รีวิว "Huawei P30 Pro" Super Camera Phone จบทุกเรื่องกล้องในตัวเดียว
กลับมาพบกับการรีวิวมือถือและ Gadget จาก Sanook! Hitech กันอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้ทีม Sanook! Hitech ได้รับ Huawei P30 Pro ที่หลายคนรอคอยว่ารุ่นนี้จะมีดีแค่ไหน ในหลายเรื่องๆ และมันดีแค่กล้องจริงไหม มาดูกันกับรีวิวตัวนี้
แกะกล่องของ Huawei P30 Pro
ไหนๆ ทีม Sanook! Hitech ได้เครื่องยกกล่องมารีวิวแล้ว มาดูกันว่าในกล่องมือถือรุ่นนี้ จะมีอะไรบ้าง
- ตัวเครื่อง Huawei P30 Pro
- ที่จิ้มถาดใส่ซิม
- หูฟัง
- สาย USB-C
- ปลั๊กชาร์จไฟ 40W
- คู่มือใช้งานและความปลอดภัย
- เคสใสของเครื่อง
รูปลักษณ์หน้าตาของ Huawei P30 Pro
เริ่มต้นจากหน้าสุดของเครื่อง คุณจะพบกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.47 นิ้วความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล และหน้าจอโค้งมน มีจุดเด่นที่ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แต่ทำให้ภาพรวมของตัวเครื่องเล็กลงกว่าเดิมส่งผลให้น้ำหนักเครื่องเบาขึ้น
ส่วนบนของหน้าจอมีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เป็นทรงหยดน้ำ และมาพร้อมกับเซนเซอร์ครบครัน แต่ว่า หน้าจอนี้มีการติดตั้งลำโพงภายในหน้าจอทำให้คุณสนทนาได้ง่ายแม้ว่าจะย้ายตำแหน่งหูไปตรงไหน แต่ไกลสุดได้แค่กลางเครื่องเท่านั้น และยังสามารถเปิด Notch ได้ โดยเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > Display Setting (ตั้งค่าหน้าจอ)> Notch (ขอบดำ)
ส่วนล่างของหน้าจอ มีปุ่มควบคุมของเครื่องที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้โดยสามารถปรับได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > System (ระบบ) > Navigation (การควบคุมทิศทางของระบบ) ซึ่งเปลี่ยนได้ทั้งหมดดังนี้
- ปุ่มกดธรรมดา สามารถเลือก Back, Home และ Recent Apps สามารถเปลี่ยนแปลงได้
- ท่าทาง (Gesture) จะใช้การปัดซ้ายมาขวาคือการย้อนกลับ, ปัดขึ้นแล้วปล่อย เท่ากับ กลับหน้าหลัก และปัดขึ้นค้างไว้จะเป็นหน้าเลือก Apps ทำงานล่าสุด หรือ Recent Apps สุดท้ายปัดซ้ายหรือขวาเพื่อเข้าสู่ Google Search
- และสามารถเปิดปุ่มลักษณะเหมือน iPhone เรียกฟีเจอร์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน
- ส่วนนี้จะมีระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอด้วย
รอบตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมที่มีเกรดดีมีคุณภาพพอสมควร มาพร้อมกับการจัดวางที่เรียบง่าย เริ่มต้นจากฝั่งซ้ายเน้นวางตัวเครื่องเพื่อใช้งานทั้งเล่นเกม และ การถ่ายภาพ เพราะไม่ได้ติดตั้งปุ่มอะไรมาให้
ฝั่งขวามีปุ่มเปิด / ปิด ตัวเครื่อง ขนาดเล็กแต่มีบอกเครื่องหมายสีแดงที่ชัดเจน, ปุ่มปรับระดับเสียงที่สามารถกดสั่งงานได้อย่างง่ายดายและยังเป็นปุ่ม Shutter ได้
บนสุดของเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน, อินฟราเรดสำหรับใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
ล่างสุดของ Huawei P30 Pro จะมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ด Nano SIM ได้ 2 ช่องและมีช่องหนึ่งเปลี่ยนเป็นความจำแบบ Nano Memory, USB-C , ไมโครโฟน, ลำโพงตัวเครื่องที่ออกเสียงทั้งหมด มีตัวเดียว
พลิกมาด้านหลังของ Huawei P30 Pro มาพร้อมกับสีสันตัวเครื่องที่น่าสนใจเลยทีเดียว มีจุดเด่นคือกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว มาพร้อมกับ IR และมาพร้อมกับ LED ทั้งหมด 2 เลนส์และโลโก้ Leica และ โลโก้ Huawei แต่ด้านหลังเป็นสีไล่เฉดสี และการออกแบบคล้ายกับ Huawei P20 Pro รุ่นก่อนหน้านี้
ฟิลลิ่งการถือ / น้ำหนัก / สีสันของเครื่อง
เมื่อลองถือเครื่อง Huawei P30 Pro สิ่งที่น่าสนใจคือ น้ำหนักเครื่องในกระดาษบอกว่า 192 กรัม แต่การถือไม่ได้หนักอย่างที่คิดเลยทีเดียว ความลื่นก็ระดับหนึ่ง เมื่อเครื่องมีการแถมเคสมาด้วยแนะว่าใส่เคสแล้วจะดีที่สุดเพราะกล้องหลังค่อนข้างนูน
ส่วนสีสันของ Huawei P30 Pro สำหรับในประเทศไทยมาครบทุกสี ได้แก่ Midnight Black, Breathing Crystal และ Aurora (มีจำหน่ายแล้ว) และ Amber Sunrise Red ที่จะมาขายที่หลัง
เปิดเครื่องลองใช้ทุกมุมของ Huawei P30 Pro
รายละเอียดของ Huawei P30 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง 158 x 73 x 8.41 มิลลิเมตร
- หนัก 192 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (Full HD+) อัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Kirin 980 Octa-Core Processor
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G76 MP10
- หน่วยความจำแรม (RAM) 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) 256GB
- รองรับ Nano Memory สูงสุด 256GB
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 4 เลนส์ (Leica Triple Camera) ประกอบไปด้วย
>> กล้องตัวหลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล มาพร้อมรูรับแสงกว้าง f1.6 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS
>> กล้องตัวที่สองความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ Ultra Wide รูรับแสง F 2.2
>> กล้องตัวที่สามความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ Telephoto ประกอบไปด้วย ซูม 3 Optical Digital, Zoom 5 เท่า + OIS รูรับแสง F2.4
>> นอกกล้องตัวสุดท้ายเป็น ToF สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- รองรับฟีเจอร์ระบบสแกนใบหน้า
- การป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย EMUI 9.1
- Wireless Charge 20W
- แบตเตอรี่ 4200mAh
- รองรับเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ Super Charge ของ Huawei P30 Pro กำลัง 40W แบบเดียวกับ Mate 20 Pro USB-C
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- ลำโพง Stereo ด้านล่าง ตัวเดียว
- ลำโพงสนทนาแบบ Acoustics Display Technology ทำให้ลำโพงฝั่งหน้าจอ ซึ่งแปะหน้าแล้วฟังเสียงสนทนาได้ดีทุกรูปแบบของหูของคน (เฉพาะ P30 Pro) เท่ากับลำโพงเพื่อความบันเทิงของ Huawei P30 Pro จะมีเพียงตำแหน่งเดียว
- สี Midnight Black, Breathing Crystal และ Aurora และสีใหม่อย่างสีแดง Amber Sunrise Red
การทดสอบประสิทธิภาพ / การเล่นเกม
คะแนนประสิทธิภาพของ AnTuTu ทำได้ทั้ง 2 โหมด แบ่งออกเป็นปกติ 280,173 คะแนน ถ้าเป็น Performance Mode จะได้ 317,347 คะแนน
ส่วน Geek Bench 4 ผลที่ได้นั้นคือ ในรูปแบบปกติ Single ได้ 3254 คะแนน และ Multi Core ได้ 9674 และ Performace Mode Single Core ได้ 3332 คะแนน Multi Core 9971 คะแนน
แทบไม่ต้องพูดเยอะให้เจ็บคอ ถ้าต้องการเล่นเกมลื่นในมือถือรุ่นนี้ เปิด Performace Mode ไว้จะดี แต่เตือนไว้ก่อน แบตฯ กินพอสมควร ถ้าไม่ต้องการรีดกำลังขนาดนี้โหมดปกติให้ NPU จัดการผมว่าก็ไม่เลวนะครับ
การเชื่อมต่อ และ เมื่อใช้นำทาง
ในการทดสอบเชื่อมต่อของ Huawei P30 รองรับทั้ง WiFi 802.11 AC, Bluetooth 5.0 ถือว่ารุ่นใหม่และรองรับกับการทำงาน ถ้าไม่มีสัญญาณจะปิดเองอัตโนมัติ ส่วนการทำงานในระบบนำทางหรือการจับสัญญาณ GPS นี่คือมือถืออีกตัวหนึ่งที่ไว้ใจในเรื่องการนำทางได้
การแสดงผลและระบบเสียง
หน้าจอของ Huawei P30 Pro เลือกใช้ AMOLED แม้ว่าจะไม่ได้ล้ำยุคขนาดนั้น แต่ว่าน่าสนใจแม้ว่าจะลดสเปคแต่ก็ยังให้การแสดงผลที่คมชัดและดูสมกับเป็น AMOLED อยู่ดีและปรับความสว่างของหน้าจอได้ แต่ว่าหน้าจอยังไม่ได้สวยเท่ากับคู่แข่งบางตัว
ส่วนระบบเสียของ Dolby ATOMS ที่ทำให้มีจุดเด่นที่ทำให้เสียงเวลาเสียบหูฟังทำให้คุณภาพออกมาดี แต่ว่าเมื่อให้เสียงออกจากตัวเครื่อง กลับกลายเป็น ธรรมดาเพราะให้ลำโพงตัวเครื่องเพียงแค่ตัวเดียวที่อยู่ด้านล่าง
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ / ความปลอดภัย
สำหรับระบบปฏิบัติการใน Huawei P30 Pro เลือกใช้ Android 9 Pie ครอบด้วย EMUI 9.1 ที่มีการปรับปรุงในเรื่องของความเสถียรที่ดีขึ้นและใช้งานได้ง่ายเหมือนเดิม ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามา สามารถเข้ามา Digital Balance ช่วยควบคุมในการใช้งานมือถือ และตั้งจำกัดระยะเวลาการใช้งานได้, Huawei Share ที่ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยส่งไปยังอุปกรณ์ หรือ คอมพิวเตอร์ของ Huawei ได้ รวมถึง Eye Comfort ระบบถนอมสายตาอีกด้วย
ข้อสังเกตคือ AI จะคอยจัดการปิดโปรแกรมเพื่อให้เคลื่อนลื่นไหลอยู่เสมอ บางทีก็เป็นจุดที่น่าหงุดหงิดเหมือนกัน ซึ่งจุดนี้ไม่สามารถปิดได้แต่ปรับพฤติกรรมการใช้งานได้เช่น ชิงปิดก่อน เป็นต้น
ลูกเล่นของตัวเครื่องยังคงเหมือนมือถือทั่วไปอย่างที่ ระบบ Android โดยใช้และมีเพิ่ม เข็มทิศ, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, กระจกส่อง, ไฟฉาย, โหมดปาร์ตี้ สมุดบันทึก และ ระบบอินฟราเรดเพื่อให้ส่งคำสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่าน Application IR Remote เป็นต้น
สำหรับเรื่องของความปลอดภัยของ Huawei P30 Pro จะมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอที่ปรับปรุงให้ทำงานได้รวดเร็วเครื่องเลยทีเดียว และมาพร้อมกับสแกนใบหน้าที่ยังคงยืนยันว่า ทำได้เร็วเหมือนกันเมื่อเทียบกับ Huawei Mate 20 Pro
ส่วนอีกระบบคือการสแกนใบหน้าที่เป็นแบบ 2D แต่ว่ามีเรื่องของการเพิ่มระบบแสงที่สแกนได้ดีขึ้น
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
สำหรับกล้องหลังของ Huawei P30 Pro มีความโดดเด่นที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะติดตั้งกล้องหลังมาให้ 4 ตัวประกอบด้วย
>> กล้องตัวหลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล มาพร้อมรูรับแสงกว้าง f1.6 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS
>> กล้องตัวที่สองความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ Ultra Wide รูรับแสง F 2.2
>> กล้องตัวที่สามความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ Telephoto ประกอบไปด้วย ซูม 3 Optical Digital, Zoom 5 เท่า + OIS รูรับแสง F2.4
เรียกได้ว่าเป็นจำนวนกล้องมากที่สุดเลยทีเดียวเลย และเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อให้กล้อง Huawei P30 Pro โดดเด่นขึ้นมาเลยทีเดียว
ลูกเล่นของการถ่ายภาพ
หน้าตาเมนูกล้องกลับไม่ได้แตกต่างจากมือถือรุ่นอื่นๆ ของ Huawei ทำให้มีความเข้าใจ ทั้งโหมด Photo ที่มี AI Scene ปรับอัตโนมัติและรูปแบบของ โทนสีที่แล้วแต่เราชอบได้ หรือ โหมดวิดีโอที่เปลี่ยนแปลง Beauty Mode ได้เช่นเดียวกัน และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ผลที่ได้ติดตามต่อในลำดับถัดไป
การถ่ายภาพ กลางวัน / กลางคืน / รูปแบบการถ่ายภาพอื่นๆ
ภาพกลางวัน อาจจะดูธรรมดา แต่ว่าสีสันอาจจะมองว่าไม่จัดจ้านเท่าไหร่ แต่ Effect ละลายหลังทำได้ดี
แสงน้อยๆ ในฮอลก็เอาอยู่
ภาพกลางคืน ข้อดีคือ ระบบเรื่องของถ่ายภาพที่น่าถ่ายภาพเลย และ โหมดภาพกลางคืนโดยเฉพาะ ก็จะได้มิติที่ดีกว่าเล็กน้อย ถ้าสังเกตให้ดี
โหมดการถ่ายภาพอื่นมีให้เลือกมากมายทั้งการถ่าย Light painting, ละลายหลัง, Qmoji และอื่นๆ อีกมากมาย
ซูมเยอะๆ ไว้ทำอะไร
สำหรับมือถือรุ่นนี้สามารถซูมแบบ Optical ผ่านเลนส์ได้ 5 เท่า, Hybrid Zoom 10 เท่า จริงๆ 2 รูปแบบนี้สำหรับต้องการถ่ายเจาะ หรือต้องการถ่าย Concert ที่สามารถถ่ายเจาะได้อย่างง่ายดาย ส่วน Digital Zoom 50 เท่า ไว้ถ่ายไกลๆ เช่นต้องการเจาะรายละเอียด หรือ พระจันทร์ แต่ต้องทำใจ ว่าภาพแตกแน่นอน
การถ่ายวิดีโอของ Huawei P30 Pro
การถ่ายวิดีโอได้แบบความละเอียด 4K ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว มาพร้อมกับรูปแบบ Effect มีทั้ง AI กล้องจะเลือกสีที่เลือกสีเองแต่ให้ที่เหลือเป็นขาวดำไป และมีรูปแบบการถ่ายวิดีโอให้เลือก 2 รูปแบบได้แก่ แบบปกติ และ Dual View ซูมและปกติในเวลาเดียวกัน ส่วนกันสั่นถือว่าดีเลยทีเดียว อย่างที่เห็นในภาพ คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะได้อัปเดตกันในไม่ช้า สำหรับวิดีโอสามารถใช้ซูมได้ไกลสุด 15 เท่า ทั้งแบบปกติ และ Dual View
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลเป็นอย่างไร
ในการเรื่องการถ่ายภาพ Selfie ถือว่าลงตัว มาพร้อมการเลือก Effect ที่น่าสนใจ และวิดีโอ ก็มีให้ภาพออกมาดูดีได้ แต่รูปแบบวิดีโอยังทำได้ที่ความละเอียด Full HD ผมมองว่า ก็ครบเครื่องแล้วนะครับ
แบตเตอรี่และการชาร์จไฟ
สำหรับแบตเตอรี่ของ Huawei P30 Pro อัดมาให้ถึง 4200 mAh เมื่อรองรับการใช้งานสามารถใช้งาน ถ้าเป็นการทดสอบโดยใช้โปรแกรมทดสอบทั้งเล่นเกม และ โทร, Social Network เล่นเกมบ้าง บางเวลาจะอยู่ได้เฉลี่ย 12 ชั่วโมงได้สบายๆ แต่การทดสอบผ่านโปรแกรม ทำได้ประมาณ 13 ชั่วโมงกว่า
แต่ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับระบบชาร์จไฟทำได้ที่ เพราะมีระบบ Super Charge กำลังไฟ 40W แรงมากที่สุดในมือถือระดับเดียวกัน แต่ถ้าต้องการชาร์จไร้สาย กำลังไฟสูงเหมือนกัน และทำ Wireless Reverse จ่ายไฟให้กับเพื่อนๆ ได้
สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ลองใช้ Huawei P30 Pro สักระยะเวลาหนึ่ง
เป็นอีกมือถือที่น่าประทับใจที่สุดในปีนี้ โดยเฉพาะเรื่องกล้องที่ยังลงตัวกับการถ่ายภาพกับเทคโนโลยีที่ใส่มาแบบอัดแน่น แต่เรื่องอื่นก็ไม่ได้ทิ้ง แถมยังได้เปรียบเรื่องของแบตเตอรี่ที่ทนทาน แต่ผมมองว่าวิดีโออาจจะยังเป็นเรื่องเดียวที่ผมว่ากล้องตัวนี้ถ้าปรับปรุงอีกนิดก็จะลงตัวขึ้น
สำหรับราคาเครื่องเปล่าของ Huawei P30 Pro ซึ่งเป็นราคาเปิดตัวอยู่ที่ 31,990 บาท จะถูกจะแพงก็ขึ้นอยู่กับ Operator เท่านั้น เรียกว่านี่คือสุดยอดมือถืออีกรุ่นหนึ่งที่ก็ยังคงทำได้ดีทั้งการถ่ายภาพและการใช้งานทั่วไป และน่าซื้อหามาใช้งานสำหรับ ผู้ที่ต้องการโจทย์มือถือที่ทำได้ดีทุกด้าน รวมถึงช่างภาพที่ต้องการอุปกรณ์ฉุกเฉิน หยิบมาถ่ายได้เลย ก็เลือกตัวนี้ได้
แต่การเปรียบเทียบกับตัวไหน ก็ลองย้อนอ่านรีวิวมือถือในระดับเดียวกันเช่น Samsung Galaxy S10+, iPhone XS Max ได้ใน Sanook! Hitech ครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องไม่หนัก
- สีสันมีให้เลือกหลากหลาย
- สเปคถือว่าครบและดี
- การทำงานของเครื่องมีให้ทุกอย่าง
- กล้องดีและครบทุกโจทย์การใช้งาน
- แบตฯอึดมาก
- ได้ความจำเยอะแต่ราคาจ่ายน้อยกว่า
ข้อสังเกต
- IP68 ไม่ได้ออกแบบให้กันน้ำทุกกรณี ควรระวังสำหรับมือถือที่มีมาตรฐานนี้
- ลำโพงให้มาตัวเดียวเสียงไม่กังวาน
- ความละเอียดหน้าจอน้อยกว่าเพื่อนในกลุ่ม
- การ์ดความจำเสริม ไม่สามารถใช้กับใครได้เลย
อัลบั้มภาพ 35 ภาพ