RICOH ประกาศใช้พลังงานไฟฟ้าแบบทดแทน 100% สำหรับการประกอบเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน A3

RICOH ประกาศใช้พลังงานไฟฟ้าแบบทดแทน 100% สำหรับการประกอบเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน A3

RICOH ประกาศใช้พลังงานไฟฟ้าแบบทดแทน 100% สำหรับการประกอบเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน A3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บริษัท ริโก้ จำกัด (กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น) ได้แถลงว่า ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2019  บริษัทจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งผลิตทดแทนทั้ง 100% เพื่อให้ครอบคลุมกับพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ต้องการสำหรับใช้ประกอบเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน A3 ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในข้อตกลง RE100 ที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนครบทั้ง100%

สำหรับกระแสไฟฟ้าทั้งหมดที่ RICOH ใช้ในการประกอบเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันแบบ A3 ซึ่งรวมถึงเครื่องที่นำมาซ่อมบำรุงใหม่ ด้วยนั้น จะเป็นพลังงานทดแทนทั้งสิ้น

ตั้งแต่ที่มีการประกาศเข้าร่วมโครงการ RE100 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 นั้น ทางกลุ่มบริษัท RICOH ได้ริเริ่มโครงการประหยัดพลังงานและกิจกรรมอื่นๆ มากมาย โดยมีการติดตั้งศูนย์ผลิตกระแสไฟฟ้าภายในบริษัทเอง รวมทั้งเปลี่ยนแหล่งพลังงานไฟฟ้ามาใช้แหล่งที่มีสัดส่วนของพลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้ บริษัทได้หันมาใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนครบ 100% ในสำนักงานขายกว่า 9 แห่งในยุโรป รวมทั้งในกระบวนการนำกลับมาใช้ซ้ำ/ประกอบใหม่ในโรงงานที่ฝรั่งเศสด้วย สำหรับความพยายามด้านอื่น

ตัวอย่างเช่น การเข้าซื้ออาคารภายนอกที่ได้มาตรฐาน Nearly ZEB ที่สำนักงานสาขากิฟุของ RICOH ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะสำนักงานขายภายในประเทศ เป็นต้น และล่าสุดได้ทำข้อตกลงด้านพลังงานทดแทนอย่าง I-REC และ J-Credit กับทางรัฐบาลเพื่อซื้อเป็นเครดิตพลังงาน เพื่อใช้ในการจัดซื้อกระแสไฟฟ้า 37 GWh ในปีงบประมาณนี้ของRICOH เพื่อใช้กับทุกโรงงานที่มีการประกอบเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันแบบ A3 ซึ่งเมื่อข้อตกลงซื้อพลังงานในปีนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็จะสามารถใช้เครดิตมาแลกเปลี่ยนได้

ในขณะที่มีการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นสำหรับธุรกิจ ความพยายามดังกล่าวก็ได้เพิ่มความเชื่อมั่นและคำชื่นชมจากลูกค้าเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันแบบ A3 ของ RICOH ที่ได้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในโครงการนี้ RICOH วางเป้าหมายที่จะเร่งการสร้างความตระหนักของสังคมที่ลดการปล่อยคาร์บอนให้เหลือศูนย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook