[Hands On] ลองสัมผัส Motorola One Vision รุ่นล่าสุด ที่มาเร็ว อัปเดตนาน และกล้องสวยมาก
ในที่สุด Motorola One Vision ได้เปิดตัวในประเทศไทยและพร้อมจำหน่ายอย่างรวดเร็วในวันนี้ (17 พฤษภาคม 2019) และเมื่อมันมาเร็วแบบนี้ จะมีดีอะไรที่ควรต้องลอง สัมผัสแรกครั้งนี้จะพาคุณไปลองจับก่อนรีวิวเร็วๆ นี้ว่าตัวเครื่องมีคุณสมบัติอะไรที่น่าสนใจ
แรกเห็นรูปร่างของ Motorola One Vision
เริ่มต้นที่หน้าจอมีขนาด 6.3 นิ้ว แต่เนื่องจากนำกล้องหน้าไปติดตั้งภายในหน้าจอ ทำให้หน้าจอรุ่นนี้ถูกเรียกว่า Cinematic Display มีอัตราส่วน 21:9 อาจจะดูแปลกตาไปหน่อย และมีความละเอียดระดับ Full HD+
รอบตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาดสติกขึ้นรูปแต่ก็มีสีสันเสมอกัน และมีขอบเครื่องไม่ได้หนาจนเกินไป ฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมการ์ด, ฝั่งขวาปุ่มปรับระดับเสียง, ส่วนบนจะมีช่องเสียบหูฟัง และ ล่างสุดมาพร้อมกับไมโครโฟนสนทนา, ลำโพงตัวเครื่อง และ ช่องเสียบ USB-C
ด้านหลังออกแบบในรูปแบบของ 4D โดยมีการโค้งมนและมอง 4 ทิศ จะได้ความรู้สึกที่ดีพอสมควร มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ พร้อมกับ Flash และระบบสแกนลายนิ้วมือติดตั้งตรงกลาง สีสันมีให้เลือก 2 สีตามตลาดโลกได้แก่ สี น้ำเงิน Sapphire gradient ที่ดูสว่างและสวย และ น้ำตาล Bronze gradient ที่ดูหรูหรามาก
รายละเอียดตัวเครื่อง และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
รายละเอียดของ Motorola One Vision
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 160.1 x 71.2 x 8.7 มม.
- น้ำหนัก: 180 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ
- หน้าจอ LTPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว Cinematic Display ความละเอียด 2520 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 21:9
- ชิปเซ็ต Exynos 9609 Octa Core + Mali G72
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie (เข้าโครงการ Android One อัปเกรดได้ 2 ปี)
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง
- กล้องหลัง 3 ตัว : 48 ล้านพิกเซล (f1.7 Main) + 5 ล้านพิกเซล (Depth Sensor)
- กล้องหน้าคู่: 25 ล้านพิกเซล (f2.0)
- แบตเตอรี : 3,500 mAh Turbo Power 15W
- แรม/ความจุ : RAM 4GB / ความจำ 128GB เพิ่มความจำได้แบบ Micro SD 512GB
- สี : น้ำเงิน Sapphire gradient, น้ำตาล Bronze gradient
สำหรับคุณสมบัติของเครื่องที่เห็นถือว่าน่าสนใจเพราะนี่คือมือถือที่ใช้ CPU จาก Samsung และเป็นระบบปฏิบัติการ Android One คงต้องจับตามองว่า สเปกเครื่องนี้จะดีกว่าต้นฉบับหรือไม่ และแบตเตอรี่จะอยู่ได้ยาวนานแค่ไหนต้องรอดูในรีวิว แต่จากที่สังเกต พบว่าตัวเครื่องใช้พลังงานน้อยและอยู่ได้นานพอสมควร
และระบบชาร์จไฟของเครื่องมาพร้อมกับ Turbo Power กำลังไฟ 15W ก็ช่วยให้เครื่องชาร์จไฟได้เร็วแบบไม่มีปัญหา
ลูกเล่นโดดเด่นคงต้องพูดถึงระบบปฏิบัติการ Android Pie มาพร้อมกับ Pure Google และยังอัปเกรดได้นานถึง 2 ปีเลย เท่ากับ ข้ามไป Android R ได้เลย และยังมีลูกเล่นพิเศษจาก Moto Action มาพร้อมกับ 3 ฟังก์ชั่นเด่น
- เหวี่ยงเครื่องขึ้นลงจะเปิดไฟฉาย
- หมุนเครื่อง 2 จะเท่ากับเปิดกล้อง
- One Key สั่งใช้งานได้แค่เลื่อน โดยเลื่อนซ้ายจะเป็นย้อนกลับ, กดตรงกลาง, เลื่อนไปทางขวาคือ เปิด หน้าเรียก Apps ก่อนหน้า
กล้องของ Motorola One Vision มาพร้อมกับขนาด 48 ล้านพิกเซล F1.7 และ 5 ล้านพิกเซล เป็นแบบ Depth Sensor ไว้ละลายหลัง ลูกเล่นหน้าตาอาจจะยังไม่มีอะไร แต่สำหรับ Motorola รุ่นนี้มีจุดเด่นคือ การถ่ายภาพด้วยโหมด Night Vision ที่ทำให้คุณภาพในการถ่ายภาพกลางคืนสวยมากขึ้น สามารถเห็นจากตัวอย่างภาพด้านบน
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ถือว่าให้ความลงตัวอย่างมากในการถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait Mode ที่ปรับได้เยอะสุดๆ
สรุปหลังสัมผัสสั้นๆ และราคาของ Motorola One Vision
ถึงแม้ว่ามือถือรุ่นนี้จะมีความแปลกในเรื่องของบอดี้ที่ยาวเพราะใช้หน้าจออัตราส่วน 21:9 แต่ก็มีดีในเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่ให้รายละเอียดดีสมควร และได้คุณสมบัติที่เป็น Android One แบบจัดเต็มแบบนี้ถือว่าใครที่อยากได้มือถือที่ใช้งานได้ยาวนาน ทั้งอายุแบตเตอรี่ หรือจะเป็นภาพรวมของการทำงานของเครื่อง นี่ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
ส่วนราคาของ Motorola One Vision เริ่มต้นที่ 9,990 บาท ยังไม่รวมกับโปรโมชั่นผู้ให้บริการอย่าง Truemove H ที่สามารถลดค่าเครื่องได้เหลือ 4,990 บาท ทำให้ดูคุ้มค่าไปกันใหญ่
ส่วนช่องทางจำหน่ายสามารถซื้อได้ทั้ง Shopee, TG Fone, Banana และ True Shop ทั่วประเทศครับ ส่วนรายละเอียดตัวเครื่องที่น่าสนใจ รอติดตามรีวิวเร็วๆ นี้
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ