[Hands On] จับครั้งแรกกับ “OPPO R17 Pro” มือถือเครื่องสวยที่ถ่ายภาพดีและเน้นเทคโนโลยีล้ำ
ปล่อยให้คู่แข่งมีอะไรที่ล้ำและแตกต่างมานาน ก็ได้เวลาที่ค่ายมือถือย่าง OPPO จะเอาจริงแล้ว วันนี้ก็ได้เผยโฉม R17 Pro ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวรองจากที่ใหญ่อย่าง Find X และมีราคาถูกกว่าแต่ได้เทคโนโลยีที่ล้ำเหมือนกัน มาดูกันว่า สัมผัสแรกที่ทีม Sanook! Hitech จะเล่าถึงเครื่องนี้ที่ฟีเจอร์ต่างๆ มันจะลงตัวหรือไม่ มาดูกันเลย
รายละเอียดของ OPPO R17 Pro
- มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาด 6.4 นิ้ว มาพร้อมจอ AMOLED , ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9
- ขนาด 157.6 x 74.6 x 7.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 183 กรัม
- มาตรฐานกันน้ำ / กันฝุ่น : ไม่มีข้อมูล
- ระบบปฏิบัติการ :Android 8.1 (Oreo) + Color OS 5.2
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 710 Octa Core 2.2GHz + GPU Adreno 616
- หน่วยความจำแรม (RAM) 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) 128GB + Micro SD 256GB
- รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)
- กล้องด้านหลังให้มา 3 ตัวประกอบไปด้วย
- 12 MP, f/1.5-2.4, 26mm (wide), 1/2.55", 1.4µm, Dual Pixel PDAF, OIS
- 20 MP, f/2.6, AF
- TOF 3D stereo camera
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด f/2.0 Wide Lens
- การเชื่อมต่อ 4G LTE-A, Bluetooth V5.0, WiFi 802.11 AC
- แบตเตอรี่ความจุ 3700 mAh (Standard Battery)
- พอร์ตชาร์จ USB-C รองรับ Super VOOC
- ระบบความปลอดภัย สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ (Hidden Finger Printscan)+ สแกนใบหน้า 2D
- สี: Radish Mist, Emerald Green
- ราคา: 24,990 บาท
รูปร่างของ OPPO R17 Pro เมื่อเห็นครั้งแรก เป็นอย่างไร
เริ่มจากด้านหน้าของ OPPO R17 Pro มีการออกแบบทรงหยดน้ำที่กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล พร้อมกับเซนเซอร์และลำโพงตัวเครื่องที่มีความชัดเจนในด้านการออกแบบ นอกจากนี้ ยังเลือกใช้จอ AMOLED ความละเอียด 2340X1080 พิกเซล ถือว่าใหญ่และมีสัดส่วนที่ลงตัวกับมือถือสมัยนี้ที่เน้นพื้นที่จอมากขึ้น ทั้งหมดครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 6 ใหม่ล่าสุด
ด้านข้างออกแบบให้ปุ่มกดนั้นมีขนาดกลางแต่ตัวเครื่องออกแบบให้รับกับมือได้อย่างดีมาพร้อมกับฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียงมาให้
ทางด้านขวามีปุ่มเปิดเปิดเครื่องออกแบบได้สวยงาม
ส่วนบนของเครื่องปรับให้โค้งรับกับมือได้อย่างดี และมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนมาให้
ส่วนล่างเช่นเดียวกัน แต่จะมีการออกแบบให้มีช่องเสียบ USB-C และช่องใส่ Nano SIM แบบ 2 SIM + MicroSD ที่ถ้าดูดีๆ มันจะเหมือนกับ OPPO Find X เบาๆ แต่ R17 Pro จะบางกว่านิดนึง
ด้านหลังตัวเครื่อง มีกล้องหลัง 3 ตัวมาพร้อมกับ Flash อยู่ด้านล่วง ที่สวยงามและตั้งใจออกแบบกับวัสดุที่มีคุณภาพสูง
และมีสีให้เลือกคือ Radish Mist จะเป็น Two Tone แยกออกเป็นด้านข้างสีฟ้าและม่วงตัดกันสวยกำลังดี และอีกสีคือ Emerald Green ในแรกจับถือว่าชอบและลงตัวอย่างยิ่ง เห็นครั้งแรกก็ถูกใจและถือใช้งานไม่ได้หนักอะไรมาก
ฟีเจอร์เด็ดที่ได้ลองสัมผัสครั้งแรก
OPPO R17 Pro นั้นเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย Color OS 5.2 แตกต่างจากรุ่นก่อนที่ UI น่าใช่มากขึ้น ขนาดใหญ่กำลังดีกดง่ายและสามารถเปลี่ยน Theme ได้เช่นเคย
นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยของเครื่องให้ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ OPPO เรียกว่า Hidden Finger Print Scan และมี Face Scanner แบบ 2D เท่านั้น ยังไม่ล้ำเท่า Find X
ประสิทธิภาพของเครื่องนั้น จากที่สัมผัสสั้นๆ ถือว่าลื่นไหวเพราะใช้ Qualcomm Snapdragon 710, RAM 8GB, ความจำ 128GB รองรับการเชื่อมต่อได้เยอะเช่นการรับส่งสัญญาณ 802.11 AC, Bluetooth 5.0 และ 4G LTE ครบถ้วน
ถ้ามือถือมีประสิทธิภาพแบบนี้จะให้แบตฯน้อยไปก็ใชเล่น OPPO R17 Pro ให้แบตเตอรี่ขนาด 3700 mAh ที่มาพร้อมกับ Super VOOC ระบบชาร์จไฟเร็วที่สามารถเร่งกำลังไฟชาร์จ 10 นาทีได้ไฟกลับมา 40% ถือว่าเร็วมากอยู่
มาถึงเรื่องของกล้อง 3 ตัวด้านหลังบ้าง OPPO R17 Pro ให้กล้องทั้ง 3 ดังนี้
- 12 MP, f/1.5-2.4, 26mm (wide), 1/2.55", 1.4µm, Dual Pixel PDAF, OIS
- 20 MP, f/2.6, AF
- TOF 3D stereo camera
จุดเด่นของกล้องรุ่นนี้นอกจาก UI ที่ดูแล้วจะเข้าใจการใช้งานได้ดี แต่อาจจะต้องดูโหมดด้านล่าง ก็อาจจะต้องปรับตัวเล็กน้อย แต่มีการเลือก Scene ภาพที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้ในเรื่องของการถ่ายภาพกลางคืนที่ทั้ง 3 กล้องช่วยทำให้สภาพแสงที่ออกมาถือว่าสวยและไม่ Over เกินไป ส่วนสภาพอื่น OPPO R17 Pro ทำได้ดีครับ
กล้องหน้าของ OPPO R17 Pro ยังคงใช้บริการของกล้องความละเอียด 25 ล้านพิกเซล พร้อมกับ AI Beauty คราวนี้ผมมองว่า มันเริ่มสมจริงมากขึ้น และสามารปรับ Beauty ได้เองแบบระดับที่เรียกว่า ละเอียดมากเลยทีเดียว และมีโหมดสติ๊กเกอร์ให้
สรุปหลังลองใช้ OPPO R17 Pro ในระยะเวลาสั้นๆ
ระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็คงยังบอกอะไรกับมือถือรุ่นนี้ไม่ได้มาก นอกจากมันสวยและดูดีลงตัวออกแบบได้สมดุลมีกล้องหลังที่เรียกได้ว่าตีคู่แข่งได้สบายแบบนี้ ราคาขายเคาะที่ 24,990 บาท เรียกได้ว่าตั้งใจเอามาชนกับ Huawei Mate 20 รุ่นธรรมดาเลยก็ว่าได้ แต่ว่า OPPO นั้นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและรุ่นนี้ผมเห็นความตั้งใจของทีมที่พยายามใส่เทคโนโลยีให้ไม่ดูน่าเบื่อ
โดยมือถือรุ่นนี้เปิดจองในวันที่ 17 – 30 พฤศจิกายน มาพร้อมกับ VIP Card การปรับประกันตัวเครื่องที่ยาวและประกันหน้าจอแตก พร้อมกับขาตั้งกล่งที่มีจำนวนจำกัด รวมถึงกับผูกสัญญากับผู้ให้บริการ ซึ่งทำให้เครื่องลดราคาเหลือ 9,990 บาท รายละเอียดคาดว่าจะพบกันเร็วๆ นี้
สำหรับรีวิวของ OPPO R17 Pro นั้นจะดีแค่ไหน และน่าใช้หรือไม่ ติดตามที่ Sanook! Hitech เร็วๆ นี้ครับ
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ