[Hands On] พาสัมผัส Sony A7R Mark 4 และ Sony RX100 M7 สองกล้องสเปกเทพสุดๆ
Sony ได้เปิดตัวกล้องตัวท็อปทั้ง Full Frame อย่าง A7R Mark 4 และกล้องจิ๋วแต่ฟีเจอร์เจ๋ง อย่าง RX100 Mark 7 ตัวล่าสุด มาดูกันว่า เทคโนโลยีของกล้องทั้งคู่จะมีอะไรใหม่บ้าง
Sony A7R Mark 4
เริ่มต้นกับพระเอกของงานก่อนกับ Sony Alpha A7R Mark 4 เดินทางมาถึงรุ่นที่ 4 แล้วสำหรับกล้อง Full Frame Mirror Less ที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป มาพร้อมกับเทคโนโลยีจัดเต็ม และเป็นครั้งแรกของโลกที่เลือกใช้เซนเซอร์ Full Frame Back-illuminated CMOS ขนาด 35 ม.ม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดโดยมีความละเอียดสูงถึง 61 ล้านพิกเซล และ ชิปประมวลผลภาพอันทรงพลังอย่าง BIONZ X ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นโดยให้ Dynamic Range กว้างถึง 15 สต็อป พร้อมทั้งสามารถภ่ายภาพแบบต่อเนื่องได้ถึง 10 ภาพต่อวินาที จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพได้อย่างรวดเร็ว และได้คุณภาพสีที่เป็นธรรมชาติสมจริง
พร้อมกับระบบออโต้โฟกัสแบบ Real Time Eye AF ที่ช่วยโฟกัสแบบติดตาม ดวงตาบุคคล ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ระบบ Animal Eye AF ที่สามารถจับโฟกัสดวงตาสัตว์ แม้ในขณะเคลื่อนไหวโดยไม่พราดเป้า
เนื่องจากใโฟกัสแบบ Phase Dection AF รองรับจุดมากถึง 567 จุด และ CAF มากถึง 425 จุด เรียกได้ว่าการโฟกัสทำได้รวดเร็วมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ในเรื่องของระบบกันภาพสั่นไหวยังมาพร้อมกับ ระบบป้องกันสั่นไหวแบบ 5 แกนในตัวกล้อง ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในระยะไกลนิ่งมากขึ้น โดยสามารถกันสั่นได้ถึง 5.5 Stop แต่ที่ได้ลองน่าตะลึกสุดคือโหมด Pixel Shift Multi Shooting ช่วยขยายภาพได้มากถึง 240 ล้านพิกเซล เท่ากับเราซูมภาพเข้าไปแล้ว จะเห็นรายละเอียดชัดมาก เพราะการถ่ายภาพจะทำทั้งหมด 16 ครั้ง
นอกนั้นยังมีอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเลนส์ทั้งแบบถ่ายภาพปกติ หรือจะเป็นเลนส์สำหรับถ่ายภาพแบบ Telephoto หรือ Portrait Mode
โดยราคาเริ่มต้นที่ 114,990 บาท สำหรับ บอดี้อย่างเดียว โดยจะเริ่มขายในเดือนสิงหาคม นี้
Sony RX100 M7
สำหรับกล้องเล็กฟีเจอร์สูงแบบนี้ก็เดินทางมาถึง Generation ที่ 7 เซนเซอร์ของกล้องรุ่นนี้ยังมีขนาด 1 นิ้ว มาในคราบของบอดี้คอมแพคเล็กน่ารัก แต่ข้างในนั้นเขาบอกว่านี่คือกล้องรุ่นใหญ่อย่าง A9 เพราะว่า
มีการติดตั้งระบบ Phase Detection ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 357 จุด และ Contrast Detection ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 425 จุด มาพร้อมกับระบบ Realtime – AF ที่จะโฟกัสได้เร็วมากเพียง 0.02 วินาที แทบจะเร็วกว่าดวงตาคนซะอีก ทำให้ถ่ายภาพ 20 ภาพในเวลาแค่แป๊ปเดียวเท่านั้น เห็นจากภาพเจาะฟองได้เลย
นอกจากนี้ทางด้านระบบกันสั่นมีการติดตั้ง 4K Active SteadyShot โดยผสานกันสั่น Electronic และ Optical เท่าที่ลองในระยะ 200 mm ยังคงให้ความนิ่งอยู่จนเรียกได้ว่ามันนิ่งกว่าเดิม พร้อมกับเสียบต่อไมค์ข้างนอกได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เซนเซอร์ของกล้องยังรองรับภาพขนาด 20.1 ล้านเท่าเดิม มาพร้อมกับเลนส์ ส์ ZEISS Vario-Sonnar T* 24-200mm f2.8-4.5 ในราคา 38,990 บาท
โดยตอนนี้ยังเปิดรับจองอยู่และพร้อมจำหน่ายในปลายเดือนสิงหาคม
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็น, เลนส์ G รุ่น FE 200-600mm F5.6-6.3 G OSS (SEL200600G), เลนส์ GM รุ่น FE 600mm F4 GM OSS (SEL600F40GM), เลนส์ รุ่น FE 35mm F1.8 (SEL35F18F)
และที่น่าสนใจสุดคือ ECM-B1M Shotgun Microphone รุ่นล่าสุด ซึ่งมีขนาดกระทัดรัดความยาวเพียง 99.3 มม.หรือประมาณ 4 นิ้วเท่านั้น แต่สามารถใช้ไฟจากกล้อง A7R Mark 2 ได้และยังมีตัวปรับเยอะมากลดเสียงรบกวน, ตั้งเสียง Digital, Analog และกำหนดความกว้างของมุมองศาของเสียง ได้
ทั้งหมดนี้พร้อมจำหน่ายในเดือนสิงหาคม นี้
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ