[Hands On] ลองสัมผัส Samsung Galaxy Fold มือถือพับได้ที่เปิดราคาในประเทศไทย

ในที่สุด Samsung Galaxy Fold ในประเทศไทยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ซื่งถือว่าเร็วมากเมื่อนับจากการเผยโฉมครั้งแรกในงาน IFA 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งทีมงานได้ทำบทความจับครั้งแรกไปก่อนหน้านี้ แต่เมื่อมาจำหน่ายในประเทศไทยเร็วขนาดนี้ต้องมีความพิเศษแน่นอน เรามาดูกันว่าด้านไหนที่น่าใช้ และราคา 69,900 บาท คุ้มมากไหม

>> [Hands On] จับครั้งแรกจริงๆ Samsung Galaxy Fold 5G หลังปรับปรุงดีไซน์ จะน่าใช้แค่ไหน

 

อุปกรณ์ติดกล่องของ Samsung Galaxy Fold

• เคส Aramid Fibre Slim Cover เป็นเคสที่ทำวัสดุที่แข็งแรงและทำเครื่องบินได้ และสัญญาณมือถือไม่ Drop
• Samsung Galaxy Buds
• ตัวแปลง USB-C
• ที่ชาร์จ USB-C
• เข็มจิ้มซิม
• แผ่นกันรอยด้านหน้า

หมายเหตุ: Samsung Galaxy Fold ในประเทศไทยจะได้ที่ชาร์จแบบเดียวกับ Adaptor แบบเดียวกับ Galaxy S10 เท่านั้น

จุดกำเนิดของ Samsung Galaxy Fold

Samsung ได้มองหาถึงอนาคตของมือถือว่าควรจะเป็นอย่างไร ซึ่ง Samsung Galaxy Fold จะตอบโจทย์นี้ โดยมือถือมองการสำรวจของการใช้งานของผู้ใช้งาน ซึ่งขนาดหน้าจอยังคงมีข้อจำกัด และต้องพกพาได้ การทำมือถือพับได้เป็นอีกที่น่าสนใจมากที่สุด

Samsung Galaxy Fold ทำอะไรได้

Samsung ได้มีการวางจุดของ Samsung Galaxy Fold มาทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกันประกอบไปด้วย

• Design

การทำงานจะเป็นแบบหน้าตาปกติที่มีขนาด 4.6 นิ้วใช้งานง่ายด้วยมือเดียว และเหมาะสมกับการถือของคนเรา และใส่กระเป๋ากางเกงได้พอดีไม่อึดอัด แต่ถ้าต้องการให้ใหญ่มากขึ้นขนาด 7.3 นิ้ว Super AMOLED อัตราส่วน 4.2:3 บานพับมีความแข็งแรง โดยทดสอบแล้วว่า สามารถเปิดปิด 200,000 ครั้ง โดยรองรับการพับ 100 ครั้งต่อวัน หรือทนได้ 5 ปี ซึ่งบานพับมีการเปลี่ยนกลไกการพับที่มีความละเอียดอ่อน และแข็งแรงมาก ขณะที่พับอยู่ จะสามารถใช้งานได้แทบทุกอย่าง แค่เล็กกว่าและถนัดมือมากกว่า

• Multi Tasking

การใช้งานแบบ 3 Application ได้พร้อมกับในหน้าจอ (Multi Active Windows) การใช้งานพร้อมกันได้ 3 หน้าจอโดยไม่ต้องหยุด และสามารถสลับกันได้ และสามารถดูได้ Chat ได้ หรือจะแบ่งหน้าจอเป็น 2 หน้าจอทำงานพร้อมกันที่มีขนาดเท่ากันได้ การใช้งานสามารถใช้งานกับ Application ทั่วไปได้ด้วย

และสามารถใช้งานถ่ายวิด๊โอ และต้องการส่งเข้าห้องแชท ได้เลย หรือจะเป็นการพิมพ์แชทและต้องการให้ Keyboard แบบ Full Size กับหน้าจอได้ลงตัว และยังสามารถใช้งาน App ระหว่าง จอใหญ่ และจอเล็กได้ ถ้าเราเปิดจอใหญ่อยู่และปิดเป็นจอเล็กก็จะแสดงผลต่อเนื่องทันที

• Camera

กล้องทั้งหมด 6 ตัว กล้องหน้า 1 ตัว กล้องในหน้าจอพับ 2 ตัว และกล้องหลัง 3 ตัวด้วยกัน โดยความละเอียดมีทั้ง

กล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล เหมาะกับคนถ่าย Selfie แบบเร่งด่วนได้ กล้องหลัง เลนส์ 3 ตัวแบบ Ultra Wide กล้องภายในจะมีกล้องหน้า 2 เลนส์ แบ่งออกเป็นกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล ทั้งการใช้ Live Focus หรือ Video Call ที่ละเอียดรวมไปถึงการแชทที่ละเอียดมากขึ้น

กล้องหลังของ Samsung Galaxy Fold ทำงานเหมือนกับกล้องกล้องของ Samsung Galaxy S10 / S10+ ดังนั้นการมีฟีเจอร์ฉลาดเช่น Shot Suggestions จัดองค์ประกอบในการถ่ายภาพได้, Scene Optimizer ปรับแต่งให้กล้องหลังมี 30 Scene และถ่ายวิดีโอแบบ Super Steady ที่ถ่ายวิดีโอได้มีคุณภาพ และมุมมองกว้างแบบ

สเปกและความจำของ Samsung Galaxy Fold

• สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : (ก่อนกาง) 160.9 x 117.9 x 6.9 มม. | (เมื่อกาง) 160.9 x 62.9 x 15.5 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 268 กรัม
• การป้องกันน้ำและฝุ่น : -
• หน้าจอแสดงผล : ด้านนอก 4.6 นิ้วความละเอียด 1680x720 พิกเซล และหน้าจอภายใน ขนาด 7.3 นิ้ว ความละเอียด 2152 x 1536 พิกเซล (อัตราส่วน 4:2:3)
• ความละเอียดหน้าจอ : 3040 x 1440 พิกเซล (QHD+) ป้องกันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass 6
• ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 855 + Adreno 640
• การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS, 5G, 4G
• ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie + One UI
• ระบบความปลอดภัย
• สแกนลายนิ้วมือผ่านด้านข้าง
• ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
• กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว : 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.4, Telephoto + 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f1.5 – f2.4, Wide  + 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.2, Ultra-Wide
• กล้องดิจิทัลด้านหน้า : (ด้านในหน้าจอ) 10 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.2 + 8 ล้านพิกเซล | (ด้านนอก) กล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ความจุ : 4,380 mAh (แบ่งแบตเตอรี่ 2 ข้าง) + Fast Charge 15W, Wireless Charge 15W
• พอร์ตเชื่อมต่อแบบ : USB Type-C
• หน่วยความจำแรม (RAM) : 12 GB
• หน่วยความจำภายใน (ROM) : 512GB
• หน่วยความจำภายนอก : -
• สี : Space Silver, Cosmos Black

แบตเตอรี่ของ Fold

มีขนาด 4380 mAh แบ่งออกเป็น 2245 mAh และ 2135 mAh โดยดีไซน์ของเครื่องแบ่งออกเป็น 2 ซีกทำให้ใช้งานได้นาน และทำให้เครื่องบางและยังให้แบตเตอรี่อึดสุดๆ พร้อมรองรับกับ Wireless Power Share และรองรับ Wireless Charge เหมือนกัน เพียงแต่ว่า แบบสายชาร์จรองรับกำลัง 15W เท่านั้น

ระบบเสียง / การเล่นเกม

ลำโพงคู่พร้อมกับรองรับ Dolby ATMOS โดยการเล่นเกมสามารถทำงานได้ทั้งหูฟังและลำโพงคู่ และหน้าจอใหญ่ ดังนั้นการเล่นเกมถือว่าให้เสียงที่ดัง และเมื่อเล่นเกมนอกจากจะได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสม และสามารถเล่นเกมอย่างต่อเนื่องทั้งการพับ หรือ กางหน้าจอ

ราคาและการวางจำหน่าย

Samsung Galaxy Fold มาพร้อมกับรูปทรงที่น่าใช้งานไม่น้อย ส่วนราคาที่เปิดตัวอยู่ที่ 69,900 บาท อาจจะสูงไปหน่อย แต่กลุ่มของ Samsung Galaxy Fold จะเน้นคือ คนที่ต้องการมือถือที่ได้ทั้งหน้าจอใหญ่ หรือ เล็ก ไม่ต้องซื้อ Tablet หรือ มือถือ พร้อมกัน อยากพกเครื่องเดียว

ใครที่อยากเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy Fold สามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 10 – 14 ตุลาคม และรับเครื่อง 16 ตุลาคม ส่วนเครื่องจริงจะมีการจำหน่ายอีกหรือไม่ คงต้องรอติดตามกันต่อไป แต่ถ้าอยากรู้ว่าเมื่อรีวิวแล้วเป็นอย่างไรเรามาดูกันเร็วๆ นี้