ฟูจิฟิล์มเปิดตัว Instax mini LiPlay : เป็นได้ทั้งกล้องและเครื่องพิมพ์ภาพ แถมอัดเสียงได้
ฟูจิฟิล์ม (ประเทสไทย) เปิดตัวกล้องถ่ายภาพประเภท Instant Camera ในตระกูล Instax ชื่อว่า “Instax mini LiPlay” ชูจุดเด่นที่เป็นได้ทั้งกล้องถ่ายภาพ และเครื่องถ่ายภาพ เสมือนการรวมฟีเจอร์การใช้งานของ Instax mini และ Instax Share มาไว้ภายในเครื่องเดียว และที่สำคัญ สามารถบันทึกเสียงลงบนภาพได้ โดยถือเป็นฟีเจอร์ใหม่ และเป็นรายแรกที่นำฟีเจอร์นี้มาไว้ในกล้อง
สำหรับสเปกของกล้อง Instax mini LiPlay นั้น เริ่มต้นที่ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 255 กรัม ซึ่งถือว่าเบา เมื่อเทียบกับ Instax ที่ออกวางจำหน่ายก่อนหน้านี้ มาพร้อมกับหน้าจอแอลซีดีขนาด 2.7 นิ้ว สามารถดูภาพที่เพิ่งถ่ายได้ และดูรูปภาพที่กำลังจะถ่ายได้เช่นกัน
นอกเหนือจากนี้ ตัวกล้องยังมาพร้อมกับปุ่มการใช้งานขั้นพื้นฐาน เช่น ปุ่มชัตเตอร์, ปุ่มปรับโหมด และปุ่มตั้งค่าต่างๆ แต่ในรุ่นนี้ มีการเพิ่มปุ่มลัดเข้ามาอีก 3 ปุ่ม ไว้สำหรับตั้งค่าในส่วนของการใส่กรอบรูปภาพ ซึ่งสามารถเลือกกรอบรูปที่ใช้เป็นประจำมาไว้ที่ปุ่มนี้ได้ นอกเหนือจากนี้ ยังมีกระจกชิ้นเล็กๆ อยู่ที่หน้าตัวเครื่อง (ข้างๆ เลนส์) ไว้สำหรับการถ่ายเซลฟี่โดยเฉพาะ
มากันที่ไฮไลท์อย่างฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในกล้องรุ่นนี้กันบ้าง Instax mini LiPlay สามารถบันทึกเสียงเป็นข้อความสั้นๆ และพิมพ์ลงบนภาพถ่ายของเราได้ โดยกดปุ่มรูปไมโครโฟนที่ด้านหน้าของตัวกล้อง เสียงที่อัดไว้นั้นจะถูกแปลงให้เป็น QR Code และพิมพ์ไปพร้อมกับภาพที่เราต้องการ เมื่อต้องการฟังเสียงที่อัดไว้ ก็สามารถสแกน QR Code บนรูปภาพ แล้วฟังได้เลย
ยังไม่หยุดแค่นั้น กล้องตัวนี้ ยังสามารถถ่ายภาพแล้วเก็บไว้ในตัวเครื่อง หรือถ่ายแล้วเก็บลง MicroSD Card ได้ แล้วค่อยมาเลือกรูปที่จะสั่งพิมพ์อีกที แต่ถ้าหากไม่อยากใช้กล้องถ่ายภาพ อยากสั่งพิมพ์ภาพที่มีในสมาร์ตโฟนของเราเองล่ะก็ สามารถทำได้เช่นกัน โดยดาวน์โหลดแอป Instax mini LiPlay แล้วทำการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนกับตัวกล้องผ่านบลูทูธ แล้วเลือกรูปที่ต้องการพิมพ์และสั่งพิมพ์ได้เลย สามารถสั่งพิมพ์รูปเดียวกันได้มากกว่าหนึ่งรูป ต่างจาก Instax รุ่นทั่วๆ ไป ที่สามารถถ่ายได้ครั้งละภาพ ถ่ายซ้ำไม่ได้ และถ่ายเสียแล้วถือว่าเสียไปเลย เสียแผ่นฟิล์มไปแบบฟรีๆ นอกเหนือจากนี้ ยังสามารถใช้แอปฯ เป็น Remote Control และดู Live View ก่อนกดปุ่มชัตเตอร์ได้อีกด้วย สำหรับกรอบรูปและฟิลเตอร์นั้น สามารถเลือกได้มากถึง 30 แบบ ที่สำคัย เมื่อถ่ายเสร็จแล้ว รูปที่เราถ่ายไว้สามารถแชร์ลงโซเชียลได้
ในส่วนของดีไซน์และสีของตัวกล้องนั้น มีให้เลือกถึงสามสีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ Elegant Black, สีทอง Blush Gold และสีขาว Stone White ซึ่งแต่ละสีจะมีผิวสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป ส่วนของราคานั้น Instax mini LiPlay จำหน่ายที่ราคา 5,490 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน Wonder Photo Shop และร้านขายกล้องชั้นนำทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ส่วนใครที่อยากเห็นประสิทธิภาพและการใช้งานของกล้องตัวนี้ สามารถรับชมรีวิวจากทาง #beartai ได้ที่ด้านล่างนี้เลย