เคาะราคา Xiaomi Redmi 7 เริ่มต้นเพียง 2,199 บาท

AIS ผนึก Xiaomi ตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้ง ส่ง เรดหมี่ 7 สมาร์ทโฟนประสิทธิภาพเยี่ยม ในราคาที่จับต้องได้ พร้อมอัดโปรฯ สุดคุ้ม Exclusive สำหรับลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น เริ่มต้นเพียง 2,199 บาท และชมคอนเทนท์ความบันเทิงระดับโลก ฟรี!

เอไอเอส ผู้นำนวัตกรรมเครือข่ายและบริการดิจิทัลอันดับ 1 ของประเทศ ผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำ เสียวหมี่ ผู้นำด้านเทคโนโลยีสมาร์ทดีไวซ์ในภูมิภาคเอเชียที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกต่อเนื่อง เดินหน้าตอกย้ำความเป็น Strategic Partner ในการทำงานเชิงลึกร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

โดยเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ เรดหมี่ ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 632 Mobile Platform มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Dot Drop ขนาด 6.26 นิ้ว ใหญ่เต็มตา กล้องหลังคู่ AI ความละเอียด 12+2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรีขนาดใหญ่ความจุ 4000mAh

โดยเรดหมี่ 7 จะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 3 พฤษภาคม 2562  เป็นต้นไป เริ่มต้นเพียง 2,199 บาท (ปกติ 4,299.-) มีจำหน่ายที่ เอไอเอสเท่านั้น และใช้ได้เฉพาะเครือข่ายเอไอเอสเท่านั้น

นายพงษกรณ์ คอวนิช หัวหน้าแผนกงานการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส ในฐานะผู้นำเครือข่ายและบริการดิจิทัล เราให้ความสำคัญกับการส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเราร่วมมือกับเสียวหมี่ในการออกโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ Redmi 7 เพื่อให้คนไทยได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนสเปกดีในราคาสุดคุ้มค่า เมื่อรวมกับศักยภาพเครือข่ายของเอไอเอสที่เร็ว แรง และครอบคลุมทั่วประเทศ เราเชื่อมั่นว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน”

นายโรชัน หลัว ผู้จัดการประจำประเทศไทย เสียวหมี่ เทคโนโลยี กล่าวว่า “ปณิธานของเราคือการสรรสร้างนวัตกรรมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเรดหมี่ 7 คือเครื่องยืนยันในความมุ่งมั่นของเราต่อปณิธานนั้น โดยผู้ใช้งานชาวไทยสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมและอยู่ในราคาที่ไม่สูงเกินไป”

ราบรื่นตลอดการใช้งานด้วย Qualcomm® Snapdragon™ 632

Xiaomi Redmi 7 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 632 Mobile Platform ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm® Kryo™ 250 Octa-core CPU  ซึ่งเป็นชิปเซ็ตแบบ 8 แกน โดยมีแกนประสิทธิภาพ (Performance Cores) จำนวน 4 แกน และ แกนประหยัดพลังงาน (Power-Saving Cores) จำนวน 4 แกน ที่เสริมการทำงานของเครื่องให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคาเดียวกันที่มักจะใช้แกนประหยัดพลังงานทั้ง 8 แกน ทำให้เรดหมี่ 7 มีความสามารถในการเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น และยังเพิ่มประสบการณ์การใช้งานประจำวันได้ดีเยี่ยม

หน้าจอแสดงผลแบบ Dot Drop และ กล้องหลังคู่ AI

Xiaomi Redmi 7 มีหน้าจอแสดงผล Dot Drop ขนาด 6.26” ความละเอียดระดับ HD+ พร้อมดีไซน์แบบใช้กระจกหน้าจอที่ขอบโค้งมนและไล่สีทั้ง 4 ด้าน ซึ่งลดขนาดของขอบจอลง โดยมีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Comet Blue, Lunar Red  และ Eclipse Black หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ อัตราส่วน 19:9 เพิ่มประสบการณ์ในการเล่นเกมส์ และชมวิดีโอได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้น และยังผ่านการรับรองของ TÜV Rheinland

โดยในโหมดสำหรับอ่านหนังสือ ยังมีฟังก์ชั่นป้องกันแสงสีฟ้าส่องกระทบดวงตา ทำให้สามารถช่วยลดภาวะตาเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เรดหมี่ 7 ใช้กระจก Corning® Gorilla® Glass 5 ครอบด้านหน้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเครื่อง

ในกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซลของ เรดหมี่ 7 มีเซ็นเซอร์พิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน ส่งผลให้สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้สูงมากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน และยังมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ออกแบบให้การถ่ายรูปเซลฟี่สะดวกมากขึ้นโดยการใช้โหมด Hand Gesture โดยทำสัญญาณมือกล้องหน้าก็จะเริ่มนับถอยหลังเตรียมถ่ายรูปได้

ยืดเวลาการเปิดรอรับสายให้ยาวนาน และเพิ่มคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยการพัฒนาแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 4000mAh และการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ ทำให้เวลาการเปิดรอรับสายของ เรดหมี่ 7 ยาวนานมากยิ่งขึ้นถึง 400 ชั่วโมง

นอกจากนี้ เรดหมี่ 7 ยังเพิ่มคุณภาพเสียงให้ดี และมอบเสียงที่ดังขึ้นผ่านลำโพงเสียงที่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเสียงจะคมชัดทั้งในระหว่างการชมภาพเคลื่อนไหวและสายสนทนา เรดหมี่ 7 มาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง เพื่อให้การปลดล็อคตัวเครื่องเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย และสามารถตั้งค่าเพื่อควบคุมการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านด้วยเซ็นเซอร์อินฟราเรด

 ซึ่งเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ภายในบ้านได้มากกว่า 4,000 รายการ โดย เรดหมี่ 7 ยังมีสล็อตเพิ่มพื้นที่การเก็บข้อมูลด้วยการ์ด MicroSD ได้สูงสุดถึง 512 GB

สัมผัสประสบการณ์ดิจิทัลที่เร็ว แรง ระดับกิกะบิต บนเครือข่าย AIS NEXT G

Xiaomi Redmi 7 ความจุ 2GB +16GB จะเริ่มวางขายในประเทศไทยวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 มีจำหน่ายที่ AIS Shop, Telewiz ร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษที่เลือกได้ เริ่มต้นเพียง 2,199 บาท (ปกติ 4,299.-) พร้อมรับสิทธิ์ชมคอนเทนต์ความบันเทิงระดับโลก ฟรี! ตลอด 6 เดือนเต็ม เมื่อสมัครแพ็กเกจและชำระค่าบริการล่วงหน้าตามที่กำหนด ระหว่าง 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ถึง วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 สำหรับลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่ายเบอร์เดิม และเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน