วิเคราะห์ iPhone 11 ต้องมีอะไรเพิ่มถึงจะปังถึงจะโดน!
ช่วงปีที่ผ่านมาของ Apple นับว่าเป็นปีที่หนัก นอกจากจะมียอดขาย iPhone ที่ลดลงแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีรวมถึงกระแสลบในประเทศจีนที่ประธานาธิบดีสหรัฐสร้างเอาไว้ อีกเพียงเดือนเดียวก็จะถึงกำหนดการเปิดตัว iPhone 11 กันแล้ว นอกจากดีไซน์ที่ควรจะดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว iPhone 11 ควรจะมีอะไรเพิ่มเติมบ้างถึงจะปังและขายได้ดีกว่านี้
แบตเตอรีที่ดีขึ้น
ถึงแม้ว่า iPhone XS จะมีประสิทธิภาพของแบตเตอรีที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ iPhone X รุ่นหน้าจอไร้ขอบต้นตำรับ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ผลิตสมาร์ตโฟนค่ายอื่น ๆ อย่าง Galaxy S10 Plus หรือ Huawei P30 Pro แล้วก็ยังมีระยะเวลาการใช้งานของเครื่องที่ตามชาวบ้านอยู่ค่อนข้างมากประมาณ 4-6 ชั่วโมง
แต่โชคดีที่ iOS 13 อาจช่วยเพิ่มระยะเวลาของแบตเตอรีได้นานขึ้นอย่าง Dark Mode ที่เปลี่ยนหน้าจอเป็นสีดำทั้งหมด ช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่โดยเฉพาะหน้าจอ OLED ที่ใช้บน iPhone X, iPhone XS และ iPhone XS Max
หน้าจอใหม่ที่ดีกว่านี้
จริง ๆ หน้าจอ OLED บน iPhone X, iPhone XS และ iPhone XS Max ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย เพียงแต่เจ้าอื่นเขาทำออกมาดีกว่า อย่าง Galaxy S10 และ Note 10 ซีรีส์มีหน้าจอ HDR10+ หรือ OnePlus 7 Pro ที่มีหน้าจอรีเฟรชเรทสูงถึง 90Hz เลยทีเดียว เรียกว่าด้านเทคโนโลยีก็ยังตามเขาอยู่อีกพอสมควร
แถม Fast Charge มาเถอะ อย่างกเลย
จุดด้อยสำคัญอย่างหนึ่งของ iPhone คือ “งก” อย่าง iPhone XS ราคาเกือบครึ่งแสน ดันแถมที่ชาร์จแรงแค่ 5W มาให้ ชาร์จทีรอรากงอก แต่ถ้าหากใครที่ต้องการชาร์จไวก็สามารถซื้อที่ชาร์จ 18W เหมือนที่ชาร์จของ iPad Pro มาใช้เพิ่มได้ แต่แค่อันเดียวไม่พอ เพราะต้องซื้อสาย Lightning to USB-C เพิ่มอีก เนื่องจากสาย Lightning ที่แถมมาในกล่องนั้นเป็น USB-A ธรรมดา ๆ
แถมเถอะ อย่างกเลย
กล้องหน้าที่ดีกว่านี้จนสาว ๆ ยอม!
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเซลฟี่เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมเหมือนการถ่ายก่อนกินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นกล้องหน้าของ iPhone รุ่นล่าสุดอย่าง iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max ยังให้ภาพที่ธรรมดา ควรเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องหน้า อย่างน้อยก็ควรมีตัวเลือกเลนส์มุมกว้างหรือกล้องคู่ (ไหน ๆ รอยบากก็ใหญ่แล้ว) ระบบ Auto focus และควรรองรับการถ่าย 4K ด้วยซ้ำในราคาขนาดนี้
กล้องหลังก็ต้องพัฒนาขึ้นอีกเยอะ
ตั้งแต่ iPhone 4 เป็นต้นมาเราไม่ค่อยเห็นการพัฒนากล้องของ iPhone มากเท่าไหร่นัก แตกต่างจาก Huawei และ Google ที่มีการพัฒนากล้องแบบก้าวกระโดดมากอย่างใน Huawei P30 Pro และ Pixel 3 โดยเฉพาะเรื่องการถ่ายภาพกลางคืนที่ทิ้ง iPhone ไว้ข้างหลังไกลเกินเอื้อม
แต่ปีนี้อาจจะพอมีข่าวดีบ้าง เนื่องจาก iPhone 11 จะเพิ่มกล้องเข้าไปอีกหนึ่งตัวเป็นสามตัว โดยกล้องที่เพิ่มเข้ามานั้นคาดว่าจะเป็นชุดเลนส์มุมกว้างพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้น iPhone ก็ควรจะมีการพัฒนาซอฟต์แวร์เพิ่มด้วยอย่าง Night Mode ใน Huawei หรือ Pixel ที่ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนสวยงามและชัดขึ้นกว่าเดิม
ความแรงและเสถียรยังจำเป็น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Apple ได้พัฒนาชิปประมวลผล Apple A ซีรีส์เพิ่มความแรงได้อย่างเหลือเชื่อ ลบคำสบประมาทของผู้ใช้งาน Android เรื่องความอืดของ iPhone ได้อย่างหมดจด และเป็นไปได้ว่า Apple A13 Bionic รุ่นใหม่ในปีนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในแง่ของความแรงและความสเถียรมากขึ้น แต่ยังคงผลิตที่สถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตรอยู่
ขอชื่อที่เรียกง่ายกว่านี้ได้ไหม
จริง ๆ ตั้งแต่ iPhone X เป็นต้นมาก็ทำให้ชื่อนั้นแลดูสับสนอยู่เหมือนกัน อย่าง iPhone X อ่านว่า “ไอโฟนเท็น ไม่ใช่ เอ็กซ์” นะ หรือไลน์ iPhone XS อย่าง iPhone XS Max ก็มีชื่อที่ยาวมาก อ่านว่า “ไอโฟน เท็น เอส แม็กซ์” (ยาวไปไหน) จริง ๆ ชื่อของ iPhone ควรจะเรียกง่ายกว่านี้ด้วยก็จะดีมาก
อัลบั้มภาพ 31 ภาพ