วิธีสร้างภาพ 3D Photo บน Facebook จาก Android ง่ายนิดเดียว

วิธีสร้างภาพ 3D Photo บน Facebook จาก Android ง่ายนิดเดียว

วิธีสร้างภาพ 3D Photo บน Facebook จาก Android ง่ายนิดเดียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อก่อนการที่จะสร้างภาพ 3 มิติ ใน Facebook นั้นมีอยู่แค่วิธีการเดียวสำหรับภาพที่ถ่ายด้วยโหมดบุคคล (Portrait Mode) ใน iPhone เท่านั้น แต่ภายหลังมา เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา Facebook เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพ 3 มิติ ผ่านเว็บ Facebook ได้แล้ว ซึ่งสำหรับแอปบนสมาร์ทโฟน Android ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีฟีเจอร์ดังกล่าวใส่มาแต่อย่างใด

แต่วันนี้เราจะมาเผยวิธีที่เราจะสร้างภาพ 3 มิติผ่านสมาร์ทโฟน Android กัน ขั้นตอนนั้นอาจจะดูมากกว่าฝั่งของ iOS อยู่นิดนึง แต่ก็ไม่ยากมา ลองทำตามได้เลยง่าย ๆ

ขั้นที่ 1 : เตรียมภาพ 3 มิติ

ก่อนอื่น เราต้องมีภาพสำหรับทำ 3 มิติก่อน โดยภาพนี้ต้องถ่ายมาจากโหมดบุคคล (Portrait Mode) เท่านั้น จากสมาร์ทโฟนรุ่นใดยี่ห้อใดก็ได้ที่มีโหมดดังกล่าว เช่น iPhone, Samsung Galaxy, Google Pixel, Huawei, Honor, LG, Xiaomi, Pocophone, Nokia, Meizu, Vivo หรือ Nubia

ถ่ายบน Xiaomi MI 8 Lite

จากนั้นต้องนำภาพที่ต้องการไปแยก Depth Map ออกมา เพื่อโพสต์ขึ้น Facebook สามารถทำได้บนสมาร์ทโฟน และ บนคอมพิวเตอร์

ขั้นที่ 2 : แยก Depth Map ออกมาจากภาพ

เข้าไปที่เว็บ omnivirt.com/3d-photo/tools/extractor/photo

กด “Choose the File…” เพื่อเลือก “ภาพ 3 มิติ” ที่ถ่ายด้วยโหมดบุคคล (Portrait Mode) จากนั้นกดเพื่อเปิด

ภาพที่อัปโหลดจะถูกแยกออกเป็น 2 ไฟล์ (image.jpg, image_depth.jpg) ดาวน์โหลดมาในไฟล์ ZIP โดยอัตโนมัติ

แตกไฟล์ ZIP ออกมา (วิธีการแล้วแต่รุ่นและแอปของตัวเครื่อง)

ขั้นที่ 3 : อัปโหลดขึ้น Facebook

เข้าไปที่ facebook.com และกดเมนู และกด “ไซต์เวอร์ชันเดสก์ท็อป” เพื่อใช้งาน Facebook เวอร์ชัน Desktop

ถ้ายังไม่เป็น Facebook เวอร์ชัน Desktop ให้ไปที่ URL และลบ m. ออกหน้าคำว่า facebook.com

 

ลบ m. หน้า facebook.com ออก

จากนั้นกดเพื่อโพสต์รูปภาพตามปกติ โดยเลือกภาพ 2 ภาพที่แตกมาจากไฟล์ ZIP พร้อมกัน หรือทีละไฟล์ก็ได้ โดยต้องเป็นภาพที่แตกมาจากไฟล์ ZIP เท่านั้น สามารถใส่แคปชั่น เช็คอิน ได้ตามปกติเลย

เพียงเท่านี้ เราก็จะสามารถโพสต์ภาพ 3 มิติ ได้จากสมาร์ทโฟน Android แล้ว แอดมีตัวอย่างมาให้ดูด้านล่างนี้เลย

จะเห็นได้ว่าการทำแบบนี้นั้น อาจจะมีขั้นตอนยุ่งยากกว่าฝั่งของ iPhone อยู่หน่อย แต่เชื่อว่าขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้ยากเกินความสามารถของพวกเราทุกคนอยู่แล้ว ถ้าคนไหนลองทำแล้ว อย่าลืมมาแปะลิงก์ในคอมเม้นต์ให้แอดดูด้วยน้าาา

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook