รีวิว "Xiaomi Mi 8 Lite" มือถือรองท็อปสีสดใส ค่าตัวไม่เกินหมื่น ขายออนไลน์เท่านั้น
กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จากทีม Sanook! Hitech อีกครั้งหนึ่ง สำหรับครั้งนี้เราจะมาทำความรู้จักและลองใช้งานกับ Xiaomi Mi 8 Lite มือถือรุ่นเล็กราคาไม่แพงแต่ความสามารถมาเต็ม ด้วยราคาที่คุ้มค่าที่สุดในบรรดาทั้ง 3 รุ่นของ Xiaomi Mi 8 Series จะมีดีอะไรบ้าง มาดูกันดีกว่า
หมายเหตุ: สำหรับรุ่นที่ทีมงานได้มารีวิวเป็น Xiaomi Mi 8 Lite รุุ่น Ram 4GB และ Rom 64GB ราคา 7,990 บาท แต่ Xiaomi Mi 8 Lite ยังมีอีกรุ่น Ram 6GB และ Rom 128GB ราคา 9,990 บาท
แกะกล่อง Xiaomi Mi 8 Lite
เช่นเคยครับเมื่อเขาส่งมาทั้งกล่องมามาดูกันว่า Xiaomi Mi 8 Lite มีอะไรอยู่ข้างในบ้าง มาดูกัน
- ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 8 Lite
- เคสใส่ป้องกันเครื่อง แบบใส
- สาย USB-C
- ปลั๊กชาร์จไฟ
- คู่มือ
- ที่จิ้มซิมการ์ด
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Xiaomi Redmi Mi 8 Lite
สำหรับมือถือ Xiaomi Mi 8 Lite มีขนาดหน้าจอใหญ่เหมือนกัน 6.26 นิ้วเท่ากับ Xiaomi Redmi Note 6 Pro ที่ได้ลองไปก่อนหน้านี้ และความละเอียดก็ยังพอกันคือ 2280x1080 เช่นเดียวกันรองรับมัลติทัช 10 จุดและสีสันของจอถือว่าสวยงามและสดใสอย่างมากเลยครับ
ด้านบนของเครื่องยังคงมี Notch หรือรอยบากที่เล็กลงจาก Redmi Note 6 Pro พอสมควร มาพร้อมกับกล้องหน้าเพียงตัวเดียวด้านบน, ลำโพงตัวเครื่องพร้อมกับไฟแจ้งเตือนใน Notch แถมยังสามารถปิดรอยบากได้โดยเข้าไปที่ Setting > Display > Hidden Notch
ส่วนขอบจอด้านล่างมาพร้อมกับปุ่มกดควบคุมระบบปฏิบัติการ Android ที่น่าสนใจเลย ประกอบไปด้วย Recent, Home และ Back เช่นเดียวกัน
ขอบข้างตัวเครื่องเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องซึ่งที่เห็นเป็นสีน้ำเงินเพียงอย่างเดียว ประกอบไปด้วยฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM และอีกช่องเป็แบบ Hybird Slot สลับได้ทั้ง Nano SIM หรือ Micro SD ก็ได้
ฝั่งขวาของเครื่องมาพร้อมกับปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง และ ปุ่มปรับระดับเสียง สีเดียวกับตัวเครื่อง
ด้านบนของเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนพร้อมกับเส้นของเสาอากาศ ที่มีความชัดเจน
ด้านล่างมาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่อง, ไมโครโฟนที่ใช้สนทนาและมีช่องเสียบ USB-C
พลิกมาที่ด้านหลังเครื่องมาพร้อมกับกล้องหลังคู่ที่อยู่ด้านบนซ้ายมาพร้อมกับความละเอียด 12 + 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับ LED Flash ปรับเป็นแบบแนวตั้งพร้อมกับกระบบสแกนลายนิ้วมืออยู่กลางเครื่องพร้อมกับ สีสันของเครื่องที่ได้รีวิวเป็นแบบ Two Tone
น้ำหนัก / ฟิลลิ่งการถือ / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย
จากที่ได้ลองสัมผัสแม้ว่ารายละเอียดจะเหมือนกับ Xiaomi Redmi Note 6 Pro แต่ว่าจะมีน้ำหนักเครื่องที่เบาและจับได้ดีกว่าที่คิด แต่อาจจะลื่นไปหน่อยแนะนำว่าใส่เคสจะช่วยได้
และสีสันของเครื่องมีให้เลือก 2 สีคือ ดำ และ Aurora Blue แบบ 2 สีในเครื่องเดียว
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ Xiaomi Mi 8 Lite
ก่อนที่เราจะเปิดเครื่องเรามาดูรายละเอียดสเปคของ Xiaomi Mi 8 Lite ว่าเบานั้นจะมีสเปคสำหรับเครื่องทดลองรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร มาดูกัน
รายละเอียดของ Xiaomi Mi 8 Lite (สเปคเครื่องที่ได้มาทดสอบ)
- มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาด 6.26 นิ้ว มาพร้อมจอ IPS LCD display, ความละเอียด 2280x1080 พิกเซล อัตราส่วน 19:9
- ขนาด 156.4 x 75.8 x 7.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 169 กรัม
- มาตรฐานกันน้ำ / กันฝุ่น : ไม่รองรับ
- ระบบปฏิบัติการ : Android 8.1 (Oreo) + MIUI 10
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 660 Octa Core
- หน่วยความจำแรม (RAM) 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) 64GB รองรับ Micro SD Card สูงสุด 256GB
- รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)
- การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 802.11 AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- กล้องด้านหลังคู่มีรายละเอียดดังนี้
- 12 MP, f/1.9, 1/2.55", 1.4µm, dual pixel PDAF
- 5 MP, f/2.2, 1.12µm, depth sensor
- กล้องด้านหน้าเลนส์คู่มีรายละเอียดดังนี้
- 24 MP, 1/2.8", 0.9µm
- พอร์ตชาร์จ USB-C
- แบตเตอรี่ความจุ 3350 mAh (Standard Battery)
- สแกนนิ้วด้านหลัง และมีระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D
- สี: ดำ และ สีฟ้า Aurora Blue
- ราคา: 9,990 บาท
การทดสอบประสิทธิภาพ
ทีม Sanook! Hitech ได้ลองใช้โปรแกรม Antutu วัดผลประสิทธิภาพออกมาอยู่ที่ 141596 คะแนน เรียกได้ว่าสูงอย่างมากเลยทีเดียว
ส่วน Geekbench 4 ได้ทั้งแบบ Single Core 1617 และ Multi Core 5792 จัดว่าคะแนนทดสอบประสิทธิภาพออกมาถือว่าสูงและลงตัว
เห็นคะแนนประสิทธิภาพสูงแล้วการเล่นเกมทั้งได้ลองทั้ง ROV และ Asphalt 9 Legend ถือว่าภาพออกมาสวยและแสดงผลกราฟิกได้ลื่นไหลอย่างไม่น่าเชื่อ
การเชื่อมต่อและลองใช้ระบบนำทาง
ในเรื่องการเชื่อมต่อถือว่าทำได้ครบมาพร้อมกับ 4G LTE, WiFi 802.11 AC, Bluetooth 5.0 สำหรับ GPS การนำทางถือว่าทำผลงานได้ดีและแม่นยำแต่ถ้าใช้ในเมืองก็อาจจะมีการหลุดและไม่ตรงบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ / ความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของ Xiaomi Mi 8 Lite เลือกใช้ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย MIUI 10 ใหม่ล่าสุดที่มีการปรับตัวที่น่าสนใช้เหมือนกันและมีลูกเล่นครบเครื่องไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้
ในเรื่องฟีเจอร์ของเครื่องก็มีทั้งเครื่องมือมาให้ครบ แต่ว่าการจัดการต่างครบจนเรียกได้ว่า มันน่าสนใจเลยทีเดียว
ส่วนระบบความปลอดภัย เสียดายแค่มีแค่ระบบสแกนใบหน้าและระบบสแกนลายนิ้วมือ และสามารถป้องกันการเข้าถึงข้อมูลอื่นได้ครบถ้วน
การแสดงผลภาพ และเสียง
การแสดงผลของหน้าจอที่ใช้หน้าจอ IPS LCD มาพร้อมกับความละเอียด 2280x1080 พิกเซลให้สีสันที่คมชัดแลสวยงามอย่างมากมายเลยทีเดียว
เนื่องจากเครื่องบางลงทำให้ระบบเสียงของเครื่องความดังอาจจะสู้ Redmi Note 6 Pro ไม่ได้ แต่เท่าที่ลองถือว่าดังมากแล้วครับ
เปิดกล้องลองประสิทธิภาพ
สำหรับกล้องหลังของ Xiaomi Mi 8 Lite ให้กล้องหลังคู่ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 2 ตัวได้แก่
- 12 ล้านพิกเซล, f/1.9, 1/2.55", 1.4µm, dual pixel PDAF
- 5 ล้านพิกเซล, f/2.2, 1.12µm, depth sensor
เรียกได้ว่าสเปคของกล้องถือว่าดีใช้ได้และมีเทคโนโลยี Dual Pixel ที่ทำให้ระบบการโฟกัสทำงานได้เร็วขึ้น เมื่อทำงานกับ หน้าตาการควบคุมของกล้อง Xiaomi ถือว่าทำได้ดีและลงตัวเลยครับ
การทำงานโหมดทั่วไป และความฉลาดของ AI
โดยกล้องหลังของ Xiaomi Mi 8 Lite ก็ติดตั้งเทคโนโลยี AI ที่เรียนรู้และปรับเปลี่ยน Scene Mode อัตโนมัติ หากทำงานแค่กดปุ่ม AI ข้างบน โดยมี Scene หลายแบบให้เลือก และภาพก็จะปรับเปลี่ยนไปเอง
เห็นได้จากภาพตัวอย่างด้านบนแค่โหมดปกติกับ AI สีสันจะต่างกัน โดย AI จะสีเข้มกว่าปกติอย่างชัดเจนและปรับให้โทนสีดูน่าสนใจ ข้อดีคือการเปิดปิดโหมดทำได้ง่ายแค่กดปุ่มด้านบนสุดเท่านั้นเอง
การถ่ายภาพบุคคล / การถ่ายภาพระยะใกล้ (Marco)
สำหรับโหมดการถ่ายภาพบุคคล สามารถตัดได้เนียนเพราะว่าการที่มีกล้องหลังคู่และ Software ทำให้การทำงานถือว่ารวดเร็วและตัดได้เนียน ยกเว้นที่แสงน้อยอาจจะยังช้าไปนิด
ส่วนการถ่ายภาพระยะใกล้หรือ Marco ทำได้ประมาณหนึ่งเท่านั้นด้วยข้อจำกัดของเลนส์เท่านั้นเองแต่กลับมองว่าทำได้เท่านี้ถือว่าดีแล้ว
การถ่ายภาพกลางคืน
ด้วยตัวช่วยทั้ง AI, ระบบโฟกัส และเทคโนโลยี Dual Pixel ทำให้การถ่ายภาพออกมาถือว่าลงตัวแม้ว่าสภาพแสงน้อยแต่ว่าอาจจะมีการจับโฟกัสไม่อยู่ในบางจังหวะเท่านั้น ถ้าปิด AI การทำงานของกล้องก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก
การถ่ายวิดีโอดีไหม
Xiaomi Mi 8 Lite รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30FPS เป็นมาตรฐานของมือถือสมัยนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ให้ระบบกันสั่นมาให้
กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพดีแค่ไหน
สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซลแม้ว่ามีเลนส์เดียวแต่ก็มีระบบการเลือก Scene Mode ผ่าน AI ได้และยังสามารถละลายหลังได้ แต่ Beauty อาจจะยังปรับไม่ได้มากนัก
แบตเตอรี่ และ การชาร์จไฟ
แม้ว่าแบตเตอรี่ของมือถือรุ่นนี้จะเหลือแค่ 3350 mAh ซึ่งมีขนาดไม่ได้เล็กหรือใหญ่เกินไป แต่เนื่องจาก CPU ที่มีประสิทธิภาพดีในหลายด้านทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งวัน ถ้าลองใช้โปรแกรมทดสอบสามารถอยู่ได้ 11 ชั่วโมง 9 นาที
และที่ชาร์จก็ไม่ได้ให้แบบ Quick Charge มาให้แต่ว่าตัวเครื่องรองรับระบบ Quick Charge 2.0 ส่วนที่ชาร์จที่ติดกล่องมาเป็นแบบ 5V 2A ถือว่ารับได้
สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ลองใช้ Xiaomi Mi 8 Lite ในระยะเวลาหนึ่ง
ถึงแม้ว่ารายละเอียดของ Xiaomi Mi 8 Lite จะคล้ายกับ Xiaomi Redmi Note 6 Pro ในเรื่องของสเปคเครื่องในบางจุดและหน้าจอ แต่ถ้าเทียบกันไปแล้ว การตกแต่งและการออกแบบของเครื่องถือว่าน่าดึงดูดใจคนที่อยากใช้งานไม่น้อย ราคาของเครื่องไม่ถือว่าแพง และมีสเปคให้เลือกดังนี้
- Xiaomi Mi 8 Lite รุ่น RAM 4GB / ROM 64GB 7,990 บาท << คือเครื่องที่ทดลองในบทความนี้
- Xiaomi Mi 8 Lite รุ่น RAM 6 GB/ ROM 128GB ราคา 9,990 บาท
ภาพรวมผมว่าถือว่าสู้ได้กับมือถือไม่เกินหมื่นที่เค้ามาจำหน่ายหลายรุ่น เหลือแค่ว่า อาจจะมองว่าความจำของเครื่องนั้นมันมีแค่ 64GB อาจจะน้อยแต่ว่าผมว่ามันก็ยังดีอยู่ ถ้าสมบูรณ์สุดจะเป็นรุ่น 128GB แต่อาจจะจ่ายแพงกว่าเล็กน้อย
ส่วนการซื้อนั้น Xiaomi Mi 8 Lite ขายกับทาง JD Central อย่างเดียวก็อาจจะทำให้หลายคนเข้าถึงได้ไม่ยาก ยกเว้นถ้าไม่อยากซื้อออนไลน์ สุดท้ายแล้ว นี่เป็นอีกมือถือดีส่งท้ายปีกับสเปคและราคาสมเหตุสมผลครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องสวยและออกแบบได้กระชับมือ
- มีเคสและฟิล์มพร้อมใช้
- ประสิทธิภาพของกล้องหลังทำงานได้ดี
- หน้าจอสวยและคมชัด
- ราคาถูกจนน่าสนใน
ข้อสังเกต
- ระบบ AI Camera ก็ยังทำงานช้าอยู่
- ไม่กันน้ำ
- ความแตกต่างของรุ่นถูกอย่าง Redmi Note 6 Pro ยังไม่เด่นพอ
- ไม่มีช่องเสียบหูฟังมาให้
อัลบั้มภาพ 33 ภาพ