Microsoft ดันจริยธรรม AI, เสริมทักษะดิจิทัลให้เจ้าของธุรกิจ, ย้ำ Tech Intensity

Microsoft ดันจริยธรรม AI, เสริมทักษะดิจิทัลให้เจ้าของธุรกิจ, ย้ำ Tech Intensity

Microsoft ดันจริยธรรม AI, เสริมทักษะดิจิทัลให้เจ้าของธุรกิจ, ย้ำ Tech Intensity
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน Microsoft Thailand ได้เน้นเรื่องของการผลักดัน AI ให้เข้าถึงคนทุกคน ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นบริษัทต่าง ๆ สตาร์ตอัป หรือแม้กระทั่ง นักเรียน เพื่อเพิ่มโอกาสและไม่ต้องใช้ช่องทางการลงทุน หรือ เวลาจำนวนมหาศาลเหมือนเมื่อในอดีต นอกจากนั้น ยังได้ร่วมมือกับภาครัฐ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DE เพื่อพัฒนาหลักจริยธรรม AI อีกด้วย

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย

22 ตุลาคม 2562 – นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวถึงสาระสำคัญว่าด้วยภารกิจต่าง ๆ ของ Microsoft ในการผลักดัน AI หรือปัญญาประดิษฐ์ให้เข้าถึงทุก ๆ หน่วยงาน ได้แก่ การนำ AI มาใช้ในแก่นของธุรกิจ (AI in the core business), การเพิ่มความปลอดภัยด้านไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Cyber Security and Data Privacy) รวมถึงจริยธรรมทาง AI (AI Ethics) และ ทักษะด้านดิจิตอลสำหรับอนาคต (Digital skills for a digital future)

AI in the core business

การนำ AI มาใช้ในแก่นของธุรกิจต่าง ๆ เช่น การนำ AI มาคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้า หรือป้องกันการสูญเสียลูกค้า รวมถึงการดูและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ขององค์กร เช่น ค่าไฟ ค่าแอร์ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในทุก ๆ อุตสหกรรม รวมถึงการสร้างบริการใหม่ ๆ สร้างโมเดลธุรกิจ โดยข้อมูลที่เก็บสะสมไว้ ทางองค์กรสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อทำ cross sale หรือ up scale ได้ สร้างรายได้ สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าได้ ปัจจุบันหนึ่งในพันธมิตรของ Micorsoft ก็คือ STARBUCKS ซึ่งทางร้านได้นำระบบ AI ไปใส่ไว้ในเครื่องเพื่อทำการส่งสูตรใหม่ไปตามสาขาต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปแต่ละสาขาเพื่อแจ้งพนักงานเปลี่ยนสูตรกาแฟ ส่วนลูกค้าก็สามารถสแกนดูเมล็ดกาแฟได้เลยเช่นกันว่าเมล็ดกาแฟนั้นมาจากไหน ซึ่งถือเป็น IoT อย่างหนึ่ง

Cyber Security and Data Privacy

เรื่องของความปลอดภัยไซเบอร์เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ หากพิจารณาจากงบประมาณที่ต้องสูญเสียไปกับอาชญกรรมไซเบอร์ในแต่ละปีทั่วโลกก่อนถึงปี 2020 จะเป็นตัวเลขสูงถึง 8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้น ในปี 2020 ที่จะมีเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้น หรือจะเรียกว่าเป็นยุค IoT เราไม่ควรละเลยเรื่องของการป้องกันหรือมองข้ามความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เหมือนที่ซีอีโอของไมโครซอฟท์เคยกล่าวไว้ว่า “เรื่องของความปลอดภัยไซเบอร์ก็เหมือนไปยิมออกกำลังกาย เราจะแข็งแรงขึ้นไม่ได้ถ้ามัวแต่มองคนอื่นเขาเล่น คุณต้องไปที่นั่นทุกวันต่างหาก”

“Cybersecurity is like going to gym.

You can’t get better by watching others.

You’ve got to got to get there every day.”

-Stay Nadella CEO ของ Microsoft –

Microsoft Chief Executive Officer (CEO) Satya Nadella addresses the media during an event in New Delhi September 30, 2014. REUTERS/Adnan Abidi (INDIA – Tags: BUSINESS SCIENCE TECHNOLOGY)

เมื่อพูดถึงเรื่องของความเป็นส่วนตัวของข้อมูล นอกจากเรื่องความปลอดภัยและการป้องกันที่องค์กรต้องให้ความสำคัญแล้ว แต่ละองค์กรก็จำเป็นที่จะต้องรู้ว่าข้อมูลอยู่ที่ไหน มาจากไหน จะจัดการกับข้อมูลนั้นอย่างไร ใครที่ควรใช้ใครไม่ควรใช้ข้อมูลชุดต่าง ๆ เรื่องสุดท้ายที่ละไม่ได้ในประเด็นนี้คือเรื่องของหลักจริยธรรมของ AI แม้ว่า AI จะเป็นปัญญาประดิษฐ์ มีความฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ จากการป้อนข้อมูลของเรา แต่สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงก็คือการสร้างความยุติธรรมในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้องเม่นยำไม่เอนเอียง (Fairness)

Digital skills for a digital future

การส่งเสริมทักษะด้านดิจิตอลให้กับคนรุ่นใหม่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่ขณะเดียวกันการส่งเสริมทักษะด้านดิจิตอลในเจ้าของธุรกิจก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยปัจจุบันมีแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้องค์กรยุคใหม่ เช่น Microsoft Power Platform เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริม Digital Skill ให้เจ้าของธุรกิจแบบไม่ต้องพึ่งคนไอที เหมาะกับธุรกิจในทุก ๆ ขนาด

Microsoft Power Platform 

Power Platform เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถสร้าง Application ที่ตอบโจทย์องค์กรของตนได้ เป็นระบบอัตโนมัติ ช่วยให้งานราบรื่นขึ้น ช่วยวิเคราะหฺข้อมูลเพื่อค้นหาข้อสรุป โดยไม่ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคขั้นสูง หรือ Low code, No code ซึ่งในประกอบไปด้วย

Power BI ออกแบบมาสำหรับเจ้าของธุรกิจ ใช้หลักง่าย ๆ เพียงแค่ drag and drop เปิดให้ผู้บริหารและพนักงานเข้าถึงข้อมูลและวิเคราะห์ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน Power Apps สร้างแอปใหม่ได้ภายในเวลาสั้น ๆ มี template มาให้เลย เช่น การสร้างแอป Site Inspectoin, Budget Track, งาน HR, To-Do list เป็นต้น โดยสามารถเลือกได้ว่าจะสร้างแอปสำหรับใช้กับสมาร์ตโฟน หรือ แท็บแล๊ต ใช้ได้กับทั้ง  iOS และ Android ช่วยให้ดึงข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ได้อย่างเต็มที่ Microsoft Flow ใช้เพื่อเชื่อมโยงแอป และข้อมูล บริการต่าง ๆ เข้าหากัน โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Tech Intensity

ปีที่แล้ว Microsoft เสนอแนวคิด Tech Intensity หรือความแข็งแกร่งในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในงานภาคธุรกิจ ซึ่งมีองค์ประกอบหลัก ๆ 2 องค์ประกอบ คือ

Tech Adoption การนำเทคโนโลยีมาใช้ Tech Capability การสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง ต่อยอดจากที่มีใช้งานอยู่

โดยปีนี้ Microsoft ได้เพิ่มเรื่องของ ความไว้วางใจในเทคโนโลยี (Trust) มาเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ซึ่งปีนี้และปีหน้าจะมุ่งผลักดันในเกิด Tech Capability ในทุกระดับ ตั้งแต่การพัฒนาทักษะเชิงดิจิตอลสำหรับเยาวชน คนทำงาน, การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทาง รวมถึงยกระดับพนักงานและผู้บริหารให้สามารถลงมือสร้างแอปปลิเคชันและเครื่องมือต่าง ๆ ด้วยตัวเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook