่เป็นช่างภาพและเป็นสายพกพา นี่เป็นอีก Gadget ที่น่าสนใจ แต่ถ้าไม่ได้ใช้อะไรมาก แต่ต้องการอุปกรณ์สำรองข้อมูลที่ทำงานได้แบบหลายรูปแบบโดยไม่ต้องพกอุปกรณ์ นี่เป็นเป็นอีกตัวเลือกที่น่าจับจ่ายมาใช้เหมือนกันครับ
สรุปจุดเด่นของ WD My Passport Wireless SSD
- ใช้ SSD ทำให้เขียน File ได้เร็ว และประหยัดไฟ
- รองรับ SD Card สำรองข้อมูลได้ง่าย
- Wireless LAN เสถียรมาก
- มีความจุให้เลือกหลากหลาย
- Software ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
- ทำหน้าที่เป็น Power Bank ได้ยามจำเป็น
สรุปจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมหากต้องการซื้อ WD My Passport Wireless SSD
- ราคาของมันสูงไปหน่อย
- การจ่ายไฟเป็น Power Bank ทำได้ไม่นานพอ
- ตัวเครื่องใหญ่ไม่เหมาะกับการพกพาถ้าไม่มีกระเป๋าใบใหญ่เช่น เป้