รีวิว Xiaomi Mi 9T มือถือ 3 กล้อง พร้อม กล้องหน้า Pop-up ที่สเปกดีเลิศในราคาที่จับต้องได้
กลับมาพบกับรีวิว Smart phone และ Gadget จากทีม Sanook! Hitech กันอีกครั้ง สำหรับรอบนี้ ทีมได้นำมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Xiaomi Mi 9T ที่เปิดตัวในวันที่รีวิวนี้ออกพอดี มาดุกันว่าความสามารถของรุ่นนี้จะเป็นอย่างไรและราคาของเครื่องรุ่นนี้จะอยู่ที่เท่าไหร่
แกะกล่อง Xiaomi Mi 9T
ภายในกล่องของ Xiaomi Mi 9T รุ่นล่าสุดมาพร้อมกับอุปกรณ์ดังนี้
- ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 9T
- เคสแข็งสีดำ
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือ
- ที่ชาร์จไฟ
- สาย USB-C
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Xiaomi Mi 9T
เริ่มต้นด้วยหน้าจอภาพรวมของเครื่องกันก่อน กับหน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว เลือกใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED ทำให้เกิดความคมชัด และยังรองรับฟีเจอร์ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และมีการแสดงผลที่คมชัด กับการรองรับมัลติทัช 10 จุด ถือว่าลงตัวอย่างมากสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ความละเอียดหน้าจอ ทำได้ที่ 2340x1080 พิกเซล หรือ FHD+ กระจกด้านหน้าเป็น Gorilla Glass 5
ส่วนบนของหน้าจอ เนื่องจากกล้องหน้าถูกซ่อนไว้ด้านบนสุด ทำให้เซนเซอร์ฝั่งรอบส่วนบน ลำโพงสนทนา และไม่มี Notch มากวนใจอีกต่อไป
ส่วนล่างของหน้าจอ เป็นส่วนควบคุมหน้าจอ โดยสามารถสั่งทั้ง Recent สลับ Apps, Home กดเข้าหน้าจอ, และ Back สำหรับย้อนกลับ
รอบตัวเครื่องออกแบบให้เวลาถือรับกับมือมากขึ้น และทำจากอะลูมิเนียม ดังนั้นถาดใส่ซิม ถูกย้ายไปไว้ที่อื่น ปล่อยให้ฝั่งซ้ายเรียบจนไม่มีปุ่มกดอะไร
ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดตัวเครื่องที่แยกสีออกมาชัดเจนคือสีแดง ที่กดแล้วให้น้ำหนักดีเลยทีเดียว
ส่วนบนนอกจากสีสันที่สวยงาม นอกจากลำโพงตัดเสียงรบกวน Xiaomi Mi 9T ยังมีช่องเสียบหูฟังและกล้องหน้าแบบ Pop-up ที่มีไฟเรืองแสง Notification มาให้ด้วย และเมื่อกล้องเปิดไฟก็จะติดและเรืองแสงขึ้นมาบอกว่า กล้องมาแล้วทนทานมากขึ้น และเปิดได้ถึง 3 แสนครั้ง
ส่วนล่างของยังคงเน้นความเรียบง่าย มาพร้อมกับช่องใส่ซิมทั้งหมด 2 ช่องและไม่มีที่เพิ่มความจำ, USB-C, ไมโครโฟน และ ลำโพงตัวเครื่อง
พลิกกลับมาด้านหลังของเครื่อง Mi 9T ที่ออกแบบได้อย่างสวยงาม ติดตั้งกล้อง 3 ตัวด้านหลังไว้ตรงกลางพอดี พร้อมกับสีดำทำให้ด้านหลังของตัวเครื่องดูเรียบและสวยประกอบกับด้านข้างสีสันที่สวยงามทำได้ตัวเครื่องดูเป็นสี Two Tone
ฟิลลิ่งการถือ / น้ำหนัก / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย
ฟิลลิ่งการถือของ Xiaomi Mi 9T จะมาพร้อมกับความที่จับถนัดมือเพราะตัวเครื่องใหญ่กว่า Mi 9 และ Mi 9 SE ที่ขายก่อนหน้านี้และน้ำหนักของมันจะรู้สึกทันทีว่ามันหนักกว่า แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากมือถือรุ่นนี้คือหน้าจอใหญ่กว่าก็สามารถหักล้างกับน้ำหนักได้เลยทีเดียว
สีสันของเครื่องมีให้เลือก 3 สีได้แก่ Carbon black, Red flame, Glacier blue ที่มีความน่าสนใจเพราะสีสันเหล่านี้ข้างหลังตัดสวยออกมาสวยงามมากเลยทีเดียว
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์และประสิทธิภาพของ Xiaomi Mi 9T
รายละเอียดของ Xiaomi Mi 9T
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 156.7 x 74.3 x 8.8 มม.
- น้ำหนัก: 191 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : -
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 730 (8 นาโนเมตร) Octa Core 2.3GHz + GPU Adreno 618
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie + MIUI 10.3
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 3 ตัว : 48 ล้านพิกเซล (f1.8 Main), 13 ล้านพิกเซล (f2.4, Ultra-Wide 124.8 องศา), 8 ล้านพิกเซล (f2.4 Telephoto) + LED Flash และ PDAF
- กล้องหน้า: 20 ล้านพิกเซล (F2.0)
- แบตเตอรี :4000 mAh + Fast Charge 18W
- แรม/ความจุ : RAM 6GB / ความจำ 128GB
- สี : ดำ Carbon black, แดง Red flame, น้ำเงิน Glacier blue
การทดสอบประสิทธิภาพ
สำหรับคะแนนทดสอบประสิทธิภาพผ่าน Antutu ทำได้อยู่ที่ 212,443 คะแนน
การทดสอบผ่านโปรแกรมอีกตัวคือ Geekbench 4 ทำได้อยู่ที่แบบ Single Core 2534 คะแนน และ Multi Core 6845 คะแนน
จากคะแนนที่ปรากฏ เห็นได้ชัดเจนว่าทำได้ดีกว่า Mi 9SE แบบเห็นได้ชัด แต่ว่าประสบการณ์เล่นเกมที่สัมผัสได้อาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ยกเว้นการเล่นเกมประสิทธิภาพสูงที่จะเห็นผลได้ชัดเจนมาก ก็เลยยังคงแนะนำว่าถ้าคุณต้องการเล่นเกมในมือถือรุ่นนี้ไว้ใจมันได้เลย และยังมี GPU Turbo ที่ทำให้เล่นเกมได้ดี
การทดลองการเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อของ Xiaomi Mi 9T ยังคงมาพร้อมกับ WiFi AC, Bluetooth 5.0 และรองรับ GPS ในการนำทาง เมื่อได้ทดลองก็ถือว่ายังเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองอยู่พอสมควร
การแสดงผลและระบบเสียงเครื่อง
การแสดงผลหน้าจอของ Xiaomi Mi 9T เลือกใช้แบบ AMOLED แต่ด้วยขนาดหน้าจอแบบ 6.39 Full View Display ทำให้ภาพออกมาจะดูเต็มตากว่า รุ่นอื่นของ Xiaomi ทั้งหมดที่ออกมาก่อนหน้านี้ และยังได้พื้นที่หน้าจอเยอะกว่ารุ่นอื่น และ มีโหมดสามารถใช้ได้ทุกสภาพแสงทั้งกลางวันและกลางคืน
แต่ว่าระบบเสียงยังคงให้ลำโพงตัวเดียวที่อยู่ด้านล่าง เสียงที่ออกมาถือว่าเรียกได้ว่าสมบูรณ์และมาพร้อมกับ Effect เสียงที่ฟังแล้วเหมาะสมกับหูฟัง 1 More หรือ Xiaomi ได้ และใช้ชิปเสียงของ Qualcomm WCD9340 รองรับ Hi Res Audio
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบปฏิบัติการของ Xiaomi Mi 9T ยังคงเลือกใช้ Android Pie เวอร์ชั่น 9 ถือว่าล่าสุด และมาพร้อมกับ MIUI 10 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการปรับปรุงหน้าตา UI ให้ใช้งานได้ง่าย มีความยืดหยุ่นในการทำงานและสามารถเปลี่ยน Theme ได้ ส่วนการทำ Spilt Screen หรือ ใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอทำได้แค่ กดปุ่ม Split Screen แล้วเลื่อน Apps หนึ่งไปด้านบน > เลือก Apps แสดงผลข้างล่างก็จะแสดงผลพร้อมกัน 2 หน้าจอ
ฟีเจอร์ของเครื่องยังคงเหมือนกับมือถือจาก Xiaomi นั่นคือมี เครื่องมือทั้ง เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, ระบบดูแลรักษาเครื่อง และอื่นๆ รวมไปถึง Mi Remote ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบใช้มือถือคุมอุปกรณ์ไร้สายได้ และยังมีฟีเจอร์ Dual Apps, การดูแลรักษาสุขภาพของเครื่อง
ส่วนระบบความปลอดภัย มีให้เลือก 2 ระบบ คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอแบบ Optical ซึ่งการทำงานนั้นเร็วมากขึ้น โดย Xiaomi เคลมว่าจะสแกนได้ไวในเวลา 0.3 วินาที
อีกระบบคือการสแกนใบหน้าที่ยังทำงานได้เร็วและทั้งคู่ยังสามารถปลดล็อคเพื่อเข้าสู่ ฟีเจอร์ Second Space ได้
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
กล้องหลังของ Xiaomi Mi 9T จัดเต็มมาให้ด้วยจำนวนกล้องมากถึง 3 ตัว
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล 8 รองรับ Auto Focus
- กล้องตัวที่ 2 ขนาด 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับรูรับแสง 2 และยังมาพร้อมกับมุมมอง Ultrawide
- กล้องตัวที่ 3 ขนาด 8 ล้านพิกเซลเป็นเลนส์แบบ Telephoto
เท่ากับกล้องหลังจะมีความละเอียดเท่ากับ Xiaomi Mi 9 และ Mi 9SE แต่ความสามารถจะแตกต่างกันหรือไม่ต้องดูในส่วนถัดไป
ลูกเล่นฟีเจอร์ของกล้อง
สำหรับลูกเล่นของ Xiaomi Mi 9T ในเรื่องของกล้องแทบจะยกมาจาก Xiaomi Mi 9 มาทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการทำงานต่างๆ ไม่ได้แตกต่างกันมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ AI Scene ซึ่งแบ่งได้ทั้งหมด หลากหลายรูปแบบทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และมี Effect ให้เลือกมากมาย และมีโหมดขยายเป็น 48 ล้านพิกเซล
ลองถ่ายภาพด้วยกล้อง Xiaomi Mi 9T
สำหรับภาพกลางวันของมือถือรุ่นนี้ยังให้การเก็บรายละเอียดที่ดีและทำให้คุณเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพเพราะมีรายละเอียดที่ดีและมีโหมดต่างๆ ที่เลือกใช้ได้เยอะ ทำให้ภาพกลางวันออกมามีความแปลกใหม่มากขึ้น
ภาพกลางคืนที่เรียกได้ว่ารูรับแสงกล้องปกติค่อนข้างรับแสงได้เยอะแต่แนะนำว่าถ้าอยู่ในสภาพที่แสงน้อยจริงๆ ปรับค่าชดเชยแสงจาก 1 ลงมาสักหน่อยก็จะได้ภาพที่ดีขึ้นชัดเจนครับ
ส่วนในรูปแบบการถ่ายภาพอื่นๆ มาพร้อม โหมดละลายหลัง และยังมี AI Scene ที่ปรับได้อย่างมากมายเลยครับ และมี Effect เลือกใช้ได้เลย
การถ่ายวิดีโอด้วย Xiaomi Mi 9T
การถ่ายวิดีโอด้วย Xiaomi Mi 9T มาพร้อมกับความละเอียดสูงสุด 4K 30 FPS และรองรับการถ่ายวิดีโอ Slowmotion และ Timelapse ได้
กล้องหน้าขนาด 20 ล้านพิกเซล ดีแค่ไหน
กล้องหน้าของ Xiaomi Mi 9T เป็นแบบ 20 ล้านพิกเซล และเป็นแบบ Pop-up การทำงานของกล้องถือว่าดีมาก เพราะยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่ทำงานได้ดี โดยเฉพาะการปรับ Beauty Mode ที่มีให้เลือกหลากหลาย และมี Flash จากหน้าจอออกมาให้ และเวลาเปิดปิดกล้องก็จะมีไฟเรืองแสงบอกสถานะการทำงานให้ด้วย
และกรณีทำมือถือตกกล้องจะเก็บอัตโนมัติ แต่ออกจากโหมดกล้องทันทีเช่นเดียวกัน
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ / การชาร์จไฟกลับเข้าไป
ความพิเศษของ Xiaomi Mi 9T ที่ในตระกูลเดียวกันไม่มีให้คือเรื่องของแบตเตอรี่ขนาดยักษ์ 4000 mAh การใช้งานอยู่ได้ทั้งวันเรื่องนี้ไม่ต้องแปลกใจ แต่ว่าถ้าเล่นเกมอยู่ได้ 14 – 15 ชั่วโมง ต้องขอบคุณระบบจัดการพลังงานใน Android Pie ที่ติดมาให้
และนอกจากนี้การชาร์จไฟยังทำได้เร็วเพราะรุ่นนี้รองรับที่ชาร์จกำลังสูงสุด 18W ไม่กั๊กแล้ว เพราะให้มาในกล่องเลย
สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ลองใช้ Xiaomi Mi 9T สักระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากที่ได้สัมผัสมาตามระยะเวลาปกติของการรีวิว ต้องยอมรับว่า Xiaomi Mi 9T เป็นมือถือที่คุ้มในหลายด้านทั้งกล้องที่ยกสเปกจาก Mi 9 และ Mi 9SE ที่รีวิวไปก่อนหน้านี้แต่มีการปรับปรุงดีไซน์หลายเรื่องทำให้หน้าจอใหญ่ กล้องหน้าซ่อนและสเปกเครื่องถือว่าดีมากเลยทีเดียว และใส่แบตเตอรี่ความจุสูง เข้าไป ถือว่ารุ่นนี้ลงตัวในทุกด้าน
ส่วนราคาของ Xiaomi Mi 9T เคาะไว้ที่ RAM 4GB / ความจำ 64GB ราคา 11,990 บาท และ RAM 6GB / ความจำ 128GB ราคา 12,990 บาท เรียกได้ว่า คุ้มค่าพอสมควรเลยทีเดียว และยังมีโปรโมชั่นต่างๆ ถือว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการมือถือที่คุ้มค่าในเรื่องของบอดี้ที่สวยงามและขนาดเครื่องเหมาะสมกับการใช้งาน และสเปกเครื่องนี้แรงด้วยครับ ส่วนการซื้อหาของรุ่นนี้สามารถดูได้ทั้ง Mi Store ทั่วประเทศ และ AIS สำหรับ RAM 6GB / ความจำ 128GB
และโปรโมชั่นของ AIS จะมีโปรโมชั่น ค่าเครื่องดังนี้
- ซื้อพร้อมโปรโมชั่น 449 บาท พร้อมชำระค่าบริการ 1,000 บาท สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 10,490 บาท
- ซื้อพร้อมโปรโมชั่น 649 บาท พร้อมชำระค่าบริการ 1,500 บาท สามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 9,490 บาท
และได้รับ Mi Smart Band 4 สามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 กรกฎาคม นี้
ส่วนรุ่น RAM 6GB / ความจำ 64GB สามารถหาซื้อได้
จุดเด่น
- สีสันด้านหลังสวยล้ำ
- ขุมพลังใหม่และถือว่าแรงดี
- กล้องทำงานได้ดีและครบ
- สิ่งอำนวยความสะดวกภายในครบถ้วน
- ชาร์จไฟเร็วเครื่อง
ข้อสังเกต
- กล้องหน้าเวลาปิดจะเด้งออกไปหน้าหลักทันที
- ยังไม่ได้ให้ลำโพงแบบ Stereo
- ไม่กันน้ำ
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ