รีวิว "Fitbit Charge 3" สายรัดข้อมืออัจริยะที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่ง

เผยโฉมให้เห็นอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับ ฟิตบิท ชาร์จ 3 (Fitbit Charge 3) วิวัฒนาการล่าสุดในซีรีส์ Charge ที่พร้อมให้เราจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วในเมืองไทย และแน่นอนพวกเราทีมงาน Sanook! Hitech ไม่รอช้าที่จะนำ Fitbit Charge 3 มาทดลองใช้งานแล้วนำมาเล่นให้ฟังกัน

ฟิตบิท ชาร์จ 3 (Fitbit Charge 3)

>> สิ้นสุดการรอคอย "Fitbit Charge 3" พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก

สเปกคร่าวๆ ของ Fitbit Charge 3

• Fitbit Charge 3 มาพร้อมหน้าจอแบบ OLED ซึ่งรองรับ TouchScreen ครอบทับด้วยกระจกจอ Corning® Gorilla® Glass 3
• ตัวบอดี้ทำจากอะลูมิเนียมอย่างดีทำให้รู้สึกเบาสบายเมื่อสวมใส่
• มีระบบ Quick Reply ตอบกลับด้วยข้อความสั้นๆ (เฉพาะสมาร์ทโฟน Android เท่านั้น) และมีในรุ่นนี้เท่านั้น
• ใหม่ด้วย SpO2 sensor ที่ช่วยวัดออกซิเจนในเลือด
• สามารถเชื่อมต่อ GPS จากสมาร์ทโฟนเพื่อแสดงผลบนหน้าจอได้
• ใส่ว่ายน้ำได้(กันน้ำลึก 50 เมตร)
• มีโหมดฟิตเนสกว่า 15 ชนิดไม่ว่าจะเป็น วิ่ง,จักรยาน,ว่ายน้ำ พร้อมรับคำแนะนำแบบ Real-Time
• รองรับ NFC (เฉพาะรุ่นพิเศษที่มีระบบ Fitbit Pay)
• แบตเตอรี่อยู่ได้สูงสุด 7 วัน (ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ในเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม)
• รองรับระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
  
  

อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่อง

• ตัวเครื่อง Fitbit Charge 3
• ที่ชาร์จ Fitbit Charge 3 เป็นหัว USB
• ภายในกล่องมีสายให้เลือกเปลี่ยน 2 ขนาด (S & L)เป็นสายซิลิโคนสปร์อตสีขาว และ สายซิลิโคนคลาสสิคสีดำ

Fitbit Charge 3 กับตัวเครื่องและการดีไซน์

รอบนี้เราได้รุ่นพิเศษขอบตัวเรือนสีเทา-ดำ แกรไฟต สายเป็นซิลิโคนสปร์อตสีขาวมารีวิว แต่ในกล่องเขามีสายซิลิโคนคลาสสิคสีดำใส่มาให้ด้วย ใส่ไปนานๆ เบื่อสีขาวก็สามารถเปลียนสายสีดำออกมาใส่แทนได้

ฟิตบิท ชาร์จ 3 (Fitbit Charge 3)

ฟิตบิท ชาร์จ 3 (Fitbit Charge 3) มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทำให้ตัวเครื่องบางลงเพื่อการสวมใส่ที่สบายหรูและพรีเมียมมากขึ้น ตัวเรือนอะลูมิเนียมใช้เทคโนโลยีอากาศยานให้น้ำหนักเบา

โดยในรุ่นใหม่หน้าจอแสดงผลเป็นแบบขาวดำ OLED ทัชสกรีน, กระจก Gorilla® Glass  3 ทนทานต่อรอยขีดข่วน ป้องกันรอย และหน้าจอยังเป็นระบบสัมผัสสามารถปรับแสดงหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม ทำให้สบายตาเวลาดูหน้าปัด

ฟิตบิท ชาร์จ 3 (Fitbit Charge 3)

ฟิตบิท ชาร์จ 3 (Fitbit Charge 3)

ฟิตบิท ชาร์จ 3 (Fitbit Charge 3)

อย่างที่บอกไปแล้วว่า Fitbit Charge 3 รุ่นใหม่ตัวเครื่องทุกด้านจะไม่มีปุ่มอะไรอีกแล้ว การสั่งงานเน้นเป็นระบบสัมผัสทั้งการทัชสกรีนที่หน้าจอและด้านข้างตัวเครื่อง และเป็นครั้งแรกที่จะมาพร้อมกับปุ่มเหนี่ยวนำ (inductive button) ให้สัมผัสไว เสริมด้วยฟีเจอร์ในตัวเครื่องที่ใช้งานง่ายและตอบสนองดีขึ้น เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

บริเวณใต้ตัวเรือนจะพบกับเซนเซอร์วัดชีพจร (Optical Heart-Rate) และพอร์ตสำหรับชาร์จไฟ

การปลี่ยนสายก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ปรับเปลี่ยนสายได้ตามความต้องการ

ระบบล็อกของสาย Fitbit Charge 3

Fitbit Charge 3 มาพร้อมคุณสมบัติการกันน้ำลึก 50 เมตร สามารถสวมใส่ลงว่ายน้ำได้เลย

การเชื่อมต่อก็สามารถทำได้ง่าย เปิดเครื่องทดลองใช้งาน Fitbit Charge 3 เบื้องต้น

• โหลดโปรแกรม Fitbit สามารถใช้งานได้ทั้งเวอร์ชั่น Windows, iOS, Android 
• เมื่อโหลดเรียบร้อยให้เปิดเครื่องและเชื่อมต่อ Bluetooth แนะนำว่าก่อนทำขั้นตอนนี้ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อน
• เมื่อมือถือกับ Fitbit ได้เจอกันแล้ว ให้เชื่อมต่อกับ WiFi หากเป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้การโอนข้อมูลบางอย่างทำได้เร็วขึ้นเช่นการปรับหน้าฟังเพลง

• เครื่องสามารถอัปเดท Firmware สำหรับปรับปรุงความสามารถหรือแก้ปัญหาทีส่งมาเพื่อแก้ไขได้

การเชื่อมต่อกับมือถือขึ้นต้นทำไม่ยาก ทำตามขั้นตอนที่แนะนำไปเรื่อยๆ ก็เสร็จ สำหรับคนที่เคยใช้ Fitbit ถือว่าง่าย แต่ถ้าไม่คุ้นเคยอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย หลังจากทำการเชื่อมต่อเสร็จ เราสามารถเล่นผ่านตัวเครื่อง Fitbit Versa ได้เลย โดยเบื้องต้นฟังก์ชันพื้นฐานยังมีมาให้อย่างครบครัน

ตัวอย่างการทำงานผ่านแอปพลิเคชั่น ซึ่งเราสามารถดูค่าต่างๆ ผ่าน App จะดูได้ละเอียดกว่า

อัดแน่นด้วยสมาร์ทฟีเจอร์เพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายครบครัน

ประสบการณ์ด้านสุขภาพและฟิตเนสที่เหนือกว่า ฟิตบิท ชาร์จ 3 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดการเต้นหัวใจที่ทันสมัยที่สุดของฟิตบิท (PurePulse®) เซ็นเซอร์ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ (Relative SpO2 sensor) โหมดออกกำลังกายที่มีให้เลือกมากกว่า 15 โหมด สามารถใส่ว่ายน้ำได้iv แดชบอร์ดข้อมูลสุขภาพ

การติดตามสุขภาพสำหรับสุภาพสตรี ฟังก์ชั่นติดตามการนอนในช่วงต่าง ๆ พร้อมข้อมูลวิเคราะห์ และประสบการณ์อื่น ๆ อีกมากมาย

ฟิตเนสแทรคเกอร์ที่ฉลาดที่สุดของฟิตบิท ไม่พลาดการติดต่อและไม่โดนรบกวน ด้วยฟีเจอร์ทันสมัยที่จำเป็นในยุคดิจิทัล เช่น การแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้มากขึ้น โหมดตอบกลับเร็ว (Quick Replies) สำหรับโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ (เปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้) แอปฯ ที่ใช้สะดวกสำหรับทุกวัน และระบบการชำระเงิน ”ฟิตบิท เพย์” ตรงจากข้อมือใช้งานง่ายและปลอดภัย

พร้อมทั้งแบตเตอรีที่ใช้ได้นานถึง 7 วัน

สรุปผลหลังการทดลองใช้งาน Fitbit Charge 3

ส่วนตัวอย่างแรกที่ชอบมากๆ คงเป็นในเรื่องของการดีไซน์ตัวเครื่องที่ออกแบบมาได้เรียบง่ายแต่ดูหรูหรา อีกทั้งนำหนักยังเบาพอได้ใส่แล้วมันรู้สึกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อมือเรียกว่าเกาะติดข้อมือแบบที่ไม่รู้สึกรำคาญ

อีกเรื่องคงเป็นความสามารถพิเศษของ Charge 3 ที่มันสามารถติดตามสุขภาพสำหรับผู้หญิง (Female health) ไม่ว่าจะเป็นการติดตามรอบเดือนและอาการต่างๆ ของเราได้ฟังก์ชันนี้เหมาะมากสำหรับสาวๆ ที่รอบเดือนมาไม่ปกติหรือมาไม่ตรงเวลา

และแน่นอนอีกจุดขายของมันคือไม่ต้องชาร์จแบตบ่อยๆ นั้นเองเพราะแบตเตอรีสามารถอยู่ได้นานถึง 7 วันต่อการชาร์จไฟในแต่ละครั้ง ส่วนตัวชอบจุดนี้สุดๆ เพราะคงไม่มีใครอยากชาร์จทุกวันแน่ๆ เรียกได้ว่า Fitbit Charge 3 เป็นอีกอุปกรณ์เสริมสำหรับคนรักสุขภาพอีกรุ่นที่ถือว่าราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่มี

...แต่เสียดดายที่มันยังคงไม่รองรับภาษาไทยอยู่เหมือนเดิม จะอยากหน่อยหากมีข้อความหรือแจ้งเตือนเป็นภาษาไทยเข้ามาเพราะมันจะกลายเป็นภาษาต่างดาวในทันที แต่ถ้าใครใช้งานฟังก์ชันภาษาอังกฤษอยู่แล้วก็ถือว่าสบามากครับ เราคงต้องรอต่อไปว่าเมื่อไร Fitbit จะยัดภาษาไทยลงไปให้

ราคาและการวางจำหน่าย

ฟิตบิท ชาร์จ 3 พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา 6,490 บาท ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วไปเช่น บีทูเอส ร้าน.Life คิงพาวเวอร์ พาวเวอร์บาย วีมาร์ท และลาซาด้า มีจำหน่ายทั้งแบบสีดำพร้อมกรอบอะลูมีเนียมกราไฟต์ หรือสีบลูเกรย์พร้อมกรอบอะลูมิเนียมสีชมพูโรสโกลด์ อุปกรณ์เสริมราคาระหว่าง 990-1,890 บาท และรุ่น Special Edition ในราคา 6,990 บาท

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Charge 3 ได้ที่ www.fitbit.com/charge3