รีวิว “Huawei Nova 4” มือถือรุ่นกลางกับหน้าจอ Punch Display ที่ครบเครื่องในงบ 16,990 บาท
กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จากทีม Sanook! Hitech กันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับการรีวิวครั้งนี้ ทีมได้นำมือถือ Huawei Nova 4 ที่มีการปรับปรุงหน้าตาใหม่ล่าสุดที่เป็นแบบ Punch Display ไม่ธรรมดาเพราะหน้าจอพื้นที่เต็มหน้าจอ แล้วมันดีหรือไม่ มาดูรีวิวกันดีกว่า
เปิดกล่อง Huawei Nova 4
เมื่อคุณซื้อ Huawei Nova 4 มาสิ่งที่คุณเปิดมาภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- ตัวเครื่อง Huawei Nova 4
- เคสใสของเครื่อง
- เข็มจิ้มซิมการ์ด
- คู่มือ
- ปลั๊กชาร์จไฟ สำหรับประเทศไทยจะได้ปลั๊กไฟแบบ 2 ขาแบน
- สาย USB-C
- สายเสียบหูฟัง
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Huawei Nova 4
เริ่มต้นกับสิ่งที่สะดุดตาที่สุดของมือถือรุ่นนี้คือหน้าจอครับ มีขนาด 6.4 นิ้ว พร้อมกับความละเอียด 2310x1080 พิกเซล หรือ Full HD+ พื้นที่หน้าจอเยอะมากแทบจะสุดขอบบนและล่างเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกมือถือที่เปิดปี 2019 ด้วยความใหญ่ หน้าจอแบบนี้ เรียกว่า Punch Display ที่เป็นลักษณะของหน้าจอมีกล้องหน้าอยู่มุมซ้ายหรือขวาของหน้าจอ ไม่มี แถบขอบดำหรือ Notch อีกต่อไป ช่วยดูได้เต็มจอมากขึ้น โดยถูกรบกวนน้อยที่สุด
ส่วนบนของหน้าจอจะสะดุดตาด้วยกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซลที่มุมซ้ายมือ พร้อมกับ เซนเซอร์ Proximity sensor ซ่อนในลำโพงสนทนาที่อยู่ด้านบน ทำมุมเฉียงขึ้น ช่วยให้ตำแหน่งวางแบบแนวตั้งแล้วใช้งานได้ และ Ambient light sensor จะไปอยู่มุมขวา และมีไฟแจ้งเตือน LED 3 สี (แดง, เหลือง, เขียว) ส่วนการปิด Notch หรือทำให้ส่วนของกล้องหน้าเป็นสีดำทั้งหมด รุ่นนี้ทำได้ โดยเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > Display Setting (ตั้งค่าหน้าจอ)> Notch (ขอบดำ) แล้วเลือกได้ตามสบายว่าจะเปิดหรือปิด
ส่วนหน้าจอด้านล่าง มีปุ่มควบคุมระบบหน้าจออยู่ข้างในหน้าจอ พร้อมโลโก้ Huawei ที่อยู่ล่างสุด แล้วส่วนการควบคุมสามารถเลือกได้ ว่าจะเป็นแบบ สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > System (ระบบ) > Navigation (การควบคุมทิศทางของระบบ) ซึ่งเปลี่ยนได้ทั้งหมดดังนี้
- ปุ่มกดธรรมดา สามารถเลือก Back, Home และ Recent Apps สามารถเปลี่ยนแปลงได้
- ท่าทาง (Gesture) จะใช้การปัดซ้ายมาขวาคือการย้อนกลับ, ปัดขึ้นแล้วปล่อย เท่ากับ กลับหน้าหลัก และปัดขึ้นค้างไว้จะเป็นหน้าเลือก Apps ทำงานล่าสุด หรือ Recent Apps สุดท้ายปัดซ้ายหรือขวาเพื่อเข้าสู่ Google Search
- และสามารถเปิดปุ่มลักษณะเหมือน iPhone เรียกฟีเจอร์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน
ขอบด้านข้างรอบตัวเครื่อง เลือกใช้วัสดุโพลี่คาร์บอนเนตเงางามตามสีเครื่อง มาพร้อมกับ ฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิม Nano SIM 2 ช่อง
ฝั่งขวาของเครื่องมาพร้อมกับปุ่มเปิดปิดเครื่อง และ Standby ของเครื่อง ขนาดของปุ่มถือว่าไม่ได้ใหญ่มาก กำลังดี
บนสุดของเครื่องมาพร้อมกับ อินฟราเรดสำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า, ช่องเสียบหูฟัง และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ล่างของเครื่องมี ไมโครโฟน, USB-C และมีลำโพงตัวเครื่องขนาดกลางอยู่มุมขวาของเครื่อง
พลิกมาด้านหลังของ Huawei Nova 4 มาพร้อมกับการตกแต่งที่สวยงาม และเล่นระดับสีได้ดี มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวพร้อมกับ LED Flash นอกจากนี้มีระบบสแกนลายนิ้วมือ การออกแบบภาพรวมเหมือนกับ Huawei P20 Pro
น้ำหนัก / ฟิลลิ่งการถือ / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย
เนื่องจากหน้าจอของเครื่องมีน้ำหนักเบา แต่ได้หน้าจอใหญ่ทำให้ตัวเครื่องถือได้ง่ายและใช้ได้ง่ายเหมือนกัน แต่เนื่องจากวัสดุด้านหลังของเครื่องค่อนข้างลื่น แนะนำว่า ใส่เคสจะดีกว่า
และสีของ Huawei Nova 4 มีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือ สีฟ้า Crush Blue เป็นการผสมสีม่วงและฟ้าอย่างลงตัว และอีกสีคือ Midnight Black สีดำทั้งเครื่อง
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ Huawei Nova 4
เมื่อกดเปิดเครื่อง Huawei Nova 4 ตัวเครื่องทำงานได้อย่างรวดเร็ว และติดอย่างรวดเร็ว มาดูกันว่า สเปคเครื่องเป็นอย่างไร
รายละเอียดของ Huawei Nova 4
- มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาด 6.4 นิ้ว มาพร้อมจอ IPS LCD display, ความละเอียด 2310x1080 พิกเซล (Punch Display)
- ขนาด 157 x 75.1 x 7.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 172 กรัม
- มาตรฐานกันน้ำ / กันฝุ่น : ไม่รองรับ
- ระบบปฏิบัติการ : Android 9 Pie + EMUI 9
- หน่วยประมวลผล : Kirin 970 Octa Core + NPU, GPU Mali G71
- หน่วยความจำแรม (RAM) 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) 128GB
- รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)
- การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 802.11 AC, Bluetooth 4.2, GPS, A-GPS
- กล้องด้านหลัง 3 เลนส์ มีรายละเอียดดังนี้
- 20 ล้านพิกเซล, f/1.8, PDAF
- 16 ล้านพิกเซล, f/2.2 Ultra Wide Lens
- 2 ล้านพิกเซล, f/2.4, depth sensor
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 25MP, f/2.0
- พอร์ตเชื่อมต่อ : ช่องเสียบหูฟัง, ชาร์จ USB-C
- แบตเตอรี่ความจุ 3750 mAh (Standard Battery)
- ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และมีระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D
- สี: Midnight Black, Crush Blue
- ราคาเปิดตัว 16,990 บาท
เมื่อได้เห็นสเปคถือว่ามือถือรุ่นนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ทั้ง CPU ได้จากรุ่นอดีตเรือธงที่มีคุณภาพดี และสำหรับ RAM นี่คือครั้งแรกถ้าไม่นับมือถือระดับ Special Edition นี่คือมือถือ Huawei รุ่นแรกที่ได้ RAM 8GB เลยครับ แต่ที่เหลือนั้นเรามาทดสอบทีละหัวข้อกัน เริ่มจาก
การทดสอบประสิทธิภาพ / การลองเล่นเกม
จากการทดสอบประสิทธิภาพจาก Antutu คะแนนออกมาอยู่ที่ 196559 คะแนน ถือว่าสูงระดับมือถือแตะ 2 หมื่นบาทเลยทีเดียว เป็นผลจากการใส่ RAM ส่วนหนึ่ง
ส่วนอีกโปรแกรมอย่าง Geekbench 4 อยู่ที่ 1787 คะแนนแบบ Single Core และ 6452 คะแนนแบบ Multi Core
เมื่อได้ลองเล่นเกมทั้ง PUPG Mobile และ Asphalt 9 Legend ถือว่าภาพที่ตอบสนองออกมาทำได้ดี ไม่กระตุกมากนัก แถม ส่วนส่วนของกล้องนั้นเล็กไม่กวนสายตาเมื่อเล่นเกมอีกด้วย
ทดลองการเชื่อมต่อของ Huawei Nova 4
การเชื่อมต่อของ Huawei Nova 4 รองรับทั้ง WiFi 802.11 AC, Bluetooth 4.2 อาจจะเก่าไปหน่อย, GPS และ A-GPS ทำให้เมื่อลองเชื่อมต่อพบว่ามีความแม่นยำสูง
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ความปลอดภัย
สำหรับระบบปฏิบัติการใน Huawei Nova 4 เลือกใช้ Android 9 Pie ครอบด้วย EMUI 9.0.1 ที่มีการปรับปรุงในเรื่องของความเสถียรที่ดีขึ้นและใช้งานได้ง่ายเหมือนเดิม
จุดเด่นที่เพิ่มเข้ามา สามารถเข้ามา Digital Balance ช่วยควบคุมในการใช้งานมือถือ และตั้งจำกัดระยะเวลาการใช้งานได้, Huawei Share 3.0 ที่ใช้งานได้สะดวกมาขึ้น รวมถึง Eye Comfort ระบบถนอมสายตาอีกด้วย
ลูกเล่นของตัวเครื่องยังคงเหมือนมือถือทั่วไปอย่างที่ ระบบ Android โดยใช้และมีเพิ่ม เข็มทิศ, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, กระจกส่อง, ไฟฉาย, โหมดปาร์ตี้ สมุดบันทึก และอื่นๆ อย่างมากมาย
ส่วนระบบความปลอดภัย นอกจากระบบสแกนลายนิ้วมือ ยังมีระบบสแกนใบหน้ามาให้ และคราวนี้มาพร้อมกับการปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติเมื่อสแกน ทำให้ใช้ในที่แสงน้อยได้ดี แต่ที่มืดยังไม่ดีเท่าไหร่
การแสดงผลภาพและระบบเสียง
ความละเอียดของหน้าจอ Huawei Nova 4 อยู่ที่ Full HD+ มาพร้อมกับการรองรับมัลติทัช 10 จุด เมื่อลองดูภาพในรูปแบบต่างๆ สีสันของหน้าจอถือว่าทำได้สมบูรณ์แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหน้าจอแบบ OLED ก็ตาม
แต่ระบบเสียงตัวเครื่องติดตั้งลำโพงแค่ 1 จุดข้างล่าง ทำให้เสียงดังเมื่ออยู่ที่เงียบ แต่ถ้ามีเสียงรบกวนก็จะดังไม่พอ แต่มีช่องเสียบหูฟังมาให้ นอกจากนี้ยังรองรับระบบเสียง การปรับระบบเสียงได้ผ่าน Histen 5.0 ใช้เสียงแบบ 3D ได้
เปิดกล้องลองประสิทธิภาพ
กล้องหลังของ Huawei Nova 4 จัดมาให้ถึง 3 ตัวด้วยกันได้แก่
- 20 ล้านพิกเซล, f/1.8, PDAF
- 16 ล้านพิกเซล, f/2.2 Ultra Wide Lens
- 2 ล้านพิกเซล, f/2.4, depth sensor
เมื่อลองดูสเปคกล้องแล้วถือว่าครบเครื่องเพราะมีทั้งระยะปกติที่รับแสงได้เยอะ, ระยะกว้างที่ถ่ายภาพได้ละเอียด และ Depth Sensor ทั้งหมดนี้สามารถทำงานผ่าน AI Camera
หน้าตาเมนูการทำงานของกล้อง 3 ตัวกับ AI Camera
สำหรับหน้าตาเมนูของกล้อง Huawei Nova 4 มีความคล้ายกับมือถืออย่าง Huawei P20 Pro และ Huawei Mate 20 Series อยู่มากโดยเฉพาะปุ่ม Zoom แต่สำหรับการเปิดปิด AI Scene จะทำได้สะดวกกว่า แค่กดด้านบนเท่านั้น และสามารถเปลี่ยนได้หลากหลายแบบด้วยกัน ช่วยตอบสนองในเรื่องการถ่ายภาพได้ดี และมีโหมดที่เหมาะสมกับการเลือกใช้
ดังนั้นการใช้งานกล้องไม่ใช่เรื่องยาก และโหมดโปรฯ ยังออกแบบให้ปรับได้ง่ายไม่ซับซ้อน
การถ่ายภาพกลางวัน / กลางคืน
เมื่อดูภาพถ่ายจากการถ่ายภาพกลางวันพูดเลยว่า Huawei Nova 4 แทบไม่ต้องเป็นห่วง สามารถตอบสนองการถ่ายภาพกลางวันได้ดีทั้งระยะปกติ, ระยะกว้างและการละลายหลัง
ส่วนการถ่ายภาพกลางคืนนั้น หากคุณไม่โปรพอ การใช้ AI Camera ก็ทำให้ได้ภาพสวยเหมือนกัน แต่ถ้าโปรแนะนำให้ลองเล่นโหมดโปร คุณจะได้ภาพที่เรียกได้ว่าสวยจนมือถือรุ่นแพงกว่ายังต้องอาย
โหมดการถ่ายภาพอื่นๆ
นอกจากเรื่องการถ่ายภาพกลางคืน และ กลางวัน แล้ว Huawei Nova 4 ยังสามารถเลือกถ่ายภาพแบบ Portrait Mode ที่ละลายหลังได้และปรับ Boken ให้เป็นลายแบบอื่นๆ ได้มากมาย นอกจากนี้ ในเรื่องของรูรับแสงยังปรับได้ถึง F 0.95 โดยการทำงานของ Software ออกมาถือว่าเนียนตาดีเหมือนกัน
นอกจากนี้ในรูปแบบการภาพอื่นๆ มีทั้งการถ่ายภาพ AR, Panorama, Pro Mode ที่ปรับได้เยอะคุณภาพออกมาดีกว่าโปร ถ้าปรับกันถูกต้อง และอื่น ๆ อีกเพี้ยบ แถมโหลดเพิ่มได้อีกนะครับ
กล้องของ Huawei Nova 4 ถ่ายวิดีโอเป็นอย่างไร
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วย Huawei Nova 4 ตั้งความละเอียดสูงสุดที่ Full HD มาพร้อมกับ Beauty Video มาให้ ถ้าไม่พอแล้วมันมีระบบ EIS ที่ทำงานในระบบกันสั่นได้นิ่งพอสมควร
กล้องหน้าบนจอแบบ Punch Display ขนาด 25 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพเป็นอย่างไร
สำหรับกล้องหน้าของ Huawei Nova 4 มีขนาดแค่ 3.05 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีหลายสิ่ง รวมถึงการใส่ AI Beauty, AI Scene Camera จนทำให้เป็นมือถืออีกรุ่นที่ถ่ายภาพได้สวยทั้งกล้องหน้าและหลัง
แบตเตอรี่และการชาร์จไฟ
แบตเตอรี่ของ Huawei Nova 4 มีขนาด 3750 mAh เท่ากับ Huawei Nova 3 ทุกประการ และด้วยหน้าจอขนาดใหญ่กว่าและฟีเจอร์ที่เยอะกว่าเล็กน้อยทำให้ผลการทดสอบแบตเตอรี่อยู่ได้ 8 ชั่วโมงครึ่ง แต่เมื่อลองใช้งานจริงยังถือว่าอยู่รอดแบบ วันต่อวันได้สบาย
ส่วนระบบชาร์จไฟด่วนของ Huawei นั้นจัดมาให้ในรุ่นนี้ด้วยการรองรับระบบ Fast Charge แบบเดียวกับ Nova 3 ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องของระบบชาร์จไฟเท่าไหร่
สรุปหลังจากทีมงาน Sanook! Hitech ได้สัมผัส Huawei Nova 4 ในระยะเวลาหนึ่ง
เป็นมือถืออีกรุ่นที่เข้ามาพร้อมกับการแนะนำหน้าตาใหม่ ซึ่งเป็นเทรนด์มือถือในปี 2019 อย่าง Punch Display ที่มีกล้องเจาะรูเท่านั้น แต่ที่เหลือคือพื้นที่ของหน้าจอที่สามารถใช้งานสะดวก แต่ว่าอาจจะต้องทำใจกับแบตเตอรี่ที่ไม่ได้มากเท่าไหร่ กับเรื่องของบางสิ่งยังคงกั๊ก แต่เท่านี้ผมพูดเลยว่า มันก็จัดเต็มแล้วสำหรับมือถือระดับกลาง
เพราะราคาของ Huawei Nova 4 เคาะอยู่ที่ 16,990 บาท ทำให้ผู้ที่คิดจะซื้อมือถือระดับนี้ก็ใจสั่นไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับ Huawei Nova 3 ที่คาดว่าเหลืออีกไม่มาก คงไม่มีคำตอบอื่นว่า อัปเกรดมารุ่นนี้ดีกว่า ส่วนคู่แข่งนั้นขึ้นกับความพอใจในโจทย์ของคุณเอง
ปิดท้ายกับรีวิว Huawei Nova 4 ด้วยคำแนะนำว่า ถ้าต้องการมือถือที่หน้าตาล้ำหน้าไม่เหมือนใครกับเทคโนโลยีอัปเกรดจากรุ่นที่แล้วขึ้นมาระดับหนึ่ง และได้ระบบปฏิบัติการให้ล่าสุด โดยไม่ต้องจ่ายแพงเกินไป นี่ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าคบหา เพียงแต่มือถือรุ่นนี้จะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไปครับ
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่และสวยแปลกตา
- บอดี้ของเครื่องเบาและถือสะดวก
- สี Crush Blue สะดุดตา
- ได้สเปคระดับท็อป
- ได้ Android Pie พร้อม UI ระดับเรือธง
- กล้องความสามารถเยอะทั้งหน้าและหลัง
ข้อสังเกต
- ไม่กันน้ำ
- ตัวเครื่องลื่นจับได้ไม่อยู่มือเท่าไหร่
- กล้องขาดระยะ Tele
อัลบั้มภาพ 27 ภาพ