รีวิว Xiaomi Mi 9 SE รุ่นเล็กสุดของเรือธง Xiaomi แต่ดีในหลายมุมในงบสบายกระเป๋า
กลับมาพบกับรีวิว Smart phone และ Gadget จากทีม Sanook! Hitech กันอีกครั้ง ในรอบนี้กับมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่หลายคนรอคอยกับ Xiaomi Mi 9 SE ซึ่งเป็นรองท็อป แต่ก็ยังคงมีฟีเจอร์ครบเครื่องเมหือนเดิม เรามาดูว่า รุ่นนี้มีดีตรงไหน และราคาของมันเป็นอย่างไร
แกะกล่อง Xiaomi Mi 9 SE
ภายในกล่องของ Xiaomi Mi 9 SE มาพร้อมกับอุปกรณ์ดังนี้
- ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 9
- เคสซิลิโคน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือ
- ที่ชาร์จไฟ
- สาย USB-C
- ตัวแปลงหูฟังจาก USB-C เป็น ช่องเสียบหูฟัง
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Xiaomi Mi 9 SE
เริ่มต้นด้วยหน้าจอภาพรวมของเครื่องกันก่อน กับหน้าจอขนาด 5.93 นิ้ว เลือกใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED ทำให้เกิดความคมชัด และยังรองรับฟีเจอร์ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และมีการแสดงผลที่คมชัด กับการรองรับมัลติทัช 10 จุด ถือว่าลงตัวอย่างมากสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ความละเอียดหน้าจอ ทำได้ที่ 2340x1080 พิกเซล หรือ FHD+ กระจกด้าหน้าเป็น Gorilla Glass 5
ส่วนบนของหน้าจอ เนื่องจากกล้องหน้าถูกซ่อนไว้ด้านบนสุด ทำให้เซนเซอร์ฝั่งรอบส่วนบน และมีสถานะของเครื่องบอกเท่านั้น และมี Notch ทรรงหยดน้ำ ที่ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลไว้กลางเครื่องพอดี
ส่วนล่างของหน้าจอ เป็นส่วนควบคุมหน้าจอ โดยสามารถสั่งทั้ง Recent สลับ Apps, Home กดเข้าหน้าจอ, และ Back สำหรับย้อนกลับ ส่วนไฟแจ้งเตือนอยู่ตำแหน่งนี้เช่นเดียวกัน
รอบตัวเครื่องมาพร้อมการออกแบบด้วยวัสดุที่สวยงามและมีการออกแบบที่ดูดีและลงตัวมากขึ้น ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียงพร้อมกับปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง
ฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิมรองรับทั้ง Nano SIM 2 ช่อง ไม่สามารถเพิ่มความจำได้
ส่วนบนนอกจากสีสันที่สวยงาม ยังมาพร้อมกับไมโครโฟนของตัวเครื่องที่มาพร้อมกับ อินฟราเรด สั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
ส่วนล่างของเครื่องออกแบบได้กำลังดี มาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่อง, ไมโครโฟน และตรงกลางคือ USB-C
พลิกกลับมาด้านหลังของเครื่อง เป็นครั้งแรกที่เลือกวัสดุคุณภาพที่มีกระจกหลังเหมือนกัน แต่ว่าออกแบบเรียบแต่ยังคงถือได้ง่ายอยู่ ได้อย่างดี มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวมาพร้อมกับ LED Flash และโลโก้ Xiaomi ด้านล่างเหมือนเดิม
ฟิลลิ่งการถือ / น้ำหนัก / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย
การออกแบบเครื่องไม่ได้ดูแตกต่างจาก Xiaomi Mi 9 สักเท่าไหร่ บางสิ่งยังคงเหมือนเดิม แต่ไม่ได้ทำให้เครื่องโค้งมนมาก ก็ทำให้เครื่องจับได้ถนัดมืออย่างมาก เลยทีเดียว
สีสันของเครื่องมีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีดำ และ น้ำเงิน
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์และประสิทธิภาพของ Xiaomi Mi 9 SE
รายละเอียดของ Xiaomi Mi 9 SE
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 147.5 x 70.5 x 7.5 มม.
- น้ำหนัก: 155 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : -
- หน้าจอ: Super AMOLED ขนาด 97 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล
- ชิปเซ็ตQualcomm Snapdragon 712 Octa Core 2.3GHz + GPU Adreno 616
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie + MIUI 10.2
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 3 ตัว : 48 ล้านพิกเซล (8 Main) + 13 ล้านพิกเซล (f2.4, Ultra-Wide) + 8 ล้านพิกเซล (f2.4 Telephoto)
- กล้องหน้า: 20 ล้านพิกเซล (0)
- แบตเตอรี :3070 mAh Fast Charge 18W
- แรม/ความจุ : RAM 6GB / ความจำ 128GB
- สี :ดำ, น้ำเงิน Ocean Blue,
การทดสอบประสิทธิภาพ
สำหรับคะแนนทดสอบประสิทธิภาพผ่าน Antutu ทำได้อยู่ที่ 177,707 คะแนน
การทดสอบผ่านโปรแกรมอีกตัวคือ Geekbench 4 ทำได้อยู่ที่แบบ Single Core 1862 คะแนน และ Multi Core 5996 คะแนน
เมื่อเห็นคะแนนกันไปแล้ว คราวนี้มาดูการเล่นเกมกับมือถือรุ่นนี้กันบางแน่นอนว่าจุดเด่นสำคัญของเครื่องรุ่นนี้คือมันเล่นเกมได้ลื่นมากพอสมควรเมื่อเทียบกับเรื่องราวของสเปกเครื่องที่จัดว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว แม้จะลดขุมพลังเหลือเพียง Qualcomm Snapdragon 712 และ GPU Adreno 616 ก็ตาม
การทดลองการเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อของ Xiaomi Mi 9 SE ยังคงมาพร้อมกับ WiFi AC, Bluetooth 5.0 และรองรับ GPS ในการนำทาง เมื่อได้ทดลองก็ถือว่ายังเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองอยู่พอสมควร
การแสดงผลและระบบเสียงเครื่อง
การแสดงผลหน้าจอของ Xiaomi Mi 9 SE เลือกใช้แบบ AMOLED ให้ความละเอียดกำลังดีและแน่นอนว่าจอเหมือนกับรุ่นท็อปดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องการแสดงผลเพราะทำได้ดีเลยครับ
ส่วนระบบเสียงยังคงให้ลำโพงตัวเดียวที่อยู่ด้านล่าง เสียงที่ออกมาถือว่าเรียกได้ว่าสมบูรณ์และมาพร้อมกับ Effect เสียงที่ฟังแล้วเหมาะสมกับหูฟัง 1 More หรือ Xiaomi ได้
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบปฏิบัติการของ Xiaomi Mi 9 SE ยังคงเลือกใช้ Android Pie เวอร์ชั่น 9 ถือว่าล่าสุด และมาพร้อมกับ MIUI 10 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการปรับปรุงหน้าตา UI ให้ใช้งานได้ง่าย มีความยืดหยุ่นในการทำงานและสามารถเปลี่ยน Theme ได้ ส่วนการทำ Spilt Screen หรือ ใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอทำได้แค่ กดปุ่ม Split Screen แล้วเลื่อน Apps หนึ่งไปด้านบน > เลือก Apps แสดงผลข้างล่างก็จะแสดงผลพร้อมกัน 2 หน้าจอ
ฟีเจอร์ของเครื่องยังคงเหมือนกับมือถือจาก Xiaomi นั่นคือมี เครื่องมือทั้ง เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, ระบบดูแลรักษาเครื่อง และอื่นๆ รวมไปถึง Mi Remote ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบใช้มือถือคุมอุปกรณ์ไร้สายได้ และยังมีฟีเจอร์ Dual Apps, การดูแลรักษาสุขภาพของเครื่อง
ส่วนระบบความปลอดภัย มีให้เลือก 2 ระบบ คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอแบบ Optical ซึ่งการทำงานนั้นเร็วมากขึ้น โดย Xiaomi เคลมว่าจะสแกนได้ไวในเวลา 0.3 วินาที
อีกระบบคือการสแกนใบหน้าที่ยังทำงานได้เร็วและทั้งคู่ยังสามารถปลดล็อคเพื่อเข้าสู่ ฟีเจอร์ Second Space ได้
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
กล้องหลังของ Xiaomi Mi 9 SE จัดเต็มมาให้ด้วยจำนวนกล้องมากถึง 3 ตัว
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล 8 รองรับ Auto Focus
- กล้องตัวที่ 2 ขนาด 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับรูรับแสง 2 และยังมาพร้อมกับมุมมอง Ultrawide
- กล้องตัวที่ 3 ขนาด 8 ล้านพิกเซลเป็นเลนส์แบบ Telephoto
ถือว่าเป็นมือถืออีกรุ่นให้เลนส์กล้องครบช่วงและเหมาะกับทุกการใช้งานอย่างมากเลยทีเดียว และไม่ได้ตัดอะไรออกมาเมื่อเทียบกับรุ่นรองของยี่ห้ออื่น แต่มันจะทำได้ดีแค่ไหน เรามาดูส่วนต่อไปกันเลยดีกว่า
ลูกเล่นฟีเจอร์ของกล้อง
สำหรับลูกเล่นของ Xiaomi Mi 9 ในเรื่องของกล้องแทบจะยกมาจาก Xiaomi Mi 9 มาทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการทำงานต่างๆ ไม่ได้แตกต่างกันมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ AI Scene ซึ่งแบ่งได้ทั้งหมด หลากหลายรูปแบบทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และมี Effect ให้เลือกมากมาย
ลองถ่ายภาพด้วยกล้อง Xiaomi Mi 9 SE
สำหรับภาพกลางวันข่าวดีคือกล้องของ Xiaomi Mi 9 SE มีเลนส์ครบช่วงทำให้การถ่ายภาพออกมาทำได้ดีเลยทีเดียวครับ
ภาพกลางคืนที่เรียกได้ว่ารูรับแสงกล้องปกติค่อนข้างรับแสงได้เยอะเลยทีเดียวครับ แม้ว่าจะถ่าย Concert ออกมาดูสวยงาม
ส่วนในรูปแบบการถ่ายภาพอื่นๆ มาพร้อม โหมดละลายหลัง และยังมี AI Scene ที่ปรับได้อย่างมากมายเลยครับ
การถ่ายวิดีโอด้วย Xiaomi Mi 9 SE
การถ่ายวิดีโอด้วย Xiaomi Mi 9 SE มาพร้อมกับความละเอียดสูงสุด 4K 30 FPS และรองรับการถ่ายวิดีโอ Slowmotion ได้แบบละเอียดพอสมควร
กล้องหน้าขนาด 20 ล้านพิกเซล ดีแค่ไหน
กล้องหน้าของ Xiaomi Mi 9 SE ยังคงเหมือนกับ Mi 9 รุ่นปกติ ทำให้การทำงานของกล้องถือว่าเป็นอีกรุ่นที่เรียกได้ว่า คุ้มค่าและน่าใช้งานไม่เบาเลยครับ
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ / การชาร์จไฟกลับเข้าไป
แบตเตอรี่ของ Xiaomi Mi 9 SE ให้ความจุที่ 3070 mAh แม้จะไม่ได้เยอะ เมื่อทดลองใช้งานโดยไม่เล่นเกมสามารถอยู่ได้ทั้งวันแต่ถ้าเล่นเกมอาจจะใช้ได้แค่ 8 ชั่วโมง แต่ยังมีดีตรงที่ระบบชาร์จไฟของเครื่องรองรับ Quick Charge มาให้ด้วย
สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ลองใช้ Xiaomi Mi 9 SE สักระยะเวลาหนึ่ง
จากที่ได้ลองไป Xiaomi Mi 9 SE จัดว่าเป็นรองท็อปอีกตัวหนึ่งที่มีความน่าใช้ไม่น้อยเพราะลูกเล่นไม่ได้ตัดออกจากตัวใหญ่มากนัก แต่ก็ยังได้บางจุดที่ผมมองว่าเข้าท่าเช่นจอไม่โค้ง กล้องหลังครบทุกระยะและการทำงานในภาพรวมถือว่าดีเลยครับ
ในราคาของ Xiaomi Mi 9 SE จะอยู่ที่ 11,999 บาท ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ สุดท้ายนี่ก็เป็นอีกมือถือที่น่าใช้และน่าคบหาในราคาไม่แพง แต่ได้ทุกอย่างท็อปและใช้ได้ในราคากันเอง และตอนนี้วางจำหน่ายทางออนไลน์เท่านั้นใครอยากได้ลองไปหาซื้อกันดูนะครับ
จุดเด่น
- รูปทรงที่สวยงามและน้ำหนักเบา
- ขุมพลังใหม่และถือว่าแรงดี
- กล้องหลังครบช่วง
- สีสันของเครื่องสวยงาม
- ชาร์จไฟเร็วเครื่อง
ข้อสังเกต
- ไม่กันน้ำ
- ไม่มีช่องเสียบหูฟัง
- แบตเตอรี่ของเครื่องน้อยไปหน่อย
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ