รีวิว “Nokia 5.1 Plus” น้องรองที่จะมาครองตำแหน่ง Gaming Smart Phone ค่าตัวไม่แพง
กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จาก Sanook! Hitech กันอีกครั้ง คราวนี้ทีมจะพาคุณไปพบกับมือถือจากเมืองฟินแลนด์อย่าง Nokia 5.1 Plus ที่ราคาไม่ได้แพงมากแต่ก็มีความสามารถที่น่าสนใจ เรามาดูกันว่ามือถือรุ่นนี้จะตอบโจทย์ลงตัวกับการใช้แค่ได้มากน้อยแค่ไหน
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Nokia 5.1 Plus
เริ่มจากหน้าจอของ Nokia 5.1 Plus มีขนาด 5.86 นิ้วถือว่าไม่เล็กและไม่ใหญ่ เสียงดายแค่ติ่งค่อนข้างกว้างไปสักหน่อย นอกจากนี้ความละเอียดหน้าจอยังมีให้ที่ 1520x720 พิกเซล แบบ IPS LCD ให้ความสวยงามและไม่น่าเกลียดแต่อย่างใด ด้านการทัชสกรีน ค่อนข้างเร็วและไวพอสมควร
ขอบหน้าจอด้านบนมีติ่งอย่างที่บอกไปข้างในมีเซนเซอร์ต่างๆ , กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ลำโพงสำหรับสนทนาและมีติ่งแสดงสถานะและเวลาของเครื่องที่ครบถ้วน เสียดายที่ติ่งปิดไม่ได้
ส่วนขอบหน้าจอได้ล่างมาพร้อมกับปุ่มกดที่ควบคุมการทำงานของเครื่องมีทั้ง Back, Home, Recent ที่สามารถเรียกโปรแกรมที่เปิดมาแล้ว แต่ว่า ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่สามารถแสดงผลได้เต็มหน้าจอได้ และมีโลโก้ Nokia อยู่ล่าสุด
รอบข้างทั้งหมดใช้วัสดุแบบ Glossy ที่ลื่นและดูแพง แต่จะแอบหน้าไปสักหน่อย เริ่มต้นกับด้านขวามีปุ่มเปิดปิดเครื่องและปุ่มปรับระดับเสียงที่มีความยาวมพอสมควร
ด้านซ้ายมีช่องใส่ซิมที่เป็นแบบ Nano SIM 1 ช่องและอีกช่องเป็นแบบ Hybrid Slot สลับได้ทั้ง MicroSD และ Nano SIM ใบที่ 2
ส่วนบนของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังพร้อมกับไมโครโฟน ตัวที่ 2 ตัดเสียงรบกวนที่ทำให้เสียงออกมาดีเยี่ยม
ส่วนล่างของเครื่องมีไมโครโฟนตัวเครื่อง, ลำโพงตัวเครื่องสำหรับฟังเสียงและสุดท้ายกับ USB-C ที่มีมาให้กับมือถือไม่เกิน 8,000 บาทเครื่องแรก เป็นสิ่งที่ดีงามที่สุดของเครื่อง
ด้านหลังออกแบบเป็นผิวมันเงาและครอบด้วยกระจกมีโลโก้ Nokia ไว้กลางเครื่อง มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซลและมาพร้อมกับ LED Flash และระบบสแกนลายนิ้วด้านหลังที่แอบเรียบไปสักหน่อย
น้ำหนัก / ฟีลลิ่งการถือ / สีสันที่เข้าจำหน่าย
เมื่อเทียบรูปร่างที่ไม่ได้แตกต่างอะไรจาก Nokia 6.1 Plus แต่ว่าน้ำหนักของเครื่องเบามากที่ 160 กรัม เวลาถือก็ถือว่าเบาและน่าสนใจเลยทีเดียว แต่ว่าความลื่นอาจจะมากไปหน่อยแนะนำว่าใส่เคสดีกว่า และมีให้เลือก 3 สีตอนแรกนี้จะมีสีน้ำเงินและดำ อนาคต สีขาวจะตามมา
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ Nokia 5.1 Plus
เมื่อเปิดเครื่อง Nokia 5.1 Plus มาแล้วก็มองถึงว่าเป็นมือถือในระบบปฏิบัติการ Android ทั่วไป แต่ก่อนที่จะลงรายละเอียดตรงนั้นเรามาดูมุมของสเปคเครื่องและประสิทธิภาพว่าจะเป็นอย่างไรดีกว่า
รายละเอียดของ Nokia 5.1 Plus
- มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาด 5.86 นิ้ว มาพร้อมจอ IPS LCD display, ความละเอียด 1520x720 พิกเซล อัตราส่วน 19:9
- ขนาด 149.5 x 72 x 8.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 160 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Android 8.1 Oreo พร้อมอัปเดตเป็น Android Pie
- หน่วยประมวลผล : MediaTEK Heilo P60 Octa Core 2.0 GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) 3GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM)32GB รองรับ Micro SD 400GB
- รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)
- กล้องด้านหลัง 2 ตัว
- กล้องตัวแรก มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด f/2.0, PDAF, LED Flash
- กล้องตัวที่ 2 มาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซลแบบ Depth Sensor - กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด f/2.2
- การเชื่อมต่อ 4G LTE, 3G, WiFi 802.11 AC, Bluetooth 4.2, GPS, A-GPS
- พอร์ตและช่องเสียบ : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ชาร์จ USB-C รองรับ Quick Charge จาก MediaTEK,
- แบตเตอรี่ความจุ 3,060 mAh (Standard Battery)
- ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วสแกนนิ้วมือด้านหลังเครื่อง
- สี: Gloss White, Gloss Midnight Black, Gloss Midnight Blue
- ราคา: 7,490 บาท
ทดสอบประสิทธิภาพ
จากการที่ได้นำมือถือ Nokia 5.1 Plus มาทดสอบกับ โปรแกรมวัดประสิทธิภาพอย่าง Antutu 7.1 พบว่าได้คะแนนประสิทธิภาพที่ 113,561 คะแนน ถือว่าเมื่อเทียบกับ CPU MediaTEK Heilo P60 ผมถือว่าทำผลงานได้ไม่เลวเลย
ส่วนอีกตัวหนึ่งคือ Geekbench 4 ยังเกิดความผิดพลาดอยู่จึงไม่สามารถทดสอบได้ แต่เมื่อนำมาลองเล่นเกมที่บอกว่าลื่นกับเกม Asphalt 9 Legend ถือว่าให้ความลื่นไหลที่ดีแต่ภาพอาจจะไม่ได้คมและสวยเท่า ผมว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
การเชื่อมต่อและการบอกตำแหน่ง
ในเรื่องของการเชื่อมต่อนอกจากช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 mm และ USB-C ที่ไม่น่าเชื่อว่ามือถือไม่เกิน 8,000 จะมีกับเขาแล้ว ยังมีเรื่องของการเชื่อมต่อ 4G LTE, WiFi 802.11 AC, Bluetooth 4.2 ด้วยกัน และการนำทางด้วย GPS ถือว่าดีเลย แต่ถ้าในเมืองอาจจะมีอาการช้านิดหน่อย แต่ไม่สาหัสอะไรนะ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ และระบบความปลอดภัย
ขึ้นชื่อว่า Nokia ก็คงต้องพูดถึง Android One เพราะมันใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo แต่ว่าเมื่อเป็น Android One ก็จะได้เปรียบเรื่องการอัปเกรดที่สามารถไปได้อย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ยังได้ Patch ความปลอดภัยก็มีให้อัปเดตด้วยกันเลยล่ะ
ฟีเจอร์ของเครื่องก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่ระบบ Mobile Care คู่มือการดูแลเกี่ยวกับตัวเครื่อง, วิทยุ FM, Apps จาก Google ที่บางตัวต้องโหลดเพิ่ม, เครื่องติดเลข แต่ไม่มีระบบอัดเสียงและสมุด Note ที่ต้องโหลด Google Keep เพิ่มนะ
ระบบความปลอดภัยยังคงให้ระบบสแกนลายนิ้วมือเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่สามารถปลดล็อคและซ่อนการเข้าเมนูสำคัญได้
ระบบการแสดงผลภาพ และ ระบบเสียง
หน้าจอของ Nokia 5.1 Plus มีขนาดหน้าจอ 5.86 นิ้วความละเอียด HD+ หรือ 1520x720 พิกเซล แม้ว่าความละเอียดจะน้อยแต่การแสดงผลทั้งดูหนังและการทำงานปกติถือว่า สอบผ่านแล้ว คมชัดและมองทุกอย่างได้อย่างดี
ส่วนระบบเสียงนั้นไม่ได้ให้ตัวปรับอะไรมาให้แต่คุณภาพเสียงถือว่าลงตัวและเหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างดี คนที่ฟังเพลงไม่ได้คิดอะไรมาก นี่ก็เหมาะสมกับการใช้งานประจำวันแล้วครับ
เปิดกล้องลองประสิทธิภาพ
สำหรับกล้องของ Nokia 5.1 Plus ให้กล้องคู่ด้านหลังมาด้วยกัน และมาพร้อมกับ Interface กล้องที่ดูดีมาก โดยสเปคของกล้องหลังมีดังนี้
- กล้องหลังตัวหลัก 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับรูรับแสง 0, PDAF, LED Flash
- กล้องหลังตัวที่ 2 ขนาด 5 ล้านพิกเซล เป็น Depth Sensor
เท่ากับกล้องหลังของ Nokia 5.1 Plus ดูธรรมดามาก แต่เมื่อเปิดมาดูเมนูต่างๆ ก็ถือว่าให้มากำลังดีมีทั้งการละลายหลัง และการถ่ายภาพในหลากหลายรูปแบบรวมถึงการทำ Panorama ได้ด้วย เรียกได้ว่าครบครัน
Bothie เปิดกล้องหน้าหลังถ่ายภาพพร้อมกับ
จุดเด่นของ Nokia ระยะหลังมานี้คือการเปิดกล้องหน้าและหลังถ่ายภาพได้พร้อมกันโดยสามารถเลือกให้เป็นอัตราส่วนเท่ากัน หรือจะเป็นกรอบเล็กก็ได้ นอกจากที่จะถ่ายภาพและวิดีโอได้ ยังสามารถ Live ทั้ง Facebook, YouTube ได้อีกด้วยถือว่าเพิ่มความสะดวกสำหรับคนที่อยากถ่ายภาพ พร้อมกันทั้ง 2 กล้องเพื่อดูบรรยากาศ
การถ่ายภาพระยะใกล้ / อาหาร
การถ่ายใกล้ระบบโฟกัสค่อนข้างใช้เวลานิดหน่อยแต่ไม่ได้นานนัก สีที่ได้ถือว่าลงตัวและสวยงามกำลังดี และสามารถละลายหลังได้ลงตัวมากด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนภาพอาหารสีสันอาจจะไม่ได้สดมากแต่ก็มีตัวปรับทำให้สีของภาพนั้นดูดีขึ้น
การถ่ายภาพกลางคืน
ถึงแม้รูรับแสงจะไม่ได้มากอะไรนักการถ่ายภาพกลางคืนก็ยังทำออกมาได้สวย แต่ก็อาจจะมีสิ่งรบกวนหรือ Noise บ้าง แต่ถ้ามองถึงราคาผมว่ารับได้
การถ่ายวิดีโอของ Nokia 5.1 Plus ดีไหม
การถ่ายวิดีโอของ Nokia 5.1 Plus รองรับได้ที่ 4K 30 FPS เลยทีเดียวแต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ใส่ระบบกันสั่นมาให้ และยังรองรับการถ่ายวิดีโอได้หลากหลายและรวมถึงการถ่ายแบบ Bothie ก็ได้เช่นเดียวกัน
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เพียงพอไหม
มาพูดถึงกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่จัดว่ารับได้สบายมากและมี Beauty Mode ปรับหน้าใสและสวยได้แต่ว่า มันอาจจะยังไม่งามเท่ากับมือถือที่เน้นการถ่ายภาพกล้องหน้าได้ แต่เมื่อนำลง Social ก็ถือว่าใช้งานได้อย่างดี
แบตเตอรี่และการใช้งานในชีวิตประจำวัน
จากที่ได้ทดลองทั้งการเล่นเกม, ดู YouTube สลับกับการโทรออกบ้าง พบว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ทั้งวันได้เลย ส่วนการทดสอบอีกรูปแบบคือใช้โปรแกรม PC Mark พบว่าแบตเตอรี่อยู่ได้เกือบ 9 ชั่วโมง ถือว่ารับได้ แต่ไม่ถึงกับทนมากนักเพราะแบตเตอรี่ให้มาแค่ 3060 mAh เท่านั้น
ส่วนเรื่องระบบชาร์จไฟด่วนนั้นเนื่องจากจะต้องใช้ที่ชาร์จรองรับเทคโนโลยีของ MediaTEK ก็อาจจะต้องทำใจว่าไม่ได้เร็วเท่า Qualcomm Quick Charge เท่าไหร่ แต่เมื่อลองกับของ Qualcomm Quick Charge ก็สามารถชาร์จไฟได้เร็วเหมือนกัน ทิ้งว่า 1:30 ชั่วโมงก็สามารถเต็มได้เมื่อไฟเหลือ 30%
สรุปหลังจากทีมงาน Sanook! Hitech ได้สัมผัส Nokia 5.1 Plus ในระยะเวลาหนึ่ง
สำหรับ Nokia 5.1 Plus ที่มีค่าตัวที่ 7,490 บาท ก็เป็นทางเลือกได้ดีสำหรับทั้งคู่ต้องการมือถือไว้ใจได้แต่ราคาไม่ขอแรงแบบ Nokia 6.1 Plus หรืออีกกลุ่มคือ Gaming Smart Phone ราคาไม่แพง เพราะรุ่นนี้ถือว่าเล่นเกมได้ดีแทบจะทุกตัว ยกเว้นความจำในตัวน้อยหน่อย
เมื่อต้องเจอกับคู่แข่งจากเมืองจีนก็คงต้องเลือกแล้วว่า จะขอเล็กและเบา วัสดุดีและมีชี่อเสียงที่โด่งดัง หรือ Brand จีน ถ้าสรุปปิดท้ายกับมือถือรุ่นนี้คือ เป็นมือถือที่ทำให้ CPU MediaTEK มีที่ยืนเพิ่มขึ้น และเลือกซื้อได้แบบไม่ต้องคิดมากเหมือนกับรุ่นพี่ของมันนั่นเอง
จุดเด่นของ Nokia 5.1 Plus
- ราคาถือว่ายังพอซื้อหาได้ง่าย
- ได้ใช้ Android One
- มี USB-C มาให้ในราคาถูก
- กล้องถ่ายภาพคุณภาพจัดว่าดี
- วัสดุดีเกินราคา
ข้อสังเกต
- ไม่กันน้ำเท่าไหร่
- ความจำในตัวน้อยไปหน่อย
- ความละเอียดหน้าจอยังไม่สูงพอ
- ระบบความปลอดภัยมีน้อย
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ