ไมโครซอฟท์ ประกาศเปิดตัวบริการ Microsoft Azure

ไมโครซอฟท์ ประกาศเปิดตัวบริการ Microsoft Azure

ไมโครซอฟท์ ประกาศเปิดตัวบริการ Microsoft Azure
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บริษัท ไมโครซอฟท์ ประกาศเปิดตัวบริการ Microsoft Azure อัพเดทใหม่หลายรายการ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมอบขีดความสามารถขั้นสูงตั้งแต่ AI, Mixed Reality (MR), IoT ไปจนถึงบล็อกเชนให้แก่เหล่านักพัฒนา ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะนำเสนอความก้าวหน้าเหล่านี้และอีกมากมายในด้านไฮบริดคลาวด์และเอดจ์คอมพิวติ้ง ที่งานประชุม Microsoft Build เพื่อเสริมพลังการสรรสร้างให้แก่เหล่านักพัฒนา

สกอตต์ กูธีร์ รองประธานบริหาร Microsoft Cloud + AI Group กล่าวว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าเหลือเชื่อสำหรับการเป็นนักพัฒนา เพราะตอนนี้ทักษะความสามารถและบทบาทของนักพัฒนากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การรวมเทคโนโลยี AI และ MR เข้าไว้ในแอป ไปจนถึงการนำเอาบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาธุรกิจการค้า วันนี้เราขอแนะนำบริการ Azure สุดล้ำสมัยเพื่อให้เหล่านักพัฒนาได้นำไปใช้ในการสร้างสรรค์แอปใหม่ ๆ สำหรับอนาคต ลูกค้า 95% ในทำเนียบ Fortune 500 ต่างใช้ Azure ดังนั้นนวัตกรรมใหม่เหล่านี้จึงสามารถขยายผลได้อย่างกว้างขวาง”

ส่งเสริมความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ในการสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม  AI ทรงประสิทธิภาพ

ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยี Azure AI ชุดใหม่ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยนักพัฒนาและนักวิทยาการข้อมูลในการนำ AI ไปประยุกต์ใช้งานกับโซลูชั่นต่าง ๆ

  • Azure Cognitive Services ทำให้แอปพลิเคชั่นมีความสามารถในการมองเห็น ได้ยิน ตอบสนอง ทำความเข้าใจ หาคำตอบ และอีกมากมาย ไมโครซอฟท์เปิดตัวบริการใหม่ในหมวด Cognitive Services ที่มีชื่อว่า“Decision” เพื่อมอบคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริการในหมวดนี้ประกอบด้วย เครื่องมือคัดกรองเนื้อหา Content Moderator, เครื่องมือตรวจจับความผิดปกติ Anomaly Detector ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ และบริการใหม่ที่เรียกว่า Personalizer ซึ่งใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง  (reinforcement learning) เพื่อมอบคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
  • ไมโครซอฟท์เตรียมนำ AI มาใช้กับ Azure Search โดยเพิ่มความสามารถในการสืบค้นแบบ cognitive search ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้อัลกอริทึม Cognitive Services เพื่อดึงข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ จากคอนเทนต์ทั้งในแบบที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง นอกจากนี้ยังมีการสาธิตความสามารถใหม่ที่จะเข้ามาช่วยนักพัฒนาในการเก็บข้อมูลเชิงลึกที่ AI ได้มาจากการค้นหาแบบ cognitive search เพื่อมอบประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยความรู้ โดยใช้ประโยชน์จาก Power BI visualizations หรือโมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่ง

 นวัตกรรมใหม่ ๆ ใน Azure Machine Learning ช่วยให้กระบวนการสร้าง ฝึกอบรม และใช้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่งนั้นง่ายขึ้น:

  • เพิ่มความสามารถด้าน MLOps ด้วย Azure DevOps เพื่อให้นักพัฒนาสามารถผลิตซ้ำ ตรวจสอบบัญชี และทำให้ระบบแมชชีนเลิร์นนิ่งเป็นอัตโนมัติตั้งแต่ต้นจนจบ
  • ยกระดับ ML แบบอัตโนมัติ และ UI ที่ใช้งานง่าย ทำให้พัฒนาโมเดลคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น
  • อินเทอร์เฟซแมชชีนเลิร์นนิ่งแบบภาพ ช่วยให้นักพัฒนาสร้างและใช้โมเดลได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด ด้วยความสามารถในการลากและวาง
  • เพื่อให้ได้ความหน่วงต่ำเป็นพิเศษและการวิเคราะห์ที่คุ้มค่า ไมโครซอฟท์จึงประกาศเปิดให้ใช้งานโมเดลการเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ที่ทำงานบน FPGA รวมถึงรองรับ ONNX Runtime สำหรับ NVIDIA TensorRTและ Intel nGraph เพื่อการวิเคราะห์ความเร็วสูงบนชิปเซ็ตของ NVIDIA และ Intel

 

ขยายโอกาสด้วย Intelligent Edge

บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่มากมาย ที่ช่วยตอบสนองต่อความต้องการที่มีอยู่เดิมและที่เกิดขึ้นใหม่ของไฮบริดคลาวด์และเอดจ์คอมพิวติ้ง:

  • ไมโครซอฟท์ขอแนะนำ Azure SQL Database Edge เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายในด้านเอดจ์คอมพิวติ้ง ผลิตภัณฑ์นี้เป็น SQL engine ที่ได้รับการปรับปรุงให้ตอบสนองความสามารถในการประมวลผลที่น้อยกว่าด้วย AI ที่ติดตั้งมาในตัว รวมการสตรีมมิ่งข้อมูลเข้ากับสามารถของแมชชีนเลิร์นนิ่งและกราฟในฐานข้อมูล เพื่อเปิดใช้งานระบบอัจฉริยะบนเอดจ์ เนื่องจาก Azure SQL Database Edge ใช้ programming surface area เดียวกันกับ Azure SQL Database และ SQL Server นักพัฒนาจึงสามารถนำแอปพลิเคชั่นเข้าสู่เอดจ์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเรียนรู้เครื่องมือและภาษาใหม่ ทำให้การเขียนโปรแกรมมีความสอดคล้องต่อเนื่อง
  • ไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศเปิดตัว IoT Plug and Play ซึ่งเป็นภาษาใหม่สำหรับการสร้างโมเดลแบบเปิด เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT เข้ากับคลาวด์ได้อย่างราบรื่น ช่วยให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขปัญหาที่ท้าทายที่สุดข้อหนึ่ง นั่นคือการใช้โซลูชั่น IoT ในวงกว้าง ก่อนหน้านี้ นักพัฒนาต้องเขียนซอฟต์แวร์เฉพาะแต่ละอุปกรณ์ ทำให้จำกัดการใช้งาน IoT แต่ IoT Plug and Play จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองจากพันธมิตร และสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
  • ไมโครซอฟท์ช่วยให้การสร้างประสบการณ์ mixed reality สำหรับ HoloLens 2 ทำได้ง่ายขึ้นด้วย HoloLens 2 Development Edition โดยทำให้ชุมชนนักพัฒนา mixed reality สามารถเข้าถึงโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์การสร้างและนำเสนอประสบการณ์ mixed reality ในหลากหลายอุปกรณ์
  • Unreal Engine 4 สนับสนุนการรวมเนทีฟแพลตฟอร์มและการสตรีมมิ่งสำหรับ HoloLens 2 ซึ่งจะเปิดให้บริการแก่นักพัฒนาภายในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อการสร้างสรรค์ photo-realistic renders คุณภาพสูง ตลอดจนสร้างสรรค์ประสบการณ์ mixed-reality แบบอิมเมอร์ซีฟ สำหรับโซลูชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต และอีกมากมาย

 

มุ่งมั่นลงทุนต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพนักพัฒนาบล็อกเชน

ปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเปิดตัว Azure Blockchain Workbench เพื่อให้นักพัฒนามี UI ที่เรียบง่ายในการสร้างต้นแบบแอปพลิเคชั่นบล็อกเชนบนเครือข่ายที่รองรับ Azure และมีการตั้งค่าไว้ล่วงหน้า และวันนี้ ไมโครซอฟท์ได้ประกาศต่อยอดบริการไปอีกขั้น

  • Azure Blockchain Service ทำให้การสร้าง จัดการ และกำกับดูแลเครือข่ายบล็อกเชนเป็นไปได้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ มุ่งความสนใจไปที่การพัฒนาแอปและ workflow logic ได้อย่างเต็มที่ Azure Blockchain Service ใช้เครือข่าย consortium network ที่มีการจัดการเต็มรูปแบบ และนำเสนอ built-in governance สำหรับการดูแลจัดการภารกิจอย่างเช่น การเพิ่มสมาชิกใหม่ การตั้งค่าอนุญาต และการรับรองแอปพลิเคชั่นของผู้ใช้
  • นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศในสัปดาห์นี้ว่า Quorum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Ethereum ของ เจ.พี.มอร์แกน ถือเป็นบัญชีธุรกรรม (ledger) บัญชีแรกใน Azure Blockchain Service เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าของไมโครซอฟท์และ เจ.พี.มอร์แกน สามารถเข้าใช้งานและจัดการเครือข่ายบล็อกเชนในระบบคลาวด์ได้อย่างยืดหยุ่น

นักพัฒนาและผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์มากกว่า 6,000 ราย จะเข้าร่วมงาน Microsoft Build ที่ซีแอตเทิลในสัปดาห์หน้า เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในด้านคลาวด์ ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับนักพัฒนา ทั้งยังจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมเหล่านี้โดยตรง บริการและเทคโนโลยีที่เปิดตัวล่าสุดนี้ จะทำให้นักพัฒนามีเครื่องมือที่ก้าวล้ำเพื่อใช้ในการสร้างสรรค์แอปพลิเคชั่นสำหรับ intelligent cloud และ intelligent edge โดยนอกจากบริการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กล่าวมาแล้ว ไมโครซอฟท์จะนำนวัตกรรมอีกมากมายไปจัดแสดงที่งาน Microsoft Build ในสัปดาห์หน้า

ไมโครซอฟท์ (Nasdaq “MSFT” @microsoft) เป็นผู้ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ในโลกแห่งอัจฉริยะภาพของเทคโนโลยีคลาวด์ที่ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงถึงกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นกำลังสำคัญให้ทุกคนและทุกองค์กรทั่วทุกมุมโลกได้บรรลุผลสำเร็จที่ดียิ่งกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook