อย่าเล่นจนเพลิน “FaceApp” หรือ “แอปหน้าแก่” มีอะไรที่ควรตระหนัก?
ช่วงนี้แอป “Faceapp” หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า “แอปหน้าแก่” กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก
>> คนดังพาเหรดเล่น FaceApp แอปหน้าแก่ที่ฮิตสุดๆ ในตอนนี้ คนสวยคนหล่อแก่แล้วจะเป็นไงมาดูกัน
แต่ว่าเมื่อลองไปดูเงื่อนไขว่าแอปนี้ทำอะไรกับรูปเราบ้าง อาจต้องตระหนักกันซะแล้ว หรือว่าอาจเป็นสงครามทางการเมืองหรือเปล่านะ
เนื่องจากทางสหรัฐอเมริกาได้ออกมาบอกว่า “ในเงื่อนไขของ Faceapp ระบุว่า Faceapp อาจจะนำรูปไปใช้ประโยชน์อะไรก็ได้ เช่นเอาไปให้ระบบ AI เรียนรู้หรืออาจจะเป็นการขายข้อมูลอย่างเช่นที่ Facebook เคยทำกับ Cambridge Analytica
แต่ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่าที่อเมริกาออกมาพูดอาจเป็นเพราะกังวลว่าแอปนี้มาจากรัสเซียหรือเปล่า กลัวว่าเป็นการแอบเป็นสายลับให้รัฐบาลรัสเซีย เพราะจริงๆ ทุกแอปไม่ว่าของประเทศไหนที่ต้องประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์มันต้องนำข้อมูลผู้ใช้ไปเก็บในเซิร์ฟเวอร์อยู่แล้ว แต่ทำไมสหรัฐอเมริกาถึงออกมาพูด
แต่อย่างไรก็ดีทางผู้พัฒนา faceapp ได้แถลงผ่าน The Guardian ว่าแอปของเราอัพโหลดเฉพาะรูปที่คุณเลือกเท่านั้น ไม่ได้ดูดรูปทั้งเครื่อง และรูปที่อัปโหลดไปก็จุดประสงค์เพื่อในไปประมวลผล และจะลบออกภายใน 48 ชั่วโมง อีกทั้งแม้แอปนี้เป็นของรัสเซีย แต่ก็ใช้ระบบ Cloud ของ Amazon และ Google ซึ่งเป็นของสหรัฐอเมริกา และเราไม่มีความคิดจะนำข้อมูลไปขายแต่อย่างใด แต่ก็ยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า เราจะรู้ได้ไงว่าภายใน 48 ชั่วโมง ทีมงาน Faceapp จะทำอะไรกับรูปไหม
เรื่องน่ารู้ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น
- ความจริงแล้วแอปทุกแอปที่ให้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตต้องเข้าถึงข้อมูลแล้วนำข้อมูลไปไว้บน Server อยู่แล้ว แต่ว่าถ้าเป็น App ที่มีความปลอดภัยจะต้องเข้ารหัสข้อมูลที่แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ก็เปิดดูไม่ได้ และเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้อนุญาตเท่านั้น
- การที่ผู้ให้บริการแอปได้ข้อมูลเราไป หลายครั้งมีการนำไปใช้ประโยชน์จริง แต่เพียงเป็นการแค่ให้ระบบ AI เรียนรู้เท่านั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดดูได้ เช่นกรณีของ Google Photos ที่ให้อัพรูปฟรีในความละเอียดไม่เกิน 16 ล้านพิกเซลได้ไม่จำกัดเนื้อที่ เหตุเพราะว่า Google ต้องการให้ระบบ Machine Learning ของต้นได้เรียนรู้จากภาพจำนวนมากเพื่อให้ระบบฉลาดขึ้น แยกแยะสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยรูปภาพในระบบนั้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดดูได้ มีแค่ AI ในระบบที่เห็นกันเองเท่านั้น [คลิกอ่านแถลงจาก Google]
- แต่จากกรณีดังกล่าวก็ทำให้บางหน่วยงานไม่ไว้ใจที่จะใช้บริการ อย่างล่าสุดก็คือ “โรงเรียนในเยอรมันเลิกใช้ Office 365 ด้วยเหตุเพราะกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและกังวลว่าอาจเป็นสายลับให้สหรัฐอเมริกา (คำพูดคล้ายๆ กรณีนี้เลยแหะ)”
- แต่อย่างไรก็ตามก็มี App บางส่วนที่แอบเข้าถึงข้อมูลนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้เช่นกัน อันนี้ต้องอ่านเงื่อนไข ดูรีวิวให้ดี และตัดสินใจว่ายังจะใช้อยู่หรือไม่
ซึ่งความเห็นจากคุณนู๋เนย โปรแกรมเมอร์ไทยในสหรัฐอเมริกาก็ออกมาบอกว่าประเด็น FaceApp เป็นเรื่องธรรมดามากๆ การขอใช้สิทธิ์ต่างๆ ก็ปกติ สุดท้ายก็คือความเชื่อใจที่ผู้ใช้จะมีให้นักพัฒนาว่าต้องการให้เข้าถึงข้อมูลของเรารึเปล่า และน่าจะเป็นประเด็นที่ว่าเป็นแอปรัสเซีย จึงทำให้เกิดกระแสปั่นขึ้นมาด้วย