[รีวิว] Infinix Hot 8 มือถือ 3 กล้องหลัง สเปกคุ้ม แบตฯอึด ในราคาเปิดตัวที่ 2,990 บาท
กลับมาพบกับรีวิว Gadget และมือถือจากทีม Sanook! Hitech กันอีกครั้ง ในรอบนี้เอาใจคนที่ไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ก็อยากได้มือถือที่เล่นเกมดี สเปกไว้ใจได้ และจอสวย อย่าง Infinix Hot 8 วันนี้เราจะมารีวิวกันว่ามือถือรุ่นนี้คุ้มค่าแค่ไหน มารับชมกัน
แกะกล่อง Infinix Hot 8
สำหรับภายในกล่องของ Infinix Hot 8 จะประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง Infinix Hot 8
- ฟิล์มกันรอย
- เคส
- หูฟัง
- สายชาร์จแบบ Micro USB
- Adaptor ติดกล่อง
- คู่มือ
- ใบรับประกัน
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Infinix Hot 8
เรามาเริ่มต้นกับส่วนหน้าของเครื่องกันกับหน้าจอขนาดใหญ่มากถึง 6.6 นิ้วความละเอียดอยู่ในระดับ HD+ ถือว่าอาจจะให้ความละเอียดน้อยไปหน่อย แต่ก็ถือว่ายังลงตัว สำหรับคนที่ต้องการใช้งานทั่วไป
ส่วนบนมีเซนเซอร์ที่อยู่ตามขอบเครื่องและมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และลำโพงสนทนา (Ear Peach)
ล่างสุดจะเป็นหน้าจอที่มีปุ่มควบคุมในแบบของ Android 9 และสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้
รอบตัวเครื่องทำจากวัสดุพลาสติกแต่มีการเพิ่มความแข็งแรงด้วยงานประกอบที่จัดว่าเนียบ ประกอบด้วยฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ Nano SIM 2 ช่องและ Micro SD ถาดใส่จะยาวเหมือนกับมือถือในกลุ่ม 2 SIM
ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม เปิด / ปิดตัวเครื่องขนาดกำลังดีไม่เล็ก, ไม่ใหญ่เกินไป
ส่วนบนไม่ได้ติดตั้งอะไรมาให้แต่ก็ยังโชว์ความงดงามของเครื่องรุ่นนี้ได้อย่างดี
ล่างสุดมาพร้อมกับลำโพง, ไมโครโฟน, ช่องเสียบหูฟัง และ Micro USB มาให้ครบ
พลิกมาดูด้านหลังพบกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวเรียงเป็นแบบแนวตั้งมาพร้อมกับระบบสแกนนิ้ว และ โลโก้ของ Infinix ที่โดดเด่นไม่น้อน
ภาพรวมของรูปร่าง / น้ำหนัก / สีสัน
ถึงแม้รูปร่างไม่ได้แตกต่างอะไรจากมือถือระดับกลางที่คุ้นเคยของใครหลายคนเท่าไหร่ แต่ถ้ามองถึงราคา 2,990 – 3,990 บาท ถือว่างานประกอบทำได้ดีมาก และรายละเอียดตัวเครื่องดูน่าใช้ไม่น้อยเลยครับ ถ้าจะบอกจุดอ่อน มันก็คือเรื่องของน้ำหนักที่อาจจะเยอะไปนิด
ส่วนสีสันของเครื่อง Infinix Hot 8 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีคือ Quetzal Cyan, Cosmic Purple, Shark Grey, Midnight Black
เปิดเครื่องลองประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ของ Infinix Hot 8
รายละเอียดของ Infinix Hot 8 (RAM 4GB / ROM 64GB)
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 165 x 76.3 x 8.7 มม.
- น้ำหนัก: 179 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : -
- หน้าจอ: IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ 1560x720 พิกเซล
- ชิปเซ็ต MediaTek Heilo P22+ PowerVR GE8320
- การเชื่อมต่อ : 4G LTE (Nano SIM 2 Slot) WiFi 802.11 B/G/N Single Band, Bluetooth 4.2, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android Pie
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วที่ด้านหลัง
- กล้องหลัง 3 ตัว : 13 ล้านพิกเซล (f1.8,) + 2 ล้านพิกเซล (Depth Sensor), QVGA (Low Light)
- กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี : 5,000 mAh
- แรม (RAM) : 4GB
- ความจำภายใน : 64GB
- ความจำภายนอก : MicroSD
- ช่องเสียบ : Micro USB, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี : Quetzal Cyan, Cosmic Purple, Shark Grey, Midnight Black
การทดสอบประสิทธิภาพ / ทดลองเล่นเกม
การทดลองประสิทธิภาพจาก AnTuTU ทำได้ที่ 79474 คะแนน
ส่วน Geekbench 5 ทำได้ที่ Single Core 148 คะแนน Multi Core 843 คะแนน อาจจะได้น้อยไปสักหน่อยเพราะโปรแกรมตัวนี้เพิ่มเรื่องของการวัดที่หนักทำให้เครื่องระดับ หลักพันแสดงประสิทธิภาพได้เท่าที่เห็น
หลังจากที่ได้ทดลองเล่นเกมแล้วพบว่าการทำงานของเครื่องถือว่าตอบโจทย์การทำงานดี และการเล่นเกมนั้นอาจจะต้องยอมรับว่าสเปกมันไม่ได้สูงก็อาจจะทำให้เป็นอุปสรรค์เล็กน้อยในการประมวลผลภาพ แต่ถ้าถามว่า มันใช้ได้หรือไม่ คำตอบคือ ใช้ได้แล้วครับ
การทดลองนำทาง / การเชื่อมต่อ
มาดูในส่วนเรื่องของการเชื่อมต่อ Infinix Hot 8 ใช้นำทางได้กำลังเหมาะเพราะหน้าจอใหญ่ แต่ว่าเมื่อเชื่อมต่อกับ GPS ยังคงให้ความแม่นยำ และมือถือรุ่นนี้รองรับ WiFI AC ถือว่าเซอร์ไพรส์เหมือนกัน และ Bluetooth 4.2
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
หน้าจอของ Infinix Hot 8 จะมีหน้าจอขนาด 6.6 นิ้วความละเอียด 1560x720 พิกเซล การแสดงผลอาจจะไม่ได้สดใสมาก แต่ข้อดีคือหน้าจอสู้แสงได้ดีเมื่อลองใช้ในที่กลางแจ้ง และกลางคืนมองให้ได้ชัดเจน
ส่วนระบบเสียงเนื่องจากไม่ได้ติดตั้งลำโพงคู่ แต่ให้ลำโพงตัวเดียวกัน และมาพร้อมกับ FM Radio
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบปฏิบัติการของ Infinix Hot 8 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 ครอบบน XOS รุ่นใหม่ล่าสุด และยังมาพร้อมกับการปรับแต่งที่เน้นความเร็ว แต่อาจจะมากเกินเวอร์ชั่นของ Android ไปหน่อย
ฟีเจอร์ต่างๆ เน้นการใช้งานจริงมีครบทั้ง สมุดจด, เครื่องอัดเสียง, เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน และยังโหลดเพิ่มจาก Google Play Store ได้
ระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D และระบบสแกนนิ้วมือที่ด้านหลังทำงานได้แม่นยำดีใช้ได้
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
กล้องหลังของ Infinix Hot 8 มาพร้อมกับ กล้องทั้งหมด 3 ตัวประกอบไปด้วย
- กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล (f1.8,)
- กล้องละลายหลัง 2 ล้านพิกเซล (Depth Sensor)
- กล้อง QVGA (Low Light)
หากมองไปแล้วกล้องหลังของเครื่องมีความละเอียด 3 ตัวมีความละเอียดกำลังเหมาะในราคานี้ แต่ซึ่งในกลุ่มนี้ไม่ได้ให้เลนส์สำหรับถ่ายมุมกว้างมาให้น่าเสียดายเหมือนกัม
ฟีเจอร์เมนูกล้อง
เมนูของกล้องเป็นอีกเทคโนโลยีหลายคนต้องใช้ โดยเฉพาะโหมด AI Cam ที่เรียนรู้ว่ารูปแบบภาพที่เราต้องการถ่ายภาพว่าอยากถายแบบไหน และยังมีโหมดอื่นๆ มากมายทำให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพได้ และยังมีการตั้งเวลาถ่ายได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Infinix Hot 8
ภาพกลางวัน / แสงปกติ ยังคงให้ภาพที่สวยงามไม่ต้องปรับแต่งอะไรมาก แต่คุณก็สนุกกับการใช้ฟีลเตอร์ได้
ภาพกลางคืนอาจจะมี Noise ขึ้นเล็กน้อยเพราะเลนส์ Low Light ความละเอียดน้อยไปหน่อย
ภาพโหมดอื่นๆ ยังมีทั้งการถ่ายภาพอาหาร / ภาพบุคคล ที่ยังคงใช้งานได้ แต่ AI Cam ก็อาจจะเน้นเรื่องของการปรับแต่งสีมากกว่า
การถ่ายวิดีโอด้วย Infinix Hot 8 เป็นอย่างไร
สำหรับกล้องหลังของ Infinix Hot 8 สามารถถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียด Full HD ไม่ได้ติดตั้งระบบกันสั่นมาให้
การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล เป็นอย่างไร
กล้องหน้าของ Infinix Hot 8 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่า มีโหมดปรับ Beauty ที่กล้องจะปรับอัตโนมัติ แต่ว่ายังคงได้ภาพในแบบปกติ ฟรุงฟริ้งขึ้นเล็กน้อย
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
แบตเตอรี่ของ Infinix Hot 8 มีขนาด 5000 mAh เท่านั้น เมื่อใช้งานจริง ก็ทำให้รู้ว่ามือถือระดับเริ่มต้นแบบนี้ก็ใช้งานได้นาน ถ้าไม่ได้เล่นเกมหนักมากนัก แต่ถ้าทดลองในรูปแบบการใช้โปรแกรม PC Mark จะทำได้อยู่ที่ 11 ชั่วโมง อาจจะกินไฟไปหน่อย
ส่วนระบบชาร์จไฟเนื่องจากไม่ได้รองรับระบบ Fast Charging ทำให้กำลังที่รองรับอยู่ที 10W เท่านั้นอาจจะใช้เวลานานในการชาร์จเล็กน้อย
สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ทดลองใช้ Infinix Hot 8 มาสักระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากที่ได้สัมผัสเป็นระยะเวลา 3 อาทิตย์ ต้องบอกว่า โจทย์ของ Infinix Hot 8 เป็นมือถือที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะว่าคุณได้กล้องที่ถ่ายภาพจัดว่า ยอมรับได้, สเปกเครื่องที่เล่นเกมระดับกลางและเกมฮิตได้ดีระดับหนึ่ง แบตเตอรี่และจอใหญ่ กับระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย ในราคาจับต้องได้ และมีรุ่นให้เลือกได้แก่
- RAM 2GB / ความจำในตัว 32GB ราคา 2,990 บาท (CPU เป็นแบบ Quad Core)
- RAM 4GB / ความจำในตัว 64GB ราคา 3,990 บาท << เครื่องที่ได้มาทดลองใช้ในรอบนี้
คำถามก็มีอยู่ว่า คู่แข่งนั้นมีอะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นมือถือระดับ 4,000 ต้นๆ ขึ้นไปทั้งนั้น เช่น Galaxy A10s เป็นต้น และการหาซื้อไม่ยากเพราะตอนนี้สามารถสั่งผ่าน Lazada หรือตัวแทนจำหน่ายได้แล้ว เท่ากับมันเป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่อยากได้มือถือสเปกดี งบจำกัดครับ
อ้อปิดท้ายด้วยใครที่สงสัยว่ามือถือรุ่นนี้ประกันอย่างไร ภายในกล่องจะมีใบรับประกันและให้ Add Line ไว้เพื่อเรียก Service มาเคลมเครื่องและตรวจสอบปัญหาถึงบ้านคุณได้เลย เรียกได้ว่าสะดวกมาก และมีประกันหน้าจอให้ด้วย ถือว่าซื้อใจคุณได้เลยครับ
จุดเด่น
- จอใหญ่มาก
- สเปกเครื่องถือว่าใช้ได้
- รูปลักษณ์หน้าตาสวย
- กล้องหลังครบเครื่อง
- สีสันของเครื่องสวยงาม
ข้อสังเกต
- หาซื้อนอกจากออนไลน์อาจจะยากหน่อย
- ไม่มีระบบชาร์จไฟด่วนมาให้
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ