ชาร์จไว ไม่ต้องรอ! รีวิวจัดเต็ม 3 ทีเด็ด ล้ำสมัยจาก OPPO R17 Pro

ภายใต้ความกล้าในการก้าวข้ามขีดจำกัดหลายอย่างทำให้ OPPO R17 Pro ที่มาอยู่ในมือของเราวันนี้ประกอบไปด้วยทีเด็ดที่ถือว่าครบเครื่องขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีการชาร์จแบบ SuperVOOC Flash Charge ชาร์จแป้บเดียว ใช้งานต่อได้ตลอดทั้งวัน ทั้งยังมาพร้อมกับกล้องระดับเทพเก็บภาพได้ชัด แม้กระทั่งในที่แสงน้อย

เจาะลึกเรื่องดีไซน์ หมัดเด็ดแรกจาก OPPO R17 Pro ที่ทำให้รักตั้งแต่แรกแกะกล่อง
เมื่อได้ของดีมาอยู่ในมือ เราจึงขอรีวิวแบบจัดเต็ม 3 เรื่องที่ขอยกให้เป็นทีเด็ดของ OPPO R17 Pro ตัวนี้แบบเน้นๆ เริ่มต้นที่“เรื่องดีไซน์” ซึ่งต้องขอยกให้เป็นไฮไลท์ของงานออกแบบ ด้วยการเลือกใช้สองเฉดสีบนตัวเครื่อง แต่ไม่แค่สองสีแบบธรรมดา มันคือการไล่ระดับสีแบบ Radiant  Mist ทำให้สีฟ้าม่วงบนตัวเครื่องจะเปลี่ยนตำแหน่งไปตามมุมที่มอง บางมุมจะเห็นสีม่วงเยอะ แต่ถ้าบิดไปอีกทางสีฟ้าจะเข้ามาแทนที่ และถ้ามองให้ดีระหว่างสองเฉดสีจะแบ่งกันเป็น Curve รูปตัว S

วัสดุด้านหลังเป็นกระจกผิวด้านที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีพิเศษด้วยการพ่นทรายลงบนพื้นผิวโลหะผ่านแรงอัดลมส่งผลให้พื้นผิวเรียบจับถนัดมือ และป้องกันการเกิดรอยนิ้วได้อย่างดี ซึ่งระหว่างทดลองใช้ OPPO R17 Pro ตัวนี้ โดยใช้เป็นโทรศัพท์เครื่องหลัก ถือติดตัวไปมาตลอดทั้งวัน เราไม่ใส่เคสและไม่ได้แปะแผ่นฟิล์มกันรอย ผลลัพธ์คือดีเยี่ยม! ด้านหลังจอไม่มีรอยนิ้วให้รู้สึกหงุดหงิด และยังจับสะดวกไม่ลื่นมือ

พลิกมาด้านหน้า หน้าจอ AMOLED 6.4 นิ้ว มีรอยบากแบบ Waterdrop Screen ส่วนของกระจกเป็น Gorilla Glass6 ที่ทนทานกว่า Gorilla Glass5 ถึงสองเท่า แต่ที่รักที่สุดคือสามารถสแกนลายนิ้วมือปลดล็อคบนหน้าจอได้เลย ซึ่งนี่ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของ OPPO กับฟังก์ชั่นนี้ ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว สำหรับความละเอียดเป็นแบบ FHD+ ที่มาพร้อม RAM 8 GB และ ROM 128 GB

Ultra Night Mode คือความพีคที่สุดของระบบถ่ายภาพใน OPPO R17 Pro
ที่ต้องขอยกให้เป็นทีเด็ดอีกอย่างของ OPPO R17 Pro คือ Ultra Night  Mode หรือโหมดถ่ายภาพตอนกลางคืน บอกเลยว่าตัวนี้เจ๋งจริง แม้กระทั่งในที่แสงน้อยก็ยังให้ผลลัพธ์เป็นภาพที่คมกริบโดยที่รูปไม่ดูหลอกตรงตามคอนเซปต์ Seize The Night ซึ่งก็เป็นเพราะเครื่องนี้ประกอบด้วยฟังก์ชั่นเด่นอย่าง  AI Ultra Clear Engine ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์ปรับภาพได้ตามความเหมาะสม มีระบบOIS กันสั่น มีรูรับแสงอัจฉริยะที่ปรับค่า F ให้อัตโนมัติ ในที่แสงมาก F จะถูกปรับอยู่ที่ 2.4 และในที่แสงน้อยจะถูกปรับอยู่ที่ 1.5  ให้ความรู้สึกเหมือนมีช่างภาพมือโปรมาคอยดูแลอยู่ข้างๆ เลยทีเดียว

SuperVOOC Flash Charge ระบบชาร์จไวแบบไม่ต้องรอ ทีเด็ดสุดล้ำของ  OPPO R17 Pro
เมื่อมาพร้อมการบอกชัดว่าชาร์จไว เราจึงต้องลองกันให้รู้ และก็พบว่า OPPO R17 Pro ชาร์จเร็วสมคำร่ำลือ แค่ 10 นาที ได้แบตถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และถ้าทิ้งไว้ 30 นาที แบตเตอรี่ก็เต็มแบบด่วนๆ ทำให้ไม่ต้องชาร์จข้ามคืนอีกต่อไป และที่สำคัญคือเครื่องไม่ร้อนเลยแม้แต่น้อย

ชาร์จไป เล่นเกมไปด้วยได้สบาย ไม่มีเรื่องเครื่องร้อนให้รำคาญใจ

นอกจากทีเด็ดสามเรื่องที่เราถือว่าดีขั้นสุด OPPO R17 Pro ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมอีกหลายอย่างที่ทำให้ #สายเทคโนโลยี อย่างเราต้องยกนิ้วให้ เพราะมันคือการพัฒนาที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของกล้องหน้า ตัวนี้มาพร้อมกับความละเอียด 25 MP f/2.0 ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในตอนนี้

ส่วนกล้องหลังให้ความละเอียดที่ 12 MP + 20 MP มีโหมดสวยๆ ให้ลองเล่นเพียบ ทั้งยังมีนวัตกรรมถ่ายภาพ3 มิติ หรือ TOF 3D Camera แถมมาให้ด้วย แต่จะใช้ได้เมื่อมีการอัพเดทซอฟต์แวร์เพื่อไว้ใช้งานแอปพลิเคชั่นและเกมสามมิติได้ในอนาคต เรียกว่ามองการณ์ไกล มีเครื่องนี้ไว้อุ่นใจไปได้หลายปี

อย่างที่รู้กัน เปิดกล้องหน้าถ่ายเซลฟี่ส่วยแน่นอนอยู่แล้ว แต่ถ้าได้เปิด โหมด Portrait ยิ่งทำให้ คน ดูโดดเด่นมากขึ้นเลย เราลองไปดูฟิลเตอร์ต่างๆ จากโหมดนี้กัน

Natural Light แสงธรรมชาติปกติ

Film Light แสงแบบกล้องฟิล์ม

Mono-Tone Light แสงแบบขาว-ดำ

BI Color Light แสงสะท้อนที่ใบหน้าด้วยสีแดงและสีน้ำเงิน

Canvas Light ตัดฉากหลังให้เป็นพื้นขาว

Shake Light ตัดฉากหลังให้เป็นสีม่วงพร้อมเพิ่มเอฟเฟกต์สั่น

ดังนั้นถ้าให้สรุป เราก็บอกได้เลยว่า  OPPO R17 Pro เหมาะกับสายเทคโนโลยีที่ชอบความล้ำสมัยเพราะเครื่องนี้มีฟังก์ชั่นดีๆ อยู่เพียบ  เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูป และเหมาะที่สุดสำหรับคนที่กำลังหาสมาร์ทโฟนถ่ายกลางคืนเจ๋งๆ สักเครื่อง รวมทั้งสายเล่มเกม สายติดโซเชียล หรือคนที่ขาดสมาร์ทโฟนไม่ได้ ด้วยความที่ชาร์จไวแบบไม่ต้องรอนาน ชาร์จแป้บเดียวเอาไปเล่นต่อได้เป็นวัน ที่สำคัญนวัตกรรมใน OPPO R17 Pro คุ้มค่ากับราคา 24,990 บาท แถมยังได้ขาตั้งกล้อง Tripod ฟรีด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ OPPO Brand Shop และ ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

(Advertorial)