รีวิว Nokia 3.2 มือถือราคาประหยัด ไซล์กำลังดี กับระบบ Android One
กลับมาพบกกับรีวิวจาก Sanook! Hitech กันอีกครั้งหนึ่ง ในความเดิมตอนที่แล้วกับรีวิวของ Nokia 4.2 ที่ผมพูดไปก่อนว่า มี HMD Global มีการเปิดตัวมือถือ 2 รุ่นในไทย และเครื่องที่ 2 กับ Nokia 3.2 ที่มีราคาประหยัดจอใหญ่เต็มตา มาดูกันว่าความแตกต่างของรุ่นนี้จะมีแค่ไหนและราคาจะเป็นอย่างไร
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Nokia 3.2
ดีไซน์ของ Nokia 3.2 มีการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้น มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาดใหญ่ถึง 6.26 นิ้ว แต่สังเกตว่าขอบเครื่องจะหนากว่าเล็กน้อย และรูปทรงการแสดงผลให้แบบเต็มที่
ขอบบนของตัวเครื่องนอกจากเซนเซอร์ลำโพงสนทนาแล้วยังมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ล่างสุดของเครื่องมาพร้อมกับปุ่มควบคุมระบบ Android ประกอบด้วยปุ่ม Back และ ปุ่ม Center ที่กดค้างจะเรียก Google Assistant, ปัดขึ้นครั้งแรกเป็น Recent Apps ไว้สลับ Apps ไปมา และ ปัดขึ้นสูดเป็นที่อยู่ของ Application ต่างๆ ที่เราได้ติดตั้ง และยังมาพร้อมกับ โลโก้คำว่า Nokia ด้านล่างอีกด้วย
รอบตัวเครื่องยังคงเป็นวัสดุพลาสติกที่มีเกรดที่ดีและเงางาม แต่น่าเป็นห่วงเรื่องรอยเล็กน้อย ประกอบด้วยฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียงพร้อมกับปุ่ม เปิดปิดเครื่องที่มีไฟเรืองแสงบอก Notification
ฝั่งซ้ายมาพร้อมกับปุ่มสั่ง Google Assistant ได้ด้วย พร้อมกับช่องใส่ซิม 2 SIM และมาพร้อมกับช่องใส่ Micro SD
ส่วนบนของเครื่องมาพร้อมกับความเรียบและสวยงาม มาพร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ล่างสุดมาพร้อมกับไมโครโฟนสนทนา, ช่องเสียบ Micro USB และลำโพงตัวเครื่อง
ด้านหลังของเครื่องมาพร้อมกับเลนส์เดียวพร้อมกับ LED Flash และถัดลงมาเป็น โลโก้ Android One ล่างสุดเรียกได้ เรียกได้ว่าออกแบบเรียบง่ายและมี ผิวที่สวยงามอย่างยิ่ง แต่สำหรับรุ่นนี้จะไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้นะครับ
ฟิลลิ่งการถือ / น้ำหนัก / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย
จากภาพรวมมือถือรุ่นนี้ถือว่าเป็นเครื่องที่ออกแบบเรียบง่ายและทำให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างดี แต่ว่าถ้าได้เคสดีๆ จะทำให้เครื่องจับได้ถนัดมืออย่างยิ่ง
โดยภาพรวมของเครื่องถือว่าจับได้ถนัดมือและมีขนาดใหญ่เหมาะกับการใช้ดูภาพยนตร์ พร้อมกับความบันเทิงแบบเต็มที่ แต่ก็มีข้อควรปรับปรุงน่าจะเป็นเรื่องวัสดุที่จะต้องทำให้ดูทนกว่านี้ หรือไม่ก็ต้องแถมเคสมาสจะดีที่สุด
Nokia 3.2 จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือ Steel กับ Black เท่านั้น
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์และประสิทธิภาพของ Nokia 3.2
นอกจากรูปร่างที่สวยงามแล้ว Nokia 3.2 มีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจ เรามาดูกันเริ่มจากรายละเอียดของมือถือรุ่นนี้
รายละเอียดของ Nokia 3.2
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 159.4 x 76.2 x 8.6 มม.
- น้ำหนัก: 181 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ
- หน้าจอ: IPS LCD ขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด 1520x720 พิกเซล
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 429 Quad-core + Adreno 504
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N Single Band, Bluetooth 4.2, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie (Android One)
- ระบบความปลอดภัย
- ระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D
- กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล (f2.2 Main)
- กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล (f2.0)
- แบตเตอรี : 4,000 mAh
- แรม/ความจุ : RAM 2GB / ความจำ 16GB | RAM 3GB / ความจำ 32GB เพิ่มความจำได้แบบ Micro SD 400GB
- สี : Steel, Black
คะแนนประสิทธิภาพของ Antutu ทำได้อยู่ที่ 38979 คะแนน
คะแนนประสิทธิภาพของ Geekbench 4 ทั้งแบบ Single Core ทำได้ที่ 831 และ Multi Core ได้ที่ 2288
จากที่ทดลองในภาพรวมต้องบอกว่า Nokia 3.2 อาจจะยังไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมสักเท่าไหร่ เพราะสเปกที่ให้มาถ้าอยากเล่นเกม อาจจะต้องเลื่อนไปเล่น Nokia 5.1 Plus แต่ถ้ามีงบประมาณเท่านี้และต้องเอามาเล่นเกมปกติ ที่ไม่ได้คิดมาก รุ่นนี้ผมถือว่ายังสอบผ่าน
ทดลองการเชื่อมต่อ
Nokia 3.2 มาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้าทั้งแบบ WiFi 802.11 N (2.4GHz), Bluetooth 4.2 และการเชื่อมต่อ GPS ที่มองไปแล้วการทำงานถือว่าทำได้ดี
การแสดงผล / ระบบเสียง
หน้าจอของ Nokia 3.2 เลือกใช้หน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียด 1520x720 พิกเซล แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า Nokia 4.2 ดังนั้นค่า DPI อาจจะยังสู้ไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าการแสดงผลภาพรวมเป็นอย่างไร ถือว่ายังรับได้
ระบบเสียงตัวเครื่องให้ลำโพงมาตัวเดียวอยู่ข้างล่าง และ สามารถเสียบหูฟังหรือเชื่อมต่อกับ Bluetooth ได้เช่นเดียวกัน แถมยังมี FM Radio มาให้
ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ความปลอดภัย
ฟีเจอร์เด่นของมือถือคงเน้นเรื่องของระบบปฏิบัติการ Android Pie และเข้าโครงการ Android One และนอกจากนี้มาพร้อมกับ Patch ความปลอดภัยที่อัปเดตอย่างต่อเนื่อง และลูกเล่นต่างๆ ยังไม่ได้แตกต่างจาก Android One ปกติเช่น Application ของ Google มาให้ครบเครื่องเลย
ระบบความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้ามาให้เพียงระบบเดียว แต่ยังดีมาพร้อมกับการอัปเดต Patch ความปลอดภัยอยู่เรื่อยๆ
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
กล้องของ Nokia 3.2 ให้มาตัวเดียวโดยกล้องหลังจะได้กล้องเลนส์เดียวความละเอียด 13 ล้านพิกเซล Auto Focus และมี LED Flash มาให้ครบ
และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
หน้าตาโหมดกของกล้อง Nokia 3.2
โหมดการทำงานของกล้องใน Nokia 3.2 ยังคงปรับปรุงให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้นเปลี่ยนโหมดต่างๆ ได้ง่ายและสามารถ Switch ได้อย่างเต็มที่ และยังมี AI Scene Camera ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการถ่ายภาพได้ทันที
ลองถ่ายภาพด้วย Nokia 3.2 เป็นอย่างไร
ภาพกลางวันต้องยอมรับว่า AI Scene ช่วยปรับสีสันของภาพได้ดีมากขึ้น เมื่อเทียบกับไม่ได้เปิด แต่คุณภาพโดยรวมยังรับได้
ภาพกลางคืนเนื่องจากรูรับแสงค่อนข้างกว้างทำให้กล้องรุ่นนี้อาจจะต้องใช้ถ่ายกับพื้นที่ ที่มีความสว่างบ้าง ถ้ามืดหรือแสงน้อยเกินไปจะเกิด Noise ขึ้น
ลูกเล่นอื่นๆ ของ Nokia 3.2 ยังคงเน้นเรื่องของการทำงานในโหมด AI เช่นการถ่ายภาพบุคคล แต่ไม่ได้มีโหมดละลายหลัง รวมไปถึงการถ่ายภาพอาการในระยะใกล้ถือว่าทำผลงานได้ดีเหมือนกัน
การถ่ายวิดีโอด้วย Nokia 4.2 เป็นอย่างไร
รองรับการถ่ายวิดีโอหลายแบบแต่ถ้าเป็นโหมดปกติสามารถใช้ความละเอียด 1080P แบบ 30 FPS เท่านั้น
กล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซลของ Nokia 3.2 เป็นอย่างไร
กล้องหน้าของ Nokia 3.2 ให้ความละเอียดเพียง 5 ล้านพิกเซลเท่านั้นแม้ว่าจะไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่การทำงานโดยรวมถือว่าใช้งานได้ และมีโหมดละลายหลังมาให้ครบ
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ / การชาร์จไฟกลับเข้าไป
แบตเตอรี่ของ Nokia 4.2 จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3000 mAh แม้ว่าจะไม่เยอะ แต่สเปกรายละเอียดของเครื่องไม่ได้มาก ทำให้ใช้งานได้ค่อนข้างยาวนานพอสมควร การทดสอบแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ประมาณ 10 ชั่วโมง ถือว่ากำลังดีเลย
แบตเตอรี่ของ Nokia 3.2 ให้มาเหมาะกับตัวเครื่องที่มีความยาวค่อนข้างมากถึง 4000 mAh และการใช้งานถ้าเล่นเกมสามารถข้ามวันได้ แต่ว่าถ้าไม่ได้ใช้งานหนัก จะสามารถยืดออกข้ามวันได้สบายๆ และมีระบบจัดการพลังงานของ Android มาให้ครบทั้ง Adaptive Battery, Power Saver เป็นต้น
และมือถือรุ่นนี้มีระบบชาร์จไฟด่วนที่ 10W
สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ลองใช้ Nokia 3.2
สำหรับมือถือ Nokia 3.2 ถือว่าเป็นมือถือรุ่นเริ่มต้นที่ใครต่อใครสามารถหามาใช้งานได้แบบไม่ยากนัก แต่ถ้าจะบอกว่ารุ่นนี้มีข้อควรระวังคือ ROM ของเครื่องค่อนข้างน้อยมากอาจจะทำให้น่าเป็นห่วงในการใช้งานในระยะยาว
อย่างไรก็ตามมือถือรุ่นนี้เปิดราคาอยู่ที่ 3,990 บาท และ ความจุใหม่ RAM 3GB / ความจำ 32GB ราคา 4,290 บาท เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วก็มีอยู่หลายตัวแต่รุ่นนี้จะได้เปรียบเรื่องของ Android One ที่ไปต่อได้ไกลสุด ดังนั้นถ้าใครอยากไดมือถือที่อัปเดตได้นานและเชื่อถือได้ Nokia 3.2 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
จุดเด่น
- เครื่องใหญ่จับได้ถนัดมือ
- หน้าจอขนาดใหญ่
- ลูกเล่นครบ
- ได้ Android One ที่อัปเดตได้นาน
ข้อสังเกต
- ความจำในตัวน้อย
- ไม่ได้มีลูกเล่นโดดเด่นเป็นตัวชูโรง
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ