[รีวิว] OPPO Reno2 F ตัวตายตัวแทนของ OPPO F-Series ยกระดับจอภาพสวยและกล้องดีขึ้น
กลับมาพบกับการรีวิวจากทีม Sanook Hitech กันอีกครั้ง รอบนี้พูดถึง OPPO กันหน่อยดีกว่าเพราะเป็นอีกมือถือที่เป็นขวัญใจมหาชน และตอนนี้พวกเขาก็พยายามดัน ชื่อรุ่นอย่าง Reno ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ล่าสุดพวกเขาตัดชื่อ F Series ทิ้งไปเหลือเพียงแต่ Reno2 F เท่านั้น ว่าแต่ว่า มันเป็นอย่างไร มาดูรีวิวกันเลยดีกว่า
เปิดกล่อง OPPO Reno2 F
สำหรับกล่องของ OPPO Reno2 F ยังคงออกแบบเหมือนกับรุ่นพี่เน้นความยาวแต่ข้างในประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง OPPO Reno2 F
- สายชาร์จไฟ
- ปลั๊กชาร์จไฟรองรับ VOOC 3.0
- หูฟัง
- คู่มือ
- เคสเครื่อง
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ OPPO Reno2 F
เริ่มต้นจากภาพรวมของหน้าจอ OPPO Reno2 F กันก่อนเพราะมันมีขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้วเลยทีเดียวและเป็นแบบ AMOLED สังเกตได้ว่ามีระบบสแกนนิ้วในหน้าจอด้วยทำให้สามารถใช้งานได้ค่อนข้างดีใช้ได้และNotch แทบจะไม่เห็น ได้พื้นที่เต็มๆ
ส่วนบนของหน้าจอมาพร้อมกับลำโพงสนทนา เซนเซอร์ต่างๆ วางไว้ส่วนบนโดยรอบและเรียกใช้งานได้ง่ายและเปิดกล้องจะเลื่อนขึ้นพร้อมกับไฟสีเขียวที่สวยงาม
ส่วนล่างของหน้าจอ มีปุ่มควบคุมที่สามารถเปลี่ยนได้ทั้งในรูปแบบดังต่อไปนี้
- ปุ่มกดธรรมดา
- ปุ่มกดและเลื่อนขึ้น 1 ครั้งเป็นการเรียก Apps เปิดก่อนหน้า (Recent Apps)
- ปัดอย่างเดียว
รอบตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงเป็นขอบพลาสติกแบบเดียวกับด้านหลังเครื่องประกอบไปด้วย ฝั่งซ้ายจะมีปุ่มปรับระดับเสียงมาให้
ฝั่งขวานอกจากปุ่มเปิด / ปิดตัวเครื่องแล้ว ยังมาพร้อมกับถาดใส่ซิมการ์ด ที่รองรับแบบ Nano SIM จำนวน 2 ช่องและใส่การ์ดความจำแบบ microSD ได้
บนสุดของเครื่องนอกจากเป็นที่เก็บกล้องแบบ Popup แล้วยังมาพร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ล่างสุดมาพร้อมกับช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟัง, ไมโครโฟนของตัวเครื่องและ ลำโพงตัวเครื่อแปะไว้ด้านล่าง
พลิกมาด้านหลังเครื่องจะพบ O-Ring ของ OPPO สีเขียวไว้ด้านบนสุดทำให้เครื่องนูนขึ้นและกล้องไม่ชิดกับพื้นเกินไป ถัดลงมาเป็นกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว และมี LED Flash ด้านขาวง นอกจากนี้ยังมีโลโก้ OPPO พร้อมกับคำว่า Design For Reno
ภาพรวมดีไซน์ / น้ำหนัก / สีสันที่จำหน่ายในเมืองไทย
การออกแบบตัวเครื่องเหมือนกับมือถือทั่วไปและยังมีกลิ่นอายของความเป็น OPPO F ที่กล้องหน้าไม่ได้เป็นแบบครีบฉลามเหมือน Reno ทั่วไป ทำให้ดูแปลกตา น้ำหนักถือว่าไม่ได้มากเกินไปกับหน้าจอขนาดนี้ แต่ตัวเครื่องเสี่ยงต่อการเป็นรอยง่ายแนะนำใส่เคสดีที่สุดครับ
สำหรับสีสันของ OPPO Reno2 F มีให้เลือก 2 สีคือ Sky White และ Lake Green ซึ่งเป็นสีที่ทีม Sanook! Hitech ได้รับมารีวิว
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์และประสิทธิภาพของ OPPO Reno2 F
สเปกของ OPPO Reno2 F
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 162.4 x 75.8 x 8.7 มม.
- น้ำหนัก: 195 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : -
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ 1080 x 2340 พิกเซล
- ชิปเซ็ต MediaTek Heilo P71 + Mali-G72 MP3
- การเชื่อมต่อ : 4G LTE (Nano SIM 2 Slot) WiFi 802.11 B/G/N/AC Dual Band, Bluetooth 4.2, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android Pie (Color OS 6)
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วในหน้าจอ
- กล้องหลัง 4 ตัว : 48 ล้านพิกเซล (f1.8,) + 8 ล้านพิกเซล (Ultra Wide) + 2 ล้านพิกเซล (Depth Sensor) + 2 ล้านพิกเซล (Black and White)
- กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี : 4,000 mAh + VOOC 3.0 (20W)
- แรม (RAM) : 8GB
- ความจำภายใน : 128GB
- ความจำภายนอก : MicroSD
- ช่องเสียบ : USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี : Sky White, Lake Green
การทดสอบประสิทธิภาพ / เล่นเกมด้วย OPPO Reno2 F
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพจาก Antutu ของ OPPO Reno2 F = 216,032 คะแนน
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพจาก Geekbench 5 ของ OPPO Reno2 F ที่ Single Core = 303 คะแนน, Multi Core = 1454 คะแนน
ส่วนการเล่นเกมใน OPPO Reno2 F เป็นมือถือที่ตอบสนองที่น่าใช้งานแต่อาจจะไม่ได้แรงมากเท่าไหร่ แต่ถ้ามองถึงราคา ก็ยังตอบโจทย์ในการใช้งานได้อย่างดี
การทดลองนำทาง และ ระบบการเชื่อมต่อไร้สาย
การเชื่อมต่อของ OPPO Reno2 F ยังรองรับทั้ง WiFI 802.11 AC, Bluetooth เวอร์ชั่น 4.2, รองรับ 4G LTE และเมื่อใช้นำทางถือว่าสอบผ่านเพราะบอกพิกัดได้แม่นยำ
การแสดงผลหน้าจอ และ ระบบเสียง
สำหรับหน้าจอความละเอียด 6.5 นิ้วความละเอียด 2340x1080 พิกเซลให้ความคมชุดและหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนระบบเสียงยังให้ลำโพงตัวเดียว แต่ว่ามีประสิทธิภาพได้ดีเหมือนกัน และมี FM Radio
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ / ระบบความปลอดภัย
OPPO Reno2 F มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 มาพร้อมกับ Color OS 6.1 ที่มาพร้อมกับความทันสมัย และมี Notification ที่มีปุ่มสำหรับความคุมของเครื่อง
ฟีเจอร์ต่างๆ มาพร้อมกับ Apps จาก Google และมีเครื่องมือครบทั้งเครื่องอัดเสียง, เครื่องคิดเลข และระบบสแกนตัวเครื่อง ที่ช่วยเรื่องของการทำความสะอาด รวมไปถึง การบันทึกหน้าจอทั้งแบบภาพนิ่งและวิดีโอ
ส่วนระบบความปลอดภัยมาพร้อมกับ สแกนนิ้วในหน้าจอที่ทำงานได้รวดเร็ว, ส่วนระบบสแกนใบหน้าที่เป็นแบบเลื่อน Popup ด้วย
เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย OPPO Reno2 F
สำหรับกล้องหลังของ OPPO Reno2 F มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวด้วยกันประกอบด้วย
- กล้องหลังตัวที่ 1 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (f1.8,)
- กล้องหลังตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (Ultra Wide)
- กล้องหลังตัวที่ 3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Depth Sensor)
- กล้องหลังตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Black and White)
เรียกได้ว่ากล้องหลังเยอะและทำให้ระบบทำงานได้อย่างฉลาด มาพร้อมกับ Auto Focus มาพร้อมกับ LED Flash ให้ด้วย
ฟีเจอร์ของกล้อง OPPO Reno2 F
สำหรับหน้าตาควบคุมเมนูกล้องของ OPPO Reno2 F มีจุดเด่นทั้งในเรื่องการควบคุมกล้องที่สามารถใช้งานง่ายและถ้าเป็นกล้องหน้าจะปรับ Beauty Mode ได้หลากหลายปรับได้แทบทุกส่วน และยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพกลางคืน, โหมดโปร, Panorama เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO Reno2 F
สำหรับภาพกลางวันของ OPPO Reno2 F ยังคงมาพร้อมกับสีสันและการเก็บรายละเอียดที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะรูรับแสงนั้นกว้างทำให้เก็บแสงได้ดีและสีสันสามารถเร่งสีเพิ่มได้
ภาพกลางคืนมีโหมด Night Scape ช่วยทำให้การถ่ายภาพกลางคืนทำได้ดีอย่างที่เห็น
การถ่ายภาพอื่นๆ ยังรองรับทั้ง AI Camera ปรับรูปแบบและโทนสีของภาพ พร้อมกับโหมดบุคคลในกล้องหลังช่วยละลายหลังคนและสิ่งของได้
การถ่ายวิดีโอด้วย OPPO Reno2 F ดีจริงไหม
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังของ OPPO Reno2 F รองรับความละเอียด 4k แบบ 30 FPS ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แต่ไม่มีระบบกันภาพสั่นไหวมาให้ และกล้องหน้ารองรับความละเอียดแบบ Full HD
กล้องหน้าของ OPPO Reno2 F ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ถึงแม้กล้องหน้าจะมีความละเอียดแค่ 16 ล้านพิกเซลในแบบ Popup แต่ก็ยังเก็บรายละเอียดไดัและมีโหมดถ่ายภาพและปรับแต่งใบหน้าได้เยอะมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเอาใจสาวๆ เลยก็ว่าได้
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
สำหรับแบตเตอรี่ของ OPPO Reno2 F ให้มาขนาด 4000 mAh เมื่อลองใช้งานจริงพบว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานและมาพร้อมกับระบบจัดการพลังงานอย่างดี เมื่อทดลองจากโปรแกรมสามารถอยู่ได้ 16 ชั่วโมง แต่เมื่อใช้งานจริงถ้าเล่นเกมนานๆ ก็จะหมดเร็วไปหน่อย
มาถึงเรื่องของระบบการชาร์จไฟรองรับการชาร์จไฟ VOOC Flash Charge 3.0 รองรับกำลัง 20W ให้กำลังที่สูงและชาร์จไฟได้เร็ว
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้ OPPO Reno2 F
จากที่ได้ทดลองใช้งานถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่ปรับโฉมและเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่คุณสมบัติยังคงได้เรื่องที่คุณประทับใจหลายจุด แต่สำหรับรุ่นนี้ยังคงเน้นเรื่องการถ่ายภาพนิ่งมากกว่าการถ่ายวิดีโอเพราะการเก็บอาการภาพสั่นไหว ยังไม่ดีเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถซื้อมือถือรุ่นนี้ที่มีการตกแต่งสวยงามในราคา 11,990 บาท ถือว่าไม่แพงเลยครับ และแทนรุ่นเดิมอย่าง OPPO F11 Pro ได้ดีเลยทีเดียว
สุดท้ายถ้าต้องการมือถือเน้นการถ่ายภาพกล้องหน้าและ สเปกไว้ใจได้ OPPO Reno2 F เป็นอีกรุ่นที่ต้องมองครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องออกแบบได้สวยเหมือนรุ่นแพง
- หน้าจอใหญ่คมชัด
- ฟีเจอร์ครบเครื่อง
- กล้องทั้ง 4 ถ่ายภาพได้สวยเกินคาด
- ระบบชาร์จไฟเร็วมาก
- ราคาสมเหตุสมผล
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องเสี่ยงเป็นรอยง่าย
- กล้องหน้าความละเอียดน้อยไปหน่อย
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ