12 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้ว่ามีใน "Samsung Galaxy Fold" เพราะ Samsung ไม่ได้พูดออกมา

12 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้ว่ามีใน "Samsung Galaxy Fold" เพราะ Samsung ไม่ได้พูดออกมา

12 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้ว่ามีใน "Samsung Galaxy Fold" เพราะ Samsung ไม่ได้พูดออกมา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับ Smart Phone รุ่นใหม่และถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับวงการมือถืออย่าง Galaxy Fold ในคราวนี้เว็บไซต์ GSMArena พบว่า 14 สิ่งที่ Samsung ไม่เคยบอกมาก่อน มาดูกันว่า มันมีจริงหรือไม่

แต่สำหรับบทความนี้ทีม Sanook! Hitech จะขอสรุปแค่ 12 ข้อที่คุณไม่รู้จริงๆ ให้ทราบ พร้อมมาเริ่มกันเลย

1.เล่นเกมจะต้องเป็นหน้าจอแบบกว้างสุด เปลี่ยนมุมมองไม่ได้

 

สำหรับคนที่ต้องการนำ Galaxy Fold มาเล่นเกม จะต้องใช้หน้าจอแบบแนวนอนหรือ Landscape เท่านั้น แต่หน้าจอไม่สามารถกลับ (Rotate) ได้ ซึ่งมีผลดีคือ ลำโพงของเครื่องไม่ถูกบังนั่นเอง

2.ไม่ใช่ Apps ทั้งหมดที่จะรองรับการทำหน้าจอเล็ก

 

หาก Apps ที่คุณลงไม่ได้ถูกให้กำหนดมีการขยายเล็กหรือใหญ่ได้ ก็จะทำให้คุณไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ 3 หน้าจอใน 1 Apps ได้ เช่นถ้า Apps ของธนาคาร หรือ ไม่ใช่ Apps ยอดนิยม ก็จะพบว่า หน้าจอมันก็จะแสดงผลแบบหน้าใหญ่หน้าเดียวเท่านั้น

3.คุณภาพกล้องคล้ายกับ Galaxy S10+

 

ด้วยความที่ติดตั้งกล้องทั้งหมด 3 ตัวแต่ว่าทิศทางการวางนั้นจะคล้ายกับ Galaxy A7 2018 คือเป็นแนวตั้ง แต่ว่าสเปกกล้องเหมือนกับ Galaxy S10+ แค่การถ่ายเหมือนกับการถือ iPad จึงทำให้ก้างสุดแล้วคุณภาพยังดีอยู่

4.หน้าจอด้านหน้าสุด คุณภาพไม่ได้ดีเท่าจอข้างใน

แม้ว่า Samsung Galaxy Fold จะมีหน้าจอด้านหน้าที่สามารถบอกสถานะและใช้งานได้ระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากการออกแบบให้สะท้อนและดูเหมือนกับกระจกมากกว่า ดันนั้นอาจจะจะต้องนำมาใช้งานถ่ายภาพ ดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่

5.กลไกการพับแข็งแรงและเป็นแม่เหล็กด้วย

(วิดีโอจาก GSMArena.com)

หากจำสิ่งของที่เป็นโลหะเช่นเหรียญ วางรอบๆ กับของที่พับเครื่องของ Galaxy Fold จะพบว่ามีการดูดติดเหมือนกับแม่เหล็กได้เลย

6.กางง่ายแค่มือเดียว

(วิดีโอจาก GSMArena.com)

ต่อจากเรื่องของบานพับที่แข็งแรงขนาดนั้น แต่คุณไม่รู้แน่นอนว่า แค่มือเดียวก็ดีดให้หน้าจอใหญ่ขึ้นได้ง่าย

7.กางแล้วเป็น Speaker เวลาโทร

 

สำหรับคนที่สงสัยว่าเวลาโทรของ Samsung Galaxy Fold เป็นอย่างไร คำตอบคือจะเป็น Speaker อัตโนมัติ แต่ถ้าพับเก็บจะเป็นการโทรแบบปกติ

8.ปุ่ม Bixby ยังคงอยู่

เนื่องจากระบบความปลอดภัยของ Samsung Galaxy Fold ยังคงเป็นแบบสแกนลายนิ้วมือด้วยปุ่มเปิดปิดเครื่อง ทำให้ปุ่ม Bixby ยังคงต้องมีนั่นคือปุ่มถัดขึ้นไประหว่างปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดเครื่อง

9.เคสติดกล่องเป็นแบบแยกส่วน

สำหรับคนที่หวังว่าจะได้เคสแบบเหมือนกับมือถือทั่วไป แต่สำหรับ Galaxy Fold นั้นข่าวร้ายคือเคสติดกล่องเขามาแบบแยกชิ้น อย่างที่เห็น

10.หน้าจอแยก 3 ส่วนแต่ Keyboard ยังเลือกแบบพิมพ์ได้

จากคุณสมบัติที่แยกหน้าจอได้ทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกันทำให้คุณสงสัยว่าแล้วจะพิมพ์อย่างไร คำตอบคือ Keyboard จะแสดงทับหน้าจอที่ 2 และครึ่งหนึ่งของหน้าจอที่ 3 แบบแนวตั้ง แต่ว่าก็มีข่าวคือ Keyboard มาให้เลือกทั้งแบบมาตรฐาน, แยกนิ้วให้กด หรือจะเป็นแบบลอยก็ได้

11.มีฟีเจอร์รองรับ Wireless Charge และจ่ายไฟออกได้

สำหรับ Samsung Galaxy Fold ยังคงได้ระบบจ่ายไฟออกหรือ Wireless Power Share ได้เช่นเดียวกัน กับ Galaxy S10 แต่ว่าระบบ Wireless Charge ยังคงรองรับเหมือนเดิม

12.เป็นมือถือรุ่นเดียวที่ซื้อแล้วแถม Galaxy Buds

เนื่องจากมือถือรุ่นนี้ไม่มีหูฟังแถมมาให้และช่องเสียบหูฟังก็ไม่มีดังนั้น Samsung ตัดปัญหาในเรื่องของหูฟังทิ้งไปด้วยการให้ Galaxy Buds ไปเลย

ถึงแม้ว่า เว็บไซต์ GSMArena จะสรุปออกมาถึง 14 ข้อแต่ทีม Sanook! Hitech ย่อให้เลือก 12 ข้อที่คุณควรจะรู้มากที่สุด แต่มือถือรุ่นนี้จะน่าใช้จริงหรือไม่ คงยังตอบไม่ได้ จนกว่าจะเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งต้องลุ้นกันหนักว่าจะมาหรือไม่

 

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ ของ 12 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้ว่ามีใน "Samsung Galaxy Fold" เพราะ Samsung ไม่ได้พูดออกมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook