Facebook โชว์สิทธิบัตรใหม่ วิเคราะห์ภาพสินค้าที่ผู้ใช้ชอบ แล้วส่งข้อมูลให้แบรนด์

นักโฆษณาอาจจะดีใจเมื่อได้เห็นสิทธิบัตรใหม่ล่าสุดของ Facebook เพราะวันนี้ยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมประยุกต์เทคโนโลยีวิเคราะห์รูปภาพ มาใช้เป็นระบบสแกนภาพสิ่งของเครื่องใช้ของชาวโซเชียล ว่าเป็นสินค้าแบรนด์ใด ก่อนจะส่งข้อมูลเหล่านี้ต่อไปให้แบรนด์ต่างๆ เพื่อพิจารณาวางกลยุทธ์ในการโฆษณาออนไลน์ให้ดีกว่าเดิม

สิทธิบัตรใหม่ของ Facebook นั้นมีชื่อตรงไปตรงมาว่า “Computer-vision content detection for sponsored stories” ซึ่งเป็นสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีที่จะทำให้เครือข่ายสังคมสามารถสแกนรูปภาพของทุกคน เพื่อดูว่าใครชอบผลิตภัณฑ์ใด แล้วส่งข้อมูลนั้นไปยังนักโฆษณาที่ต้องการขายผลิตภัณฑ์ให้ได้มากขึ้น ในเอกสารระบุว่าเทคโนโลยีนี้สามารถใช้กับระบบอัลกอริธึมที่ทำให้คอมพิวเตอร์มองเห็นวัตถุในมัลติมีเดียที่ผู้ใช้อัปโหลดเข้าสู่ระบบ รวมถึงตรวจจับวัตถุเฉพาะหรือ specific object ภายในมัลติมีเดียนั้นได้ ซึ่งอาจมีการโปรโมทในพื้นที่ sponsored story หรือเรื่องราวที่เป็นโฆษณาต่อไป

รู้หมดในภาพมีแบรนด์อะไร

สิทธิบัตรนี้ทำให้วงการโฆษณาออนไลน์ฮือฮากันมาก เพราะหมายความว่าถ้าผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งถ่ายรูปเซลฟี่กับเครื่องดื่มแบรนด์ Starbucks แล้วแชร์ภาพนั้นบน Facebook หรือ Instagram ที่อยู่ในเครือ Facebook ด้วย เทคโนโลยีใหม่ของ Facebook จะสามารถสแกนรูปถ่ายนั้นและรับรู้ว่าถ้วยนั้นเป็นถ้วย Starbucks จากนั้น Facebook สามารถขายข้อมูลให้กับ Starbucks เอง เพื่อเตือนยักษ์ใหญ่กาแฟว่าผู้ใช้รายนี้ชอบเครื่องดื่มนี้ ซึ่งมีโอกาสสูงที่ Starbucks อาจจะซื้อโฆษณาบน Facebook เพื่อขายเครื่องดื่มให้ผู้ใช้รายนั้นได้มากขึ้น

นอกจากนี้ Facebook ยังสามารถเพิ่มรูปภาพนั้นลงในฟีดของเพื่อน ในฐานะ sponsored story ที่ได้รับการสนับสนุนได้โดยไม่ต้องใช้สื่อโฆษณาใหม่ด้วย

จุดนี้สื่ออเมริกันวิเคราะห์ว่า การใช้อัลกอริทึมในการสแกนรูปถ่ายของชาว Facebook เพื่อดูว่าแต่ละคนชื่นชอบผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ใดนั้นสามารถลบขั้นตอนยุ่งยากในการโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมาย ทั้งการติด tag หรือการโพสต์กระตุ้นลูกเพจที่แบรนด์ต้องทำ เรียกว่าทุกอย่างจะง่ายขึ้นทันตาหากมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ Facebook รู้จักแบรนด์จากการดูภาพของผู้ใช้ โดยสามารถเริ่มจากการขายโฆษณาตามนั้นก่อนจะต่อยอดในมุมอื่นต่อไป

นอกจาก Starbucks อีกตัวอย่างที่ถูกอธิบายในเอกสารยื่นจดสิทธิบัตรคือ Grey Goose vodka ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Facebook มีระบบที่สามารถตรวจจับขวดวอดก้าในรูปถ่ายได้อัตโนมัติ ระบบนี้สามารถระบุยี่ห้อวอดก้าที่ผู้ใช้รายนั้นชื่นชอบ และประสานงานกับแบรนด์เพื่อสร้างโฆษณาออนไลน์ต่อไป

กรองกลุ่มเป้าหมายได้

ตามสิทธิบัตรแล้ว Facebook ยังสามารถใช้ภาพถ่ายที่ทุกคนโพสต์เพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลประชากรอื่น ๆ ได้ด้วย เช่นในกรณีของ Grey Goose นั้นอาจระบุความต้องการให้ Facebook ติดตามความนิยมของวอดก้าในกลุ่มผู้หญิงอายุ 27-35 ปีที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ซึ่ง Facebook จะสามารถสแกนภาพและสร้างแผนที่แสดงความนิยม โดยที่เจ้าของแบรนด์สามารถปรับแต่งตัวกรองอื่นเพื่อทำแคมเปญพิเศษได้อย่างละเอียด

อย่างไรก็ตาม การจดสิทธิบัตรนี้ไม่ได้แปลว่า Facebook มีแผนจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งานจริง เพราะ Facebook นั้นไม่ต่างจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่รายอื่นที่มักจะยื่นขอจดสิทธิบัตรความคิดที่เกิดขึ้นโดยไม่มีแผนที่จะดำเนินการจริง ทำให้โลกอาจไม่ได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของสิทธิบัตรใหม่นี้ก็ได้ ทั้งที่เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ผิดธรรมชาติของ Facebook ที่สร้างรายได้หลักจากการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใช้ผ่านนักโฆษณา