One Day Trip ในกรุงเทพไปกับ Vivo V17 Pro ทดสอบพลังกล้องหน้าป๊อปอัพคู่แรกของโลก และกล้องหลัง 4 ตัว

One Day Trip ในกรุงเทพไปกับ Vivo V17 Pro ทดสอบพลังกล้องหน้าป๊อปอัพคู่แรกของโลก และกล้องหลัง 4 ตัว

One Day Trip ในกรุงเทพไปกับ Vivo V17 Pro ทดสอบพลังกล้องหน้าป๊อปอัพคู่แรกของโลก และกล้องหลัง 4 ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครั้งนี้ SANOOK! มีภารกิจทดสอบพลังกล้อง 6 ตัวจาก Vivo V17 Pro ที่เปิดตัวมาพร้อมกล้องหน้าป๊อปอัพคู่แรกของโลก และกล้องหลัง 4 เลนส์ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล แถมมีเทคโนโลยี Quad-Bayer ช่วยให้ภาพออกมามีสีสันสวยชัดแบบไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเตอร์แต่งภาพเพิ่ม ดังนั้นเราจึงขอท้าพิสูจน์ความเจ๋งทั้งหมดนี้ด้วยการหยิบเอา Vivo V17 Pro ขึ้นมาเป็นกล้องหลักใน One Day Trip ที่ทีมงานมีนัดเก็บภาพที่เที่ยวสำคัญในกรุงเทพฯ  

มาลองดูกันดีกว่าว่า Vivo V17 Pro จะทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน

One Day Trip ครั้งนี้พวกเรามีจุดหมายเป็นย่านเมืองเก่ารอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ในเขตพระนคร เริ่มต้นกันที่ “วัดพระแก้วหรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม” แลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ และประเทศไทย สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2325 เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระคู่บ้านคู่เมืองของแผ่นดินสยาม ซึ่งวันนี้วัดพระแก้วยังคงสง่างามพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่หลั่งไหลกันไปอย่างไม่ขาดสาย

และก็ถึงเวลาทดสอบกล้องหลัง  AI 4 เลนส์ ที่มาพร้อมความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX582 ขนาด 1/2 พิกเซลขนาดใหญ่ 0.8µm และรูรับแสง F/1.8 ทำให้ Vivo V17 Pro ถ่ายภาพได้อย่างชัดเจนมากขึ้น และยังมีเทคโนโลยี Quad-Bayer ช่วยให้ภาพออกมาคมชัดแบบไม่จำเป็นต้องเข้าแอปพลิเคชั่นเพื่อแต่งภาพเพิ่ม

ผลลัพธ์ของกล้องหลัง 4 ตัว ออกมาสวยเกินกว่าที่คิด ดังนั้นขอให้คะแนนเต็มสิบ เพราะประทับใจมาก ทั้งในเรื่องของการใช้งานที่ง่าย ความคมชัดที่ได้ รายละเอียดที่ครบ และให้สีที่สวยสดในทุกมิติ

นอกจากนี้ Vivo V17 Pro ยังมาพร้อมกับเลนส์มุมกว้าง ทำให้สามารถเก็บภาพได้ครบทุกรายละเอียดยิ่งกว่าเดิม โดยเราได้เอาฟังก์ชั่นนี้มาทดลองกันต่อที่อีกหนึ่งพิกัดสำคัญบนเกาะรัตนโกสินทร์ นั่นคือ วัดโพธิ์ ซึ่งถือเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1ซึ่งเราได้พบว่าการมีเลนส์มุมกว้างติดตัวทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะไม่จำเป็นต้องขยับตัวหรือหยิบเลนส์มาเปลี่ยนให้ยุ่งยากก็สามารถบันทึกทุกองค์ประกอบได้ครบถ้วน

ทดลองใช้ฟังก์ชั่นเลนส์มุมกว้าง ภาพบนถ่ายด้วยโหมดปกติ และภาพล่างถ่ายด้วยโหมดเลนส์มุมกว้าง โดยที่คนถ่ายยืนอยู่ในที่เดิมทดลองใช้ฟังก์ชั่นเลนส์มุมกว้าง ภาพบนถ่ายด้วยโหมดปกติ และภาพล่างถ่ายด้วยโหมดเลนส์มุมกว้าง โดยที่คนถ่ายยืนอยู่ในที่เดิม

หลังจากตะลุยเที่ยวรอบเกาะกันมาแบบยาวๆ ก็ถึงเวลาหาคาเฟ่และร้านอาหารสำหรับนั่งชิล เพื่อให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศของย่านเมืองเก่า เราเลือกร้าน Elefin Coffee ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ #สายกาแฟ ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่เด่นในเรื่องของเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ไทยแท้จากดอยช้าง โดยสามารถเลือกระดับความเข้มของรสชาติ และระบุความหวานมันได้แบบแก้วต่อแก้ว ส่วน #สายอาหาร บอกเลยว่าที่นี่ครบทั้งคาวและหวาน

ส่วนพิกัดสามารถตามไปเช็คอินกันได้เลยที่ https://goo.gl/maps/6e619GLLe6C2

ถือว่าถ่ายภาพอาหารออกมาได้สวยทีเดียวถือว่าถ่ายภาพอาหารออกมาได้สวยทีเดียว

จากนั้นไปเดินเล่นกันต่อที่ “ท่ามหาราช” คอมมูนิตี้บนเกาะรัตนโกสินทร์ เพราะที่นี่ครบทั้งร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และยังมีทีเด็ดเป็นวิวสำหรับถ่ายภาพ

เมื่อมาถึงที่นี่เราตั้งใจลองเล่นกล้องหน้าที่ Vivo V17 Pro ขอฉีกทุกกฎการถ่ายภาพแบบเดิมๆ ด้วยนวัตกรรมใหม่กล้องหน้าคู่พร้อมเลนส์ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างพิเศษ 105 องศากับความละเอียดที่สูงถึง 32 ล้านพิกเซล

สำหรับใครที่กังวลว่ากล้องหน้าคู่ที่มาพร้อมระบบป๊อปอัพจะมีปัญหา ขอบอกเลยว่าตัดทุกความกังวลตรงนี้ออกไปได้ เพราะ Vivo V17 Pro ได้พัฒนาทุกนวัตกรรมเพื่อทำให้โครงสร้างของกล้องหน้าสามารถเลื่อนขึ้นลงแบบอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด อีกทั้งยังใช้โครงสร้างแบบโลหะ พร้อมมีฟังก์ชันป้องกันการตกกระแทก ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกทดสอบซ้ำมากกว่าหมื่นครั้งจนมั่นใจได้ในความแข็งแรง

ส่วนที่เราชอบที่สุดของกล้องหน้าป๊อปอัพคือเลนส์ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างพิเศษ 105 องศา เพราะทำให้เก็บทุกอย่างรอบตัวได้ครบ แม้คนที่ไม่ถนัดเซลฟี่มาก่อนก็สามารถเซลฟี่ได้แบบไม่ลำบากและไม่จำเป็นต้องใช้ ไม้เซลฟี่ให้ยุ่งยากด้วย

 เปิดโหมด Wide สำหรับเซลฟี่ เปิดโหมด Wide สำหรับเซลฟี่

เซลฟี่โดยปิดโหมด Wideเซลฟี่โดยปิดโหมด Wide

อีกทั้งยังมีโหมดเซลฟี่ถ่ายภาพกลางคืน ให้ภาพใบหน้าสวย และฉากพื้นหลังที่สมบูรณ์ เพียงแค่คลิกเดียวเพื่อจับภาพ ภาพที่ได้ก็จะดูสวยงามสว่างมากยิ่งขึ้น ให้ คุณสวยสมบูรณ์แบบแม้ในที่แสงน้อย เพื่อให้คุณรู้สึกมั่นใจมากกว่าที่เคย

ทดลองเซลฟี่ตอนกลางคืนโดยเปิดโหมด Soft Lifeทดลองเซลฟี่ตอนกลางคืนโดยเปิดโหมด Soft Life

ส่วนของการเก็บภาพตอนกลางคืน Vivo v17 Pro ก็ทำหน้าที่ได้ดี เพราะได้รับการอัพเกรดใหม่ เพิ่มความคมชัดของภาพ จับโฟกัสได้เร็วมากยิ่งขึ้นแม้ในที่แสงน้อย ซึ่งเราขอทดสอบพลังนี้ก็ที่วิวของ “วัดอรุณ” ตอนค่ำคืน ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ยามค่ำคืนของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่ควรพลาด

ปิด Night Modeปิด Night Mode


เปิด Night Mode จะเห็นว่าจากมุมเดิมได้ภาพที่สว่างขึ้น โดยเป็นความสว่างที่ดูสวย ไม่หลอกตาเปิด Night Mode จะเห็นว่าจากมุมเดิมได้ภาพที่สว่างขึ้น โดยเป็นความสว่างที่ดูสวย ไม่หลอกตา

อีกอย่างที่ทำให้ประทับใจมากคือ  Vivo V17 Pro มี Super Macro Camera ที่ทำให้เราถ่ายภาพได้สนุกขึ้นกับการโฟกัสได้ใกล้ถึง 4 เซนติเมตร ดังนั้นสำหรับ #สายธรรมชาติ ที่ชอบเก็บรายละเอียดของดอกไม้ ขนนก สีสันของเกล็ดปลา หรือลวดลายที่สวยงามของผีเสื้อ  เชื่อเถอะว่าแค่มีเครื่องนี้อยู่ในมือจะได้ภาพที่เพอร์เฟกต์อย่างแน่นอน         

นอกเหนือจากฟังก์ชั่นของการถ่ายภาพที่ทำให้เราตกหลุมรักแล้ว Vivo V17 Pro ยังเด่นในเรื่องของหน้าจอSuper AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20: 9 พื้นที่หน้าจอสูงถึง 91.65% ทั้งยังใช้วัสดุ E3 แบบใหม่ แสดงสีสันตามมาตรฐาน DCI-P3 สูง ถึง100% ให้สีสันที่สวยเหมือนจริง ที่สำคัญหยิบเล่นได้อย่างสบายตาเพราะแสดงค่าแสงสีฟ้าต่ำ ซึ่งผ่านการรับรองจาก TÜV สถาบันรับรองความปลอดภัยจากประเทศเยอรมันแล้วว่า เมื่อเทียบกับจอ E2 ทั่วไปสามารถกรองแสงสีฟ้าได้ถึง 42% และยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยถนอมสายตาจากการใช้งานในสภาวะแสงน้อย

Vivo V17 Pro มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 RAM 8GB และ ROM 128GB สามารถใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างไหลลื่น

ส่วน #สายเกม วางใจได้เลยใน Vivo V17 Pro เพราะเราลองเล่นแล้วไหลลื่นดีมาก แถมยังมี Ultra Game Mode ที่สามารถปิดข้อความ และการแจ้งเตือนต่างๆ ในขณะเล่นเกมได้ ทำให้ทุกการเล่มเกมไหลลื่นไม่มีติดขัดให้หงุดหงิดใจอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมี  Dark Mode ฟังก์ชันที่จะทำให้พื้นหลังเปลี่ยนเป็นสีดำ ทั้งประหยัดพลังงาน ถนอมสายตา และผ่อนคลาย

ผลลัพธ์สำหรับวันนี้ต้องบอกว่าประทับใจมากสำหรับ Vivo V17 Pro กับการทำหน้าที่เป็นผู้บันทึกภาพหลัก เพราะใช้งานง่าย เก็บภาพได้ครบทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้า กล้องหลัง ตอนกลางวัน ตอนกลางคืน หรืออยากจะถ่ายมุมกว้าง ใกล้ ไกลแค่ไหนก็ตาม   รวมถึงยังฟังก์ชั่นอื่นๆ ก็ตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ แถมยังมีโหมดถนอมสายตามาทำให้เรายิ่งสนุกกับการใช้สมาร์ทโฟนมากกว่าเดิม  

(Advertorial)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook