รีวิว “Wiko View 2 Plus” มือถือรุ่นใหม่ค่าตัว 4,990 บาท ก็มีลูกเล่นครบและแบตฯอึดคือจุดขาย
กลับมาพบกับรีวิวมือถือและ Gadget จากทีม Sanook! Hitech อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เราจะพาคุณไปพบกับมือถือจากฝรั่งเศสที่เดินทางมาแสนไกลแต่เน้นเรื่องของความคุ้มค่าเป็นหลักอย่าง Wiko View 2 Plus ซึ่งมีค่าตัวไม่แพงมาก แต่ก็ให้ฟีเจอร์ครบและบางสิ่งเกินคาดไว้ จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
เปิดกล่อง Wiko View 2 Plus ให้อะไรบ้าง
สำหรับภายในกล่องของ Wiko View 2 Plus ประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น
- ตัวเครื่อง Wiko View Plus
- ฟิล์มกันรอย
- เคสใส
- ที่จิ้มซิมพร้อมซองใส่อย่างดี
- คู่มือ + ใบรับประกัน
- หูฟัง
- Adapter
- สายชาร์จ Micro USB
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Wiko View 2 Plus
เริ่มต้นกับหน้าจอของ Wiko View 2 Plus จะมีขนาด 5.93 นิ้วที่หลายคนบอกว่าทำไมไม่ปัดเป็น 6 นิ้วเพราะว่ามีรอยบากข้างบนที่ขนาดกำลังดีไม่ได้ใหญ่อลังการอะไร เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ ที่คมชัดและรองรับ Touch Screen ได้ดีเหมือนกัน
ด้านบนสุดของหน้าจอมีกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซลและลำโพงสนทนา แถมด้วยเซนเซอร์ครบครัน แต่หลายคนอยากปิดติ่งข่าวร้ายคือ ไม่สามารถทำได้
ด้านล่างสุดของหน้าจอเป็นปุ่มในหน้าจอไว้ควบคุมกับการทำงานของเครื่อง และสามารถซ่อนได้เมื่อมีการใช้งานวิดีโอหรือการเล่นเกมก็ได้เช่นเดียวกัน
รอบตัวเครื่องจะมีการออกแบบด้วยพลาสติกที่มีความหนาขึ้นกว่าในกลุ่มเล็กน้อยทำให้ตัวเครื่องจับได้ถนัดมืออย่างดีเลยทีเดียว โดยฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิมแบบ 3 Slot ไม่ต้องแยกระหว่าง Nano SIM ทั้ง 2 SIM และ Micro SD สามารถใส่พร้อมกันได้เลย
ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียง ถัดลงมาคือเปิดปิด และ Standby เครื่องที่กดได้กำลังดีไม่ได้ติดขัดว่ามันเล็กหรือใหญ่เกินไป
ส่วนบนของเครื่องโชว์สีสันแบบเรียบพร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนที่วางตำแหน่งให้เหมาะสม และมีชอบเสียบหูฟังมาให้
ส่วนล่างของเครื่อง มาพร้อมกับสีแบบเงาสะท้อนแสงได้ดี มาพร้อมกับไมโครโฟนและช่องเสียบ Micro USB อยู่มุมขวาสุด ทำให้มองว่าไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่
พลิกมาที่หลังเครื่องสวยงามเพราะสีที่ได้มารีวิวเรียกว่า Super Nova มันเป็น Two Tone ที่ออกแบบได้อย่างดี พร้อมกับโลโก้ Wiko, ระบบสแกนลายนิ้วมือ, และมีกล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash ด้านซ้ายมุมบน ล่างสุดมีลำโพงตัวเครื่อง
น้ำหนัก / ฟิลลิ่งการถือ / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย
สำหรับตัวเครื่องของ Wiko View 2 Plus จับได้ถนัดมือใช้งานได้ดีเหมือนกัน เพราะตัวเครื่องออกแบบได้รับกับมือดี น้ำหนักของเครื่องกลับไม่มากอย่างที่คิด ถือได้ง่ายมากขึ้น สำหรับ สีของเครื่องนั้น มีความสวยงามมากโดยเฉพาะ Super Nova ที่ได้รีวิวนี้ แต่ถ้าไม่ชอบก็จะมีสีดำให้เลือกเป็นอีกทางหนึ่ง
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ Wiko View 2 Plus
ก่อนที่เราจะมารู้เรื่องประสิทธิภาพและลูกเล่นทั้งหมด Wiko View 2 Plus มีสเปคเครื่องที่น่าสนใจประกอบไปด้วยดังนี้
รายละเอียดของ Wiko View 2 Plus
- มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาด 5.93 นิ้ว มาพร้อมจอ IPS LCD display, ความละเอียด 1512x720 พิกเซล อัตตราส่วน 19:9
- ขนาด 153.4 x 73.2 x 8.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 166 กรัม
- มาตรฐานกันน้ำ / กันฝุ่น : ไม่รองรับ
- ระบบปฏิบัติการ : Android 8.1 (Oreo) Stock ROM
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 450 Octa Core 1.8GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) 32GB รองรับ Micro SD Card สูงสุดที่ 256GB
- รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM) แยกถาด
- กล้องด้านหลังคู่มาพร้อมกับรายละเอียดดังนี้
- 12 MP, 1/2.9", 1.25μm, PDAF
- 12 MP, 1/2.9", 1.25μm, PDAF
- LED Flash
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- พอร์ตเสียบ : ชาร์จ Micro USB, ช่องเสียบหูฟัง
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11N, Bluetooth 4.2, OTG, GPS
- Sensor : Accelerometer, Magnetic sensor, Gyroscope, Proximity sensor
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh (Standard Battery)
- ระบบความปลอดภัย : ระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D + สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง
- สี: Anthracite, Gold, Supernova
- ราคา: 4,990 บาท
การทดสอบประสิทธิภาพ / การลองเล่นเกม
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของ Wiko View 2 Plus ด้วย Antutu ถือว่าทำได้ดีด้วยคะแนน 71321 คะแนน ถือว่าทำได้ดีสำหรับมือถือในระดับนี้
ถัดมาอีกการทดสอบผ่าน Geekbench 4 ผลออกมาคือ Single Core = 758 และ Multi Core 3789 ถือว่าไม่เลวร้ายกับมือถือราคานี้
และเมื่อเล่นเกมผ่าน Asphalt 9 Legend แม้ว่าภาพพอใช้ได้แต่ไม่ได้สวยมากมายเท่าไหร่ แต่ก็เป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่เล่นเกมได้ดีเหมือนกันเลยครับ
การเชื่อมต่อและทดสอบ GPS ของเครื่อง
การเชื่อมต่อมีครบทั้ง WiFi มาตรฐาน N แต่ว่าเป็นแบบ Single Band ที่มองว่าลดสเปคไปหน่อยแต่ในกลุ่มมือถือไม่เกิน 5,000 ก็ไม่มีใครให้เยอะกว่านี้รวมถึง Bluetooth 4.2 เช่นกัน การทดสอบนำทางถือว่าทำได้ดีและคล่องตัวไม่มีการแกว่งเท่าไหร่
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ระบบความปลอดภัย
สำหรับ Wiko View 2 Plus เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo แบบ Stock ROM ซึ่งไม่มีการตกแต่งอะไรมากนัก เน้นเรื่องการใช้งานที่ดีประสบการณ์ลื่นไหลมากกว่า
ในเรื่องของของเล่นในเครื่องมีให้ครบทั้ง Apps จาก Google, วิทยุ FM, และมีโปรแกรมอื่นๆ ครบเครื่องรวมถึงระบบความปลอดภัยที่ให้ทั้งระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D และ สแกนลายนิ้วมือที่ได้ลองแล้วทำงานได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
การแสดงผลภาพและระบบเสียง
ด้วยหน้าจอความละเอียด HD+ อาจจะไม่ได้หวังเรื่องความคมชัดมากนัก แต่จากที่ได้ลองดูทั้งนำไปเล่นเกมและเปิด YouTube พบว่าการทำงานของจอให้ผลที่ดีคมชัดพอสมควร
ระบบเสียงถือว่าดีแม้ว่าลำโพงจะวางตำแหน่งผิดไปหน่อยคืออยู่ด้านหลังของเครื่อง เพราะถ้าวางกับพื้นโดยไม่มีเคส เสียงจะเบาไป
เปิดกล้องลองประสิทธิภาพ
สำหรับกล้องหลังของ Wiko View 2 Plus ให้กล้องคู่มีขนาดเท่ากันคือ 12 ล้านพิกเซลพร้อมกับ PDAF และรองรับการถ่ายภาพกลางคืนได้ดี
ฟีเจอร์การทำงานของกล้อง
สำหรับ User Interface ของกล้อง Wiko View 2 Plus ไม่ได้ดึงของ Android มาใช้งาน แต่ก็มีลูกเล่นทั้งสามารถเลือกถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังละลายได้, เลือกถ่ายภาพปกติได้, ใส่ Effect ก็ได้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดใช้ปัดเลื่อนไปเลื่อนมาอย่างง่ายดาย
สำหรับคุณภาพในการถ่ายภาพกลางวันและใน Hall ต่างๆ ถือว่าใช้ได้และมีคุณภาพที่ดีเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่คุณภาพกล้องไม่ใช่ปัญหา
การถ่ายภาพกลางคืน
ในที่แสงน้อยเนื่องจากรูรับแสงของ Wiko View 2 Plus ค่อนข้างกว้างทำให้ภาพกลางคืนออกมาดูดีไม่เบา
การถ่ายภาพอาหาร / ระยะใกล้ / บุคคล
โหมดการถ่ายภาพอาหาร และระยะใกล้ของ Wiko View 2 Plus ไม่ได้ติดตั้งให้มา แต่เมื่อทดลองถ่ายภาพก็สามารถทำผลงานได้ดีระดับหนึ่ง ส่วนการถ่ายภาพบบุคคลด้วยกล้องหลัง ถือว่าละลายหลังได้ไม่เลวเลยทีเดียว
การถ่ายวิดีโอด้วย Wiko View 2 Plus เป็นอย่างไร
ออกตัวก่อนว่า Wiko View 2 Plus รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1080P 60FPS แซงหน้าคู่แข่งไปไกลพอสมควร และมีระบบ EIS ป้องกันภาพสั่นไหวได้ดีระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะเอาให้นิ่งต้องประคองเครื่องดีๆ หรือ Gimball ช่วยคุณได้
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซลของ Wiko View 2 Plus เป็นอย่างไร
สำหรับกล้องหน้าของ Wiko View 2 Plus จะมีลูกเล่นทั้งละลายหลัง, Beauty ปรับระดับใบหน้าของคุณและรวมไปถึงฟีเจอร์ใส่สติ๊กเกอร์มาให้นั่นเอง
แบตเตอรี่และการชาร์จไฟ
Wiko View 2 Plus ให้แบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh ถือว่าใหญ่พอสมควรเป็นรองแค่ Realme C1 ที่รีวิวก่อนหน้านี้ แต่มีจุดเด่นในเรื่องการใช้งาน หากไม่ได้เล่นเกม หรือใช้งานหนัก 2 วันได้สบายๆ แต่ถ้านำทาง เล่นเกม และทำอย่างอื่นจะอยู่ได้ 1 วันกว่าๆ โดยผลทดสอบจาก PC Mark แบตเตอรี่สามารถรันตั้งแต่ 100 – 19% ได้นานถึง 13:55 ชั่วโมง
แต่เนื่องจากตัวเครื่องไม่ได้รองรับระบบ Quick Charge ใดๆ ทำให้กว่าจะได้ไฟที่เต็มต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หากแบตฯ เหลือน้อยเท่านั้นเอง
สรุปหลังจากทีมงาน Sanook! Hitech ได้สัมผัส Wiko View 2 Plus ในระยะเวลาหนึ่ง
สำหรับมือถือในงบประมาณ 4,990 บาท อาจจะไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายนัก แต่สำหรับ Wiko View 2 Plus เป็นมือถืออีกรุ่นที่น่าใช่เพราะครบเครื่อง ทั้งกล้องก็ดี การทำงานถือว่าลงตัวและภาพคมชัดอีกด้วย การหาซื้อไม่ได้ยากและ Wiko มีจุดเด่นเรื่องของบริการหลังการขายที่ดีมาก
สำหรับคนที่อยากได้มือถือดีงบไม่แพงมากนัก วีโก เป็นอีกชื่อที่คุณคิดถึงได้ไม่ยาก ฉะนั้นแล้ว ลองดูว่ามือถือจากฝรั่งเศสที่สวยและไม่ต้องจ่ายแพงนั่นเอง
จุดเด่น
- หน้าจอคมชัดมาก
- สเปคเครื่องรองรับทุกสถานการณ์
- แบตฯอึดมาก
- กล้องถ่ายภาพได้ดีเหมือนกัน
- ราคาเครื่องไม่แพงอย่างที่คิด
ข้อสังเกต
- ช่องเสียบ Micro USB วางผิดตำแหน่งไม่เหมาะกับการใช้นำทาง
- WiFi มาตรฐานเก่าไปหน่อย
- ไม่รองรับ Quick Charge
อัลบั้มภาพ 23 ภาพ