Adobe โชว์ความสามารถใหม่ใน Creative Cloud ทั้งลบวัตถุในวิดีโอ จัดระเบียบสร้าง Storyboard!

อะโดบี (Adobe) ได้เปิดเผยถึงความสามารถและนวัตกรรมสำหรับเครื่องมือตัดต่อวิดีโอและเสียงใหม่บน Adobe Creative Cloud เวอร์ชั่นล่าสุดที่กำลังจะมาถึงนี้ผ่านงาน NAB Show 2019 มหกรรมรวมนวัตกรรมใหม่ของเครื่องมือสื่อจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งในครั้งนี้ทาง Adobe ก็ได้เครดิตมากมายจากหลากหลายภาพยนตร์และซีรีส์ที่ได้นำเครื่องมือใหม่ ๆ ของพวกเขาไปใช้ อาทิ ภาพยนตร์ Clemency, ช่อง Fox Sports, ภาพยนตร์เรื่อง The Last Black Man in San Francisco, ซีรีส์ Wu-Tang Clan: Of Mics and Men ฯลฯ

ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่พร้อมใช้งานในวันนี้ได้แก่ Content-Aware Fill สำหรับวิดีโอที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จากทาง Adobe Sensei และ Machine Learning ของอะโดบี, การปรับปรุงประสิทธิภาพของ GPU แบบดูอัล และการปรับปรุงการเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์สำหรับวีดีโอฟอร์แมต HEVC และ H.264 ใน Premiere Pro ส่วนใน After Effects มีการปรับปรุงในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงเอฟเฟ็กต์ที่เร่งความเร็วด้วย GPU เช่น การเปลี่ยนสี และการทำให้ขอบขรุขระ

ลบวัตถุที่ไม่ต้องการโดยอัตโนมัติด้วย Content-Aware Fill บน After Effects

เดิมใช้ชื่อว่า Project Cloak ทำงานด้วย Adobe Sensei และสามารถลบองค์ประกอบภาพที่ไม่ต้องการได้อัตโนมัติ เช่น ไมโครโฟนอัดเสียง ป้าย โลโก้ รวมทั้งบุคคลออกจากภาพวิดีโอ จึงช่วยประหยัดเวลานตัดต่อได้หลายชั่วโมง

จัดระเบียบและสร้างสตอรี่บอร์ดสำหรับวีดีโอของคุณใน Freeform Project ใน Premiere Pro

จัดเรียงแอสเซ็ทต่าง ๆ และบันทึกเลย์เอาต์สำหรับการเลือกภาพ งานโปรดักชั่น การระดมความคิดเกี่ยวกับไอเดียเรื่องราว และตัดต่อวิดีโอที่ประกอบเข้าด้วยกัน

ออกแบบอย่างแม่นยำและสอดคล้องกันด้วย Rulers and Guides บน Premiere Pro

ทำงานกับเครื่องมือการออกแบบของอะโดบีที่คุณคุ้นเคยภายใน Premiere Pro เพิ่มความสะดวกในการปรับเปลี่ยนข้อความชื่อเรื่องหรือคำบรรยาย เอฟเฟ็กต์แบบเคลื่อนไหว และทำให้ผลงานมีลักษณะสอดคล้องกัน

ปรับแต่งเสียงอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพด้วย Punch and Roll ใน Audition

ฟีเจอร์ใหม่มอบเวิร์กโฟลว์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับงานโปรดักชั่นใน Waveform และ Multitrack สำหรับการบันทึกแบบยาว รวมถึงการพากย์เสียงและการสร้างออดิโอบุ๊ก

สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมใน Twitch Live-Streaming Triggers โดยใช้ Character Animator Extension

ปรับปรุงไลฟ์สตรีม โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมติดต่อสื่อสารโดยใช้ตัวละครในแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เต้นรำ และทำท่าทางต่างๆ นับเป็นรูปแบบใหม่ของการโต้ตอบ และสร้างรายได้โดยใช้บิต (Bits) เพื่อเรียกใช้การกระทำ