รีวิว "DJI OSMO Pocket" ไม้ Selfie ราคาหมื่นต้น กับความนิยมที่สุดของปี

รีวิว "DJI OSMO Pocket" ไม้ Selfie ราคาหมื่นต้น กับความนิยมที่สุดของปี

รีวิว "DJI OSMO Pocket" ไม้ Selfie ราคาหมื่นต้น กับความนิยมที่สุดของปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา มี Gadget สไตล์กล้องกันสั่นรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวและหลายคนรอคอยอย่างยาวนาน และขายดีจนเรียกได้ว่า ว้าว!!! ฉันอยากได้มัน จนกระทั่งมันขาดตลาดไป แน่นอนว่าผมกำลังพูดถึง DJI OSMO Pocket นั่นเอง

ทีม Sanook! Hitech ได้รับอุปกรณ์ตัวนี้มาลองใช้งานแบบระยะยาวพอสมควรเลยล่ะ คราวนี้มาดูกันว่า กล้องกันสั่นที่หลายคนอยากได้ มันมีสเปคอย่างไรและสุดท้ายมันน่าใช้จริงไหม

เปิดกล่องของ DJI OSMO Pocket

สำหรับคนที่ซื้อ DJI OSMO Pocket มาแล้วภายในจะมีอุปกรณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • กล้อง DJI OSMO Pocket 
  • ซองใส่พร้อมกับสายร้อยกับข้อมือ
  • สาย USB-C
  • ตัวเปลี่ยน Connector Lightning Port
  • ตัวเปลี่ยน Connector USB-C
  • คู่มือ และ ใบรับประกัน

เล่าเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องและการออกแบบดีไซน์ของ DJI OSMO Pocket

แรกเห็น DJI OSMO Pocket มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกลุ่มเดียวกัน บางคนก็นำมาเทียบกับไม้ Selfie ตัวนี้จะเล็กกว่าชัดเจน มาพร้อมกับส่วนบนสุดมีกล้องที่สามารถหมุนได้ 360 องศา แต่ว่าเวลาเปิดแล้วจะหมุนได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

ส่วนก้านนั้นสำหรับด้านหน้าจะมีแค่โลโก้ DJI สัมผัสแล้วเป็นแบบพลาสติกที่ดูสวยเหมือนกัน

ด้านข้างออกแบบเรียบง่าย ฝั่งซ้ายไว้สำหรับจับ เท่านั้น เพื่อความสะดวกในการถือ และฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ Micro SD Card

p1140206

p1140204

ด้านใต้ของเครื่องมาพร้อมกับ USB-C สำหรับชาร์จไฟ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แต่ล่าสุดใช้มา จะไม่สามารถดึงภาพจากกล้องได้โดยตรง

p1140209

ด้านหลังจะมีหน้าจอขนาดเล็กจิ๋ว สามารถทัชสกรีนได้ทั้งขึ้นลง, ปัดซ้าย หรือ ขวาก็ได้เช่นเดียวกัน พร้อมกับ Connector สำหรับเสียบกับมือถือ และปุ่มกด ฝั่งซ้ายจะเป็นการเปิดปิดเครื่องและการเปลี่ยนโหมด ส่วนอีกปุ่มจะเป็นปุ่ม สำหรับอัดวิดีโอ และปุ่ม เปิดปิดเครื่อง และส่วนนี้จะมีไมโครโฟน

น้ำหนัก / ความรู้สึกที่ได้จับ DJI OSMO Pocket

จากที่ได้ลองถือและสัมผัส พบว่า DJI OSMO Pocket เป็นกล้องถ่ายภาพ ที่เหมาะสมกับคนที่ชอบถ่ายวิดีโอ ด้วยน้ำหนักเบา และ ไม่ลื่นมือเท่าไหร่ แต่ว่าหน้าจอมันเล็กอาจจะทำให้หลายคนบอกว่าใช้ไม่ถนัด

 

อีกรูปแบบหนึ่ง ถ้านำ Connector เสียบกับมือถือก็อาจจะต้องแบกน้ำหนักมากขึ้นเพราะมีมือถือถ่วงไว้

 

เปิดเครื่องลองประสิทธิภาพของ DJI OSMO Pocket

เมื่อเปิดเครื่องมาแล้ว Gimball ของ DJI OSMO Pocket ขยับเพื่อบอกว่ามันพร้อมแล้ว การทำงานของ Gimball จะกันสั่นได้ทั้งหมด 3 แกนด้วยกัน ทำให้ไม้ว่าคุณจะขยับไปทางไหนมันก็จะนิ่ง

จุดเด่นของกล้องรุ่นนี้สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 4K 60FPS ถือว่ามากพอสมควร ส่วนภาพนิ่งรองรับความละเอียด 12 ล้านพิกเซลมุมมองกว้างสุดที่ 80 องศา ขนาดเซนเซอร์ 1 /2.3 เหมาะกับการถ่ายภาพในทุกภาพแสง

สำหรับรูปแบบการทำงาน ขอบ DJI OSMO Pocket จะสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น

  • FPV เป็นโหมดที่จะล็อกกล้องไว้ ต่อให้คุณขยับไปไหนก็ตามภาพจะไม่ได้เคลื่อนที่ แต่จะมีโหมดเปลี่ยนให้ Gimball กึ่งปิดอยู่ด้วยเช่นกัน ให้การทำงานนี้ชัดเจนเมื่อถ่ายวิดีโอเท่านั้น
  • Active Track เป็นการจับวัตถุ หรือ สิ่งมีชีวิต ทำให้เครื่องมันมีความลื่นไหลได้มากขึ้น
  • 3X3 Panorama การถ่ายภาพแบบ Panorama ในลักษณะที่กว้างขึ้น โดยการให้ Gimball เคลื่อนจาก A ไป B นั่นเอง
  • Motion Laps โหมดนี้ต้องการเชื่อมต่อกับมือถือ ผ่าน DJI MIMO โดยเวลาถ่ายกล้องจะเคลื่อนไปในทิศ A ไป B แบบรวดเร็ว การทำงานนี้จะเหมือนกับ DJI OSMO Mobile 2
  • Night Shot สำหรับโหมดนี้เอาใจคนถ่ายภาพกลางคืนที่จะขยายเวลาทำให้การถ่ายภาพกลางคืนทำได้ดีขึ้น โดยมือไม่ต้องนิ่งเพราะมันเป็น Gimball

เมื่อถ่ายภาพจาก DJI OSMO Pocket พบว่ารูปแบบของกล้องเอื้ออำนวยต่อการถ่ายภาพ แต่ว่า หลายคนบอกว่ามุมมองกว้างไม่พอเหมือนกับ Action Camera เพราะความ มันคนละกลุ่มกับ GoPro ดังนั้นเปรียบเทียบไม่ได้ และถือง่าย

p1140222
p1140224

แต่ถ้าลูกเล่นมันน้อยเกินไป DJI OSMO Pocket จะมาพร้อมกับ Application DJI Mimo ที่เสียบกับมือถือได้ทั้ง Lightning และ USB-C จะมีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมา เช่นการปรับโหมดโปรก็จะทำได้ดีขึ้น การตั้งเวลาถ่ายภาพ ได้ดีครบเหมือนกัน แต่ Connector จะไม่ได้จ่ายไฟให้มือถือ หรือ จ่ายไฟให้กับ OSMO Pocket นะครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายโดย DJI OSMO Pocket

 dji_0601
dji_0607

dji_0628
dji_0633
dji_0644

ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 875 mAh เท่านั้น สามารถใช้งานได้ยาวนาน 140 นาทีเท่านั้น ถ้าถ่ายวิดีโอ แต่ถ้าภาพนิ่งก็จะมานานมากขึ้น แต่ถ้าแบตฯ หมด จะชาร์จไฟได้นานถึง 73 นาทีเท่านั้น

และเรื่องความร้อนระหว่างถ่ายวิดีโอ เกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ หากเปิดตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของ กล้องแบบนี้ รวมถึง Action Camera ด้วยครับ

สรุปผลหลังทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ทดสอบและลองเล่น DJI OSMO Pocket มาสักระยะ

หลังจากทดสอง DJI OSMO Pocket ที่ใช้เวลาในการทดลองนานสักหน่อย เพื่อหาข้อมูลมานำเสนอ ก็ยังคงบอกได้ว่าเป็นกล้องที่เหมาะกับคนถ่ายวิดีโอ และทำ VLOG จะไม่สามารถเลือกมุมมองให้กว้างได้ หรือกันน้ำได้ในรูปแบบ Action Camera

ตัวเครื่องอย่างเดียวราคาเปิดตัวที่ 13,500 บาท เมื่อราคาใกล้เคียงกับ GoPro Hero 7 Black ทำให้หลายคนลังเล ซึ่งบทความเปรียบเทียบนั้นจะออกมาภายหลัง เพียงบอกได้ตอนนี้ว่า ทั้งคู่ไม่สามารถเทียบกันได้โดยตรง เพราะอะไรไว้ติดตามต่อ

แต่ตอนนี้ทิ้งท้ายว่า ถ้าต้องการกล้องติด Gimball ที่ไว้ใจได้และน่าเชื่อถือที่สุด พร้อมกับเชื่อมต่อมือถือแบบเสียบสายได้แล้วไม่เกะกะ ต้องการถ่ายวิดีโออย่างเดียว DJI OSMO Pocket เป็นคำตอบที่น่าพอใจอีกตัวเลือกหนึ่งครับ

จุดเด่น

  • เป็น Gimball พกพาสะดวกใช้ง่าย
  • ถ่ายภาพและวิดีโอ ได้ดี
  • ระบบกันสั่นทำงานได้จริง
  • Application ใช้งานง่ายและครอบคลุม
  • ไมโครโฟนบันทึกเสียงชัดเจน
  • ราคา สมเหตุสมผล

ข้อสังเกต

  • อุปกรณ์เสริมยังมีราคาสูง
  • แบตเตอรี่ไม่ทนเท่าไหร่
  • หน้าจอเล็กมาก มองภาพได้ไม่ละเอียด
  • วัสดุ ดูจะเปราะบางไปหน่อย

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ รีวิว "DJI OSMO Pocket" ไม้ Selfie ราคาหมื่นต้น กับความนิยมที่สุดของปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook