รีวิว "Samsung Galaxy A70” มือถือจอใหญ่ยักษ์ สเปกดีเพื่อคอเกม ที่อยู่ในงบที่จับต้องได้
กลับมาพบกับรีวิว Smart phone และ Gadget จากทีม Sanook! Hitech กันอีกครั้ง สำหรับในครั้งนี้พากลับมาพบกับมือถือ Samsung Galaxy A70 ที่มีอัปเกรดสเปกของมือถือรุ่นกลาง เรามาดูกันว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มันดีขึ้นจริงหรือไม่
แกะกล่อง Samsung Galaxy A70
ภายในกล่องของ Samsung Galaxy A70 จะมีอะไรภายในกล้องบ้าง เราเริ่มต้นจาก
- ตัวเครื่อง Samsung Galaxy A70
- เคสแบบซิลิโคน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือ
- ที่ชาร์จไฟ แบบ Fast Charge
- สาย USB-C
- หูฟัง
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Samsung Galaxy A70
เริ่มต้นกับหน้าจอของ Samsung Galaxy A70 มีขนาด 6.7 นิ้วมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Infinity U Display เว้นตรงกลางไว้ มาพร้อมกับ Panel แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2400x1080 มาพร้อมอัตราส่วน 19.5:9 รองรับ รองรับมัลติทัช 10 จุดเลยทีเดียว
ส่วนบนของหน้าจอ มีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลอยู่ส่วนบน เป็นแบบตัว U และมีการบอกข้อมูลครบถ้วนและมี Notifcation ครบ แต่ว่า ใครอยากให้ปิด Notch ขอบอกว่า Samsung One UI ปิดไม่ได้นะครับ และกลางเครื่องจะมีเซนเซอร์ และลำโพงสนทนา
ส่วนล่างของหน้าจอจะสามารถสั่งงานได้ โดยพื้นฐานจะมีทั้ง Recent, Home และ Back จัดเป็นระเบียบและสามารถเปลี่ยนได้โดยเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > Display (จอภาพ) > Navigation Bar (แถมการนำทาง) จะสามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ
- แบบปุ่มอย่างที่เห็นในหน้าจอ
- แบบปัด หรือ Full Screen Gesuture ที่ปัดปุ่ม Home ค้างจะสามารถเรียก Google Assistant ได้
รอบตัวของเครื่อง Samsung Galaxy A70 เป็นแบบ 3D Glasstic ที่ออกแบบได้กลมกลืนทั้งด้านหน้าและหลัง ซึ่งสีตรงกลางจะเป็นแบบเงา มาพร้อมกับฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิมแบบ NanoSIM 2 ช่อง และ MicroSD อีก 1 ช่อง
ฝั่งขวาจะเป็นศูนย์รวมปุ่มควบคุมมาทั้งปุ่มเปิดปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียงของเครื่อง
ส่วนบนของเครื่องมาพร้อมกับความเรียบและสวยงาม มาพร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ส่วนล่างจะออกแบบได้คล้ายกับส่วนบน แต่มีช่องเสียบหูฟัง, USB-C, ไมโครโฟนของเครื่อง และลำโพงตัวเครื่อง แต่สังเกตว่า A70 จะกว้างกว่า A50 เล็กน้อย
พลิกมาด้านหลังของ Samsung Galaxy A70 จะมาพร้อมกับด้านหลังออกแบบเป็นแบบ 3D Glasstic ที่ทำให้เครื่องมีสีสันที่เปลี่ยนไปตามสภาพแสงที่โดน และสะท้อนเป็นสีรุ้ง มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมกับ LED Flash และมีโลโก้ Samsung ให้แต่ไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือเพราะว่าถูกฝั่งกับหน้าจอไปแล้ว
ฟิลลิ่งการถือ / น้ำหนัก / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย
เมื่อตัวเครื่อง Samsung Galaxy A70 พบว่ามีส่วนประกอบเหมือนกับ Samsung Galaxy A30 และ A50 แต่สำหรับความแตกต่างคือเมื่อเครื่องดูกว้างและใหญ่โตและน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อยแต่ก็ยังจับได้ถนัดมืออยู่ครับ
และสีสันของ Samsung Galaxy A70 มีให้เลือก 3 สีได้แก่ สีดำ, สีฟ้า และสีขาว ที่จัดว่าสวยมาก น่าเสียดายที่มีสีส้ม Coral มาจำหน่าย
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์และประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy A70
หลังจากที่ดูรูปร่างกันไปแล้ว เรามาดูกันว่า กับสเปกและฟีเจอร์ของ Samsung Galaxy A70 จะเป็นอย่างไรและน่าใช้มากน้อยแค่ไหน
รายละเอียดของ Samsung Galaxy A70
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 164.3 x 76.7 x 7.9 มม.
- น้ำหนัก: - กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ
- หน้าจอ: Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว Infinty U Display ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 675 Octa-core (2x2.0 GHz & 6x1.7 GHz) + Adreno 610
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie + One UI
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ Optical Ultra Sonic ในหน้าจอ
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 3 ตัว : 32 ล้านพิกเซล (f1.7 Main) + 8 ล้านพิกเซล (f2.2, Ultra-Wide 123 องศา) + 5 ล้านพิกเซล (Depth Sensor)
- กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล (f2.0)
- แบตเตอรี : 4500 mAh Fast Charge (25W)
- แรม/ความจุ : RAM 8GB / ความจำ 128GB เพิ่มความจำได้แบบ Micro SD 512GB
- สี : ดำ, ขาว, น้ำเงิน
การทดสอบประสิทธิภาพ / การทดสอบเล่นเกม
สำหรับคะแนนทดสอบประสิทธิภาพผ่าน Antutu ทำได้อยู่ที่ 161,854 คะแนน
การทดสอบผ่านโปรแกรมอีกตัวคือ Geekbench 4 ทำได้อยู่ที่แบบ Single Core 2052 คะแนน และ Multi Core 6443 คะแนน
ถ้านับในกลุ่มมือถือไม่ถึง 17,000 บาท แทบบอกได้เลยว่า Samsung Galaxy A70 ทำคะแนนประสิทธิได้ดีพอสมควรเลย ดังนั้นเมื่อเล่นเกมไม่ว่าจะเป็น Real Racing 3, ROV, และเกมแนวยิงต่างๆ ให้ภาพที่ราบรื่นและตอบสนองได้ดีเหมือนเคย
การทดลองการเชื่อมต่อ
ในรายละเอียดข้างบนมีการเผยว่าเครื่องเชื่อมต่อ WiFi มาตรฐาน 802.11 AC และ Bluetooth 5.0 ครบถ้วนและการใช้ GPS นำทางอย่างที่เห็น Samsung Galaxy A70 ให้ผลการตอบสนองที่ดีมากเลยทีเดียว
และแม้ว่า Samsung Galaxy A70 จะไม่มี NFC แต่ว่าระบบของ One UI ของ Samsung เพิ่มฟีเจอร์ช่วยในการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงผ่าน ฟีเจอร์ Sent To Device ที่กดเข้าไปแล้ว จะมีรายการส่งเข้าอุปกรณ์โดยตรง ได้ทันที เบื้องต้นที่ได้ลองสามารถส่งกับ Samsung ได้อย่างรวดเร็ว แต่ยี่ห้ออื่นยังคงต้องใช้โปรแกรมภายนอกกันต่อไป
การแสดงผลและระบบเสียงเครื่อง
สำหรับหน้าจอของ Samsung Galaxy A70 ยังคงเลือก Super AMOLED แบบ Infinity U Display ที่คมชัดและความละเอียด 2400x1080 พิกเซล ถือว่ามากกว่ารุ่นที่เล็กกว่าและถ้ายังสีไม่สดพอ ยังมีโหมดปรับการแสดงได้ทั้งแบบ Dynamic และอื่นๆ อีกมากมายแต่ยังคงแนะนำ Dynamic จะดีที่สุด
ส่วนระบบเสียงของ Samsung Galaxy A70 ยังคงให้เสียงที่ดังดีใช้ได้แต่ว่าลำโพงภายนอกที่มีอยู่ด้านล่างตัวเดียวแล้ว ยังมาพร้อมกับระบบ Dolby ATMOS และมี FM Radio มาให้
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของ Samsung Galaxy A70 ยังคงเหมือนกับ Galaxy A ในปีนี้ทั่วไป เริ่มจากระบบปฏิบัติการ Android Pie หรือ Android 9 มาพร้อมกับ One UI ที่ใข้งานง่ายปรับหน้าตาได้สวยงามกำลังดี มาพร้อมกับลูกเล่นที่มีหน้าจอใหญ่สวยงามกำลังดีเลยทีเดียว และเมนูต่างๆ ถือว่าใช้ง่าย
เครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ เหมือนกับ พื้นฐานของ Samsung ที่สามารถเปลี่ยน Theme, ใช้เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, และสามารถโหลดเพิ่มได้ทั้ง Galaxy Store และ Google Play Store
ส่วนระบบความปลอดภัย มี 2 ระบบทั้งการสแกนใบหน้า ที่ใช้กล้องและสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติที่หน้าจอและสามารถใช้ปลดล็อคอย่างฟีเจอร์ Secure Folder ได้
อีกระบบหนึ่งคือการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอแบบ Optical ที่ต้องใช้การกดสแกนลายนิ้วมือที่ต้องทำให้แม่นยำกว่าเดิมถึงจะทำได้ดีกว่าที่คิดครับ แต่ต้องกดให้ครบทุกจุดไม่งั้นอาจจะทำให้สแกนลายนิ้วมือขาดความแม่นยำได้ และสามารถปลดล็อคทั้งเครื่องหรือสั่งป้องกันการเข้า Apps ได้ ซึ่งในรุ่นนี้จะมีการอัปเดตจากรุ่นนี้คือความเร็วขึ้นเล็กน้อย
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy A70 จะมีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวมาพร้อมกับ
- 32 ล้านพิกเซล (f1.7 Main)
- 8 ล้านพิกเซล (f2.2, Ultra-Wide 123 องศา)
- 5 ล้านพิกเซล (Depth Sensor)
ถือว่าเป็นความแตกต่างจาก Samsung Galaxy A รุ่นก่อนหน้านี้ เพิ่มความละเอียดอย่างเห็นได้ชัด แล้วการทำงานของกล้องจะเป็นอย่างไร เรามาดูจากการทดสอบฟีเจอร์กล่องกันว่าแตกต่างแค่ไหน
ลูกเล่นฟีเจอร์ของกล้อง
หน้าตาของ Interface ของ Samsung Galaxy A70 เหมือนกับ Samsung One UI ยุคใหม่ มีการจัดวางเมนูที่ง่าย และมาพร้อมกับฟีเจอร์ครบทั้ง Live Focus, และรูปแบบอื่นๆ มากมาย จัดการถ่ายภาพในรูปแบบ Scene Optimizer ปรับเปลี่ยนรูปแบบการถ่ายภาพ และ อีกจุดคือ Flow Detection ที่จะรายงานว่าภาพถ่ายของเรานั้น ลงตัวหรือไม่ เช่นคนหลับตา หรือ ภาพเบลอหรือเปล่า
ลองถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ
การถ่ายภาพกลางวัน
Samsung Galaxy A70 กับการถ่ายภาพกลางวันถือว่าทำได้ดีและมีระบบ Live Foucs ทำให้สามารถละลายหลังได้อย่างง่ายดาย และด้วยรูรับแสงกว้างทำให้ภาพสวยและมี HDR Auto ปรับอัตโนมัติ
การถ่ายภาพกลางคืน
ถ้าใช้เลนส์ปกติจะให้ภาพที่สวยงามและถ้าเป็นเลนส์ Ultra Wide ถือว่าถ่ายออกมาได้ดูดีเหมือนกันแต่ถ้าสังเกตว่าจะมี Noise ในบางจุดเท่านั้น และรุ่นนี้ไม่มี OIS (มีแต่ EIS) อาจจะทำให้ต้องตั้งกล้องดีๆ ถึงจะถ่ายภาพกลางคืนได้ไม่สั่น
การถ่ายภาพในรูปแบบอื่นๆ
ส่วนการถ่ายภาพในรูปแบบอื่นๆ นอกจากเรื่องของ Panorama การถ่ายแบบกว้างสุดยังมีโหมด Pro ปรับชดเชยแสงได้ และการทำงานด้วย Scene Optimizer ยังคงให้การปรับแต่ง Contrast ของภาพได้ดีขึ้น และมีโหมด Pro และ Panorama ให้เลือกใช้ คุณภาพที่ได้ดูเหมือนและใกล้เคียงกับเรือธงของค่าย
การถ่ายวิดีโอด้วย Samsung Galaxy A70
สำหรับฟีเจอร์ของ Samsung Galaxy A70 ในด้านการถ่ายวิดีโอมีการใส่ระบบ EIS มาช่วยลดภาพสั่นไหว ถ่ายแบบ Hyper Lapse, Slowmotion ได้ แต่ว่าความละเอียดในการถ่ายวิดีโอทำได้ที่ Full HD 30 FPS เท่านั้น
สำหรับในเรื่องกาสรถ่ายวิดีโอของ Samsung Galaxy A70 มีการเปลี่ยนแปลงความละเอียดให้มากขึ้น โดยเพิ่มความละเอียดเป็นแบบ 4K UHD มาแล้วในรุ่นนี้และยังรองรับการถ่ายวิดีโอ Super Slowmotion ในรูปแบบ 960 FPS มาให้และถ่ายวิดีโอแบบรวดเร็วในแบบ Hyper Lapse การทำงานเหมือนกับ Time Lapse เลยครับ
กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล ดีแค่ไหน
การเพิ่มความละเอียดกล้องหน้าของ Samsung Galaxy A70 มาเป็น 32 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพออกมานั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จริงและรายละเอียดของภาพยังคงทำได้ดีเหมือนเช่นเคยจนเรียกได้ว่า หมดห่วงแล้วครับ
นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมลูกเล่นของภาพด้วยการทำ AR Emoji ได้
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ / การชาร์จไฟกลับเข้าไป
เนื่องจาก Samsung Galaxy A70 มีการเพิ่มความจุแบตเตอรี่เอาใจคนเล่นเกมแบบจัดหนัก ถึง 4500 mAh ถ้าใช้งานแบบปกติทั่วไป สามารถอยู่ได้ 2 วันแบบสบายๆ แต่ถ้าเล่นเกมและผสมกับการทำอะไรอื่นๆ จะลดลงมาใช้ได้ระดับ 1 วันชิลๆ เกือบ 2 วัน ถ้าจะทำให้หมดเร็วคือ คุณต้องเล่นเกมติดกัน 12 ชั่วโมงจากการประมาณ และการทดสอบแบตเตอรี่ อยู่ได้ราวๆ 12 ชั่วโมง จำลองเหมือนกับการเล่นเกมติดต่อกัน
ส่วนระบบชาร์จไฟข้าวของ Galaxy A70 เพิ่มกำลังไฟของที่ชาร์จรองรับได้ถึง 25W ถ้ามองถึงกำลังไฟขนาดนี้ยังทำได้มากกว่า Galaxy S10 เรือธงอีกครับ แต่ต้องอย่าลืมว่า ด้วยแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า Galaxy S10+ ดันนั้นมือถือรุ่นนี้ใช้เวลาชาร์จให้เต็มพอๆ กับ S10+ ครับ ยกเว้นตอนเริ่มต้น Galaxy A70 จะเร็วกว่า
สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ลองใช้ Samsung Galaxy A70 สักระยะเวลาหนึ่ง
ต้องยอมรับว่า การอัปเกรดสเปกของ Galaxy A70 ที่ดีกว่า A50 ในหลายจุดก็ทำให้ไม่ว่าคุณแม่บ้านอยากได้มือถือจอใหญ่ไว้ดูหนังเพลินๆ ไปจนถึงคนเล่นเกมที่ต้องการเครื่องที่มีความลื่นไหลสูงสุดในการเล่นเกม ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง อาจจะมีบางจุดที่ดูไม่ได้แตกต่างกันมาเช่นกล้องที่เพิ่มความละเอียดแต่ฟีเจอร์ยังคงเท่าเดิม แต่ภาพรวมแล้ว Galaxy A70 ยังออกแบบเพื่อคนชอบของใหญ่มากที่สุด
ส่วนราคาของ Samsung Galaxy A70 นั้นเปิดตัวอยู่ที่ 15,990 บาท อันนี้ไม่รวมโปรโมชั่นกับผู้ให้บริการ แต่สำหรับคนที่อยากซื้อรุ่นนี้จริงๆ ก่อนหน้าที่บทความนี้ขึ้นก็มีโปรโมชั่นพิเศษมากมาย แต่หลังจากนี้ต้องสอบถามกับตัวแทนจำหน่ายกันต่อไป
สุดท้าย Samsung Galaxy A70 เป็นอีกที่ผู้ที่ต้องการอัปเกรดมือถือเครื่องเก่าที่จอเล็กเล่นเกมส์ไม่มันส์ สู่ความครบเครื่องในราคาไม่หนักจนเกินไปนั่นเอง แถมได้ใช้ขุมพลัง Snapdragon รุ่นใหม่ที่ว้าวไม่เบาเลยครับ
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่แต่ตัวเครื่องจับได้ถนัดมือ
- หน้าจอแสดงผลสวย
- ได้ขุมพลังใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm
- การทำงานของกล้องเร็วขึ้น
- แบตเตอรี่อึดมาก
- ระบบชาร์จไฟเร็วมากกว่าที่คิด
- ราคาถือว่าคุ้มค่า
ข้อสังเกต
- ลูกเล่นแทบไม่แตกต่างจาก Galaxy A50 เลย
- ยังไม่กันน้ำ
- ไม่มี NFC, และ Samsung Pay
อัลบั้มภาพ 48 ภาพ