อิริคสันเผยข้อมูล 10 พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตอลที่จะเกิดขึ้นในปี 2019
สำหรับยุคปัจจุบันที่อินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนต้องใช้ โดยเฉพาะโลกของเราที่กำลังเริ่มก้าวสู่เทคโนโลยี 5G วันนี้อีริคสันได้เผยข้อมูล Ericsson Mobility Report: ในชื่อ The Power of 5G ขุมกำลังเทคโนโลยีใหม่ของอินเตอร์เน็ตยุค “5G” ว่าในปี 2019 นี้จะมีพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างไรบ้าง โดยถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
Mobile Subscription
เผยว่าทั่วโลกมีผู้ Subscription อยู่ที่ 7.9 พันล้านคน และมี 5.7 พันล้านเป็น Mobile Broadband Subscriptions ซึ่งจริง ประชากรโลกมีอยู่แค่ 7.3 พันล้าน ซึ่งเรียกได้ว่าจำนวนผู้ใช้มือถือเกิน 100% แล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งประเทศจีนเป็น 1 ในผู้นำด้านการเติบโต สูงที่สุดในโลก Q3 2018 เติบโตถึง 37 ล้าน Subscription
ข้อมูลประเทศไทยคือ ณ ปี 2018 ระบบ LTE เติบโตสูงกว่า 3G ไปแล้ว ส่วน 2G ผู้ใช้งานก็เริ่มลดน้อยลงเรื่อย ๆ สาเหตุที่เติบโตเพราะมือถือมีราคาถูกลง และมีคุณภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงแอปฯ บนมือถือที่ออกมารองรับตอบโจทย์ผู้ใช้งานนั่นเอง
Mobile Data traffic
การเติบโตของผู้ใช้งาน Data เรียกได้ว่าเป็นเชิง Exponential อย่างก้าวกระโดดกว่า 79% ต่อปี โดยแบ่งออกเป็นผู้ใช้งานกว่า 60% รับชมวิดีโอผ่าน Social Media ต่าง ๆและคาดว่าในปี 2024 จะมีการใช้งานกว่า 74% ของ Data เป็นการรับชมวิดีโอ และจะมีปริมาณการใช้ Data สูงขึ้นกว่าเดิมมาก และคาดว่าในปี 2024 จะมีปริมาณการใช้ data สูงถึง 21 GB ต่อเดือนเลยทีเดียว ซึ่งในปี 2018 ที่ผ่านมา ด้านอเมริกาเหนือมีอัตราการเจริญเติบโตในการบริโภคข้อมูลสูงที่สุด
ส่วนด้านประเทศไทยมีข้อมูลด้านการใช้งานว่า แต่ละคนจะมีการใช้อินเตอร์เน็ตกับแอปฯ อะไรที่มีปริมาณการใช้ Data สูงที่สุด (ไม่นับจำนวนผู้ใช้งาน) ซึ่ง 5 อันดับแรกคือ
HTV แอปฯ ดูวิดีโอคอนเทนต์ของ True YouTube แอปฯ รับชมวิดีโอคอนเทนต์ชื่อดัง TrueID แอปฯ ที่รวบรวมเอาคอนเทนต์ต่าง ๆ มารวมกัน และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกในอนาคต Facebook แอปฯ Social Media อันดับ 1 ของโลก LINE แอปฯ Social Media ที่คนไทยชอบใช้เป็นอันดับต้น ๆ 5G & Cellular IoT
คาดว่าด้าน IoT ประเทศที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้คือประเทศฝั่ง เอเชียตะวันออกเช่น จีน เกาหลีและญี่ปุ่น ที่มีเทคโนโลยี NB-IoT และเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายที่ออกมารองรับ โดยคาดการณ์ว่า การเติบโตต่อปี 27% จะเติบโตไปถึงระดับ 4.1 พันล้านตัว โดยแบ่งออกเป็น NB-IoT ที่เน้นการเชื่อมต่อแบบอยู่กับที่ และ Cat-M1 ที่เน้นการติดกับสิ่งที่เคลื่อนที่เช่น รถ SmartCar เป็นต้น
ผลสำรวจล่าสุดจากรายงานประจำปีได้ทำการวิเคราะห์และประเมินเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้บริโภคและคาดการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคต รวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI), เทคโนโลยีเสมือน (VR), 5G และระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ผลจากรายงานบ่งชี้ว่าเทคโนโลยีอิสระและการทำนายอารมณ์จะเป็นเทคโนโลยีที่มาแรงและจะมีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์ในอนาคตอันใกล้นี้
เผย 10 แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตัล ปี 2562 และในอนาคต
เครื่องรับรู้อัจริยะ กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ใช้งานแอปพลิเคชันส์ผู้ช่วยส่วนตัวคิดว่าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีจะสามารถรับรู้และเข้าใจถึงอารมณ์ของผู้ใช้ได้ (ปัจจุบันคือ Alexa หรือ Google Home) และจะแนะนำการดำเนินชีวิตของเราได้ ผู้ตอบโต้ที่ชาญฉลาด กว่า 65 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ใช้งานแอปฯ ผู้ช่วยส่วนตัวคิดว่าอุปกรณ์อัจฉริยะจะสามารถโต้เถียงได้เสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า
แอพพลิเคชั่นส์สอดแนม กว่า 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคคิดว่าแอปฯ จะเก็บข้อมูลของผู้ใช้ แม้กระทั่งตอนไม่ได้เปิดใช้แอปก็ตาม บังคับให้ตอบตกลง ผู้บริโภคจำนวน 51 เปอร์เซ็นต์ รู้สึกรำคาญที่จะต้องตอบตกลงเพื่อยืนยันสิทธิ์ให้แอปฯ เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวตลอดเวลา ทักษะทางอินเตอร์เน็ต กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งาน AR หรือ VR ต้องการใช้แอปฯ ที่สามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เช่น โปรแกรมสอนทำอาหาร หรือซ่อมแซมสิ่งของต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยีโลกเสมือน การบริโภคแค่เพียงปลายนิ้ว ผู้ที่ใช้งานแอปฯ ต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการตรวจสอบของใช้ภายในบ้าน และจะมีระบบจ่ายบิล รวมทั้งซื้อของใช้ภายในบ้านแบบอัตโนมัติได้
ผู้ช่วยในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจำนวน 31 เปอร์เซ็นต์ เริ่มมีความเชื่อ AI มากกว่าความคิดของตัวเองเช่น การเดินทางก็เชื่อ Google Maps มากกว่าการดูเส้นทางด้วยตัวเอง เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีอัตโนมัติเข้ามาแทนที่การตัดสินใจในชีวิตประจำวันของมนุษย์ไปหมดแล้ว รักษ์โลก ผู้บริโภคจำนวน 39 เปอร์เซ็นต์ ต้องการใช้นาฬิการักษ์โลกที่สามารถวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาในแต่ละวันได้
ฝาแฝดดิจิตัล ผู้ใช้งาน AR หรือ VR จำนวน 48 เปอร์เซ็นต์ ต้องการมีฝาแฝดเสมือนจริงที่เหมือนกับตัวเขาแบบชนิดที่แยกไม่ออก เพื่อที่พวกเขาจะสามารถแยกกันอยู่สองที่ได้ในเวลาเดียวกัน และช่วยตัดสินใจแทนเราได้
ชุมชน 5G ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่า 5G จะทำให้อุปกรณ์ IoT เชื่อมต่อกันได้ดีกว่า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน หรือสมาร์ทมิเตอร์ในอุปกรณ์สาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นต้น
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเทคโนโลยีในอนาคตว่าเป็นภัยคุกคามหรือเป็นโอกาส ดร.เพอร์นิลล่า โจนส์สัน หัวหน้างานห้องปฎิบัติการวิเคราะห์ผลสำรวจผู้บริโภคและอุตสาหกรรมของอีริคสัน กล่าวว่า “เราได้เข้าสู่ยุคที่มนุษย์สามารถมีปฏิสัมพันธ์และทำงานร่วมกับเครื่องจักรกลอัจฉริยะแล้ว ทุกวันนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่อนาคต ยังมีอุปกรณ์ทางด้านเทคโนโลยีอีกมากมายหลายอย่างที่จะถูกพัฒนาขึ้น และอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น เราสามารถกำหนดได้ด้วยมือของเราเอง”