Sony Walkman ยังไม่ตายและคูลมาก! เปิดตัว Walkman A100 และ ZX500 ที่ใช้ Android แล้ว!
ปี 2019 นี้เป็นปีที่ Sony Walkman มีอายุครบ 40 ปีนะครับ (นับจาก TPS-L2 รุ่นแรกที่วางจำหน่ายในปี 1979) ซึ่งแน่นอนว่า Walkman ยังไม่ตาย และมีชีวิตอยู่ในฐานะเครื่องเล่นเพลงแบบ Hi-Res ความละเอียดสูงที่นักฟังเพลงทั่วโลกยังคงซื้อหามาใช้กัน และล่าสุดในงาน IFA 2019 โซนี่ก็ได้เปิดตัว 2 รุ่นใหม่คือ Sony Walkman ZX500 เครื่องเล่นเพลงความละเอียดสูงระดับกลาง และ Sony Walkman A100 เครื่องเล่นเพลงความละเอียดสูงสำหรับผู้ใช้ทั่วไปออกมาครับ ซึ่งปรับปรุงไปเยอะมากจากวอล์คแมนรุ่นเดิม โดยเฉพาะการปรับมาใช้ Android ทำให้ลงแอปสตรีมเพลงได้ และเปลี่ยนจากพอร์ต WM ที่ใช้มายาวนาน สู่ USB-C แล้ว!
Sony Walkman ZX500 เครื่องเล่นเพลงพกพาสำหรับคนฟังเพลงจริงจัง
Walkman ZX500 นั้นเป็นรุ่นต่อจาก ZX300 ที่ออกมาก่อนหน้านี้หลายปีครับ จุดเด่นของเครื่องในซีรีส์นี้คือเป็นวอล์คแมนตัวล่างสุดที่มีช่องเสียบหูฟัง 2 แบบในเครื่องเดียวคือ แบบ Balanced ขนาด 4.4 mm ซึ่งให้เสียงที่เคลียร์ขึ้น และแบบแจ็ค 3.5 mm ที่ใช้กันทั่วไป นอกจากนี้ยังมีงานผลิตที่ซับซ้อน ใช้วัสดุอย่างดี และมีรายละเอียดมาก เพื่อให้เสียงออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในงบประมาณระดับนี้ (เพราะ ZX500 ถือเป็นรุ่นกลางเท่านั้น เรายังมี Walkman WM1Z ราคา 109,990 บาทที่เป็นรุ่นท็อปอยู่)
โดยโครงสร้างของ ZX500 นั้นทำมาจากอลูมิเนียมทั้งก้อน เอามาสกัดเพื่อให้ได้โครงสร้างที่แข็งแรง ไม่มีรอยต่อ มีการใช้แท่นทองแดงที่ผลิตแบบไร้ออกซิเจนเป็นตัวยึดชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งจะลดสัญญาณรบกวน ทำให้สัญญาณเสียงเคลียร์ขึ้น แล้วยังมีการใช้ตัวเก็บประจุชนิดพิเศษแบบ FT CAP (high polymer capacitor) ที่สั่งทำมาพิเศษเฉพาะโซนี่ เพื่อใช้ในภาคจ่ายไฟ แถมตะกั่วบัดกรีก็ยังเป็นเกรดเครื่องเสียงที่มีทองเป็นส่วนผสมด้วย และยังมีชิ้นส่วนพิเศษในเครื่องอีกมากมาย (แต่โซนี่ก็ไม่ยอมบอกว่าใช้ CPU อะไร ใช้ชิป DAC อะไรอยู่ดีนะ)
และการปรับปรุงสำคัญของ Walkman ZX500 คือเปลี่ยนมาใช้ระบบปฏิบัติการ Android แล้ว หลังจาก ZX300 นั้นใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะตัวที่ลงแอปไม่ได้ แถมต่อ Wifi ไม่ได้ด้วย เมื่อ ZX500 นั้นใช้ Android 9 ก็ทำให้ลงแอปได้หลากหลาย โดยเฉพาะแอป Music Streaming ยอดนิยมอย่าง Spotify หรือ Tidal ก็สามารถเล่นเพลงได้เสียงที่ดีขึ้นกว่าเล่นในสมาร์ตโฟน (มากๆ) เพราะวอล์คแมนมีชิปเสียงเฉพาะตัว และมีเทคโนโลยีปรับแต่งเสียงระดับสูงสุดของ Sony เช่น DSEE HX เพื่อคืนรายละเอียดเสียง, S-Master HX แอมป์ดิจิตอล, Vinyl Processor จำลองเสียงแบบแผ่นเสียง หรือ Clear Audio+ ที่ช่วยปรับเสียงโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถเล่นไฟล์ Hi-Res ได้หลากหลายสกุล เช่น DSD, FLAC, MQA รวมถึงไฟล์ทั่วไปอย่าง mp3, mp4, wav ด้วย ส่วนการเชื่อมต่อ Bluetooth ก็น่าจะรองรับ codec พิเศษเป็น aptX HD กับ LDAC ครับ (ลุ้นว่าจะรองรับ AAC ไหมต่อไป)
Walkman ZX500 มาพร้อมจอสัมผัสขนาด 3.6 นิ้วแบบ HD หน่วยความจำในตัว 64 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้ พร้อมช่องต่อ USB-C ซึ่งเป็น Walkman กลุ่มแรกที่เปลี่ยนมาใช้พอร์ตนี้ แทนพอร์ต WM ที่ใช้มายาวนาน โดยชาร์จ 6.5 ชั่วโมง ใช้งานได้สูงสุด 20 ชั่วโมง (เทียบกับ ZX300 ที่ใช้งานได้ 30 ชั่วโมง ก็ต้องเรียกว่า Android ทำให้เครื่องกินแบตมากกว่าเดิม) และยังมีกิมมิก สามารถเป็นสกินให้เป็นแบบเครื่องเล่นเทปได้ด้วย ให้อารมณ์เหมือนเล่น Walkman ตัวแรกอยู่
แต่ที่น่าสนใจคือฟังก์ชั่น USB DAC ที่เคยมีอยู่ใน ZX300 ที่ต่อเสียงจากคอมพิวเตอร์หรือมือถือมาเข้า Walkman เพื่อให้เสียงดีขึ้น นั้นไม่มีในรุ่นนี้นะครับ ใครที่ใช้ฟังก์ชั่นนี้บ่อยๆ ต้องพิจารณาด้วย
Sony Walkman ZX500 ความจุ 64 GB ตั้งราคาไว้ 830 euro หรือประมาณ 28,000 บาท โดยจะวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน 2019
Sony Walkman A100 เครื่องเล่นเพลงรุ่นยอดนิยม
Sony Walkman ในตระกูล A นั้นวางกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เริ่มสนใจฟังเพลงคุณภาพสูงแบบ Hi-Res ครับ ก็มีราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าตระกูล ZX แต่ก็ยังให้คุณภาพเสียงที่เหนือกว่าการฟังเพลงผ่านสมาร์ตโฟนทั่วไป เพราะแม้ไม่ได้ออกแบบและใช้ชิ้นส่วนเวอร์วังอย่าง ZX500 แต่ Walkman A100 ก็ยังใช้โครงสร้างเป็นอลูมิเนียมทั้งชิ้น ใช้ตะกั่วบัดกรีผสมทอง และมีระบบช่วยจูนคุณภาพเสียงเหมือนรุ่นพี่คือ DSEE HX คืนคุณภาพเสียงจากการบีบอัด, S-Master HX แอมป์ดิจิตอล, Vinyl Processor จำลองเสียงให้อบอุ่นเหมือนแผ่นเสียง หรือ Clear Audio+ ระบบปรับเสียงโดยอัตโนมัติ เล่นไฟล์ Hi-Res ได้หลากหลายสกุล เช่น DSD, FLAC, MQA รวมถึงไฟล์ทั่วไปอย่าง mp3, mp4, wav ก็ได้ ส่วนการรองรับ Bluetooth ก็เหมือนรุ่นพี่ครับ
Walkman A100 นั้นมีหน้าจอขนาด 3.6 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 pixel เหมือนรุ่นพี่ ใช้ Android 9 และต่อ Wifi เพื่อลงแอปฟังเพลงได้เหมือนกัน ใช้พอร์ต USB-C เช่นกัน เพิ่มความจุด้วย MicroSD ก็ได้ ฟังก์ชั่น USB DAC ก็หายไปเหมือนรุ่นพี่ด้วย (เสียใจ!) แต่จุดใหญ่ที่แตกต่างจาก ZX500 คือไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ balance 4.4 mm มาให้นี่แหละครับ มีแต่ช่อง 3.5 mm อย่างเดียว
Walkman A100 ใช้เวลาชาร์จนาน 5.5 ชั่วโมง และเล่นเพลงต่อเนื่องได้นานสุด 26 ชั่วโมง (เทียบกับ Walkman A50 เล่นได้สูงสุด 39 ชั่วโมง)
โดย Walkman A100 นั้นมีให้เลือก 5 สี คือ แดง, ส้ม, เขียว, น้ำเงิน และสีดำ โดยมีรุ่นพื้นฐานคือความจุ 16 GB ตั้งราคาไว้ 350 Euro หรือประมาณ 12,000 บาท และรุ่นความจุ 32 GB พร้อมหูฟังตัดเสียงรบกวน IER-NW510N ที่ออกแบบมาใช้กับ Walkman ตระกูล A โดยเฉพาะ ซึ่งยังไม่ทราบราคา นอกจากนี้ยังมีชุด Limited ฉลองครบรอบ 40 ปีของ Walkman อีกด้วย
ซึ่งในชุด Limited จะมี Walkman A100 สีดำเขียนลายพิเศษฉลองครบรอบ 40 ปี พร้อมเคสใส่เครื่องแบบพิเศษที่ทำเหมือน Walkman TPS-L2 รุ่นแรกที่ออกสู่ท้องตลาด ซึ่งเมื่อใส่กับเครื่องแล้วใช้อินเทอร์เฟซแบบเทป ก็จะให้อารมณ์ Walkman รุ่นแรกมากๆ ซึ่งชุดนี้ตั้งราคาในยุโรปไว้ที่ 440 Euro หรือประมาณ 15,000 บาท