[รีวิว] ASUS ROG Phone 2 มือถือเรือธง ที่ได้ทั้งความแรง และ กล้องดีในตัวเดียว
กลับมาพบกับรีวิวมือถือและ Gadget จากทีม Sanook Hitech กันอีกครั้ง ในวันนี้เอาใจคนชอบเล่นเกมสักหน่อยกับมือถือเพื่อคนเล่นเกม อย่าง ROG Phone 2 จาก ASUS ที่ว่าแรงนักแรงหนานั้นจะมีอะไรที่น่าสนใจ เรามาดูรีวิวกันดีกว่า
แกะกล่อง ASUS ROG Phone 2
เริ่มต้นของทุกสิ่งเราต้องมาแกะกล่องกันหน่อยว่ามือถือรุ่นนี้ให้อะไรบ้าง เริ่มจาก
- ตัวเครื่อง ASUS ROG Phone 2
- ที่ชาร์จกำลัง 30W
- สาย USB-C To USB-C
- คู่มือ
- เคส
- ชุด Foot Standing ไว้ตั้งเครื่อง
- พัดลมระหว่ายอากาศ Aero Active Cooling
จริงๆ จะมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น
- จอย Twin View Dock II หน้าจอ ตอบสนองได้เหมือนมือถือ และ แบตเตอรี่พร้อมพัดลมระบายอากาศ
- Kunai Gamepad จอยเสียบได้ทั้งแบบไร้สาย ผ่าน Bumper และเสียบตัวเครื่อง และเสียบต่อกับ AeroActive Cooling และ Kunai
- WiGig ต่อออกจอแยกหน้าจอได้ ตามมาตรฐาน WiFi 802.11 AD และ อุปกรณ์เสริมชิ้นนี้ประกัน 1 ปี
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ ASUS ROG Phone 2
เริ่มต้นกับด้านหน้าของตัวเครื่อง เนื่องจากว่าในรุ่นแรกการออกแบบเน้นเรื่องของขนาดที่พอประมาณ แต่ในรุ่นที่ 2 ก็เพิ่มขนาดให้เป็น 6.59 นิ้ว พร้อมกับขอบเครื่องยังคงมีอยู่ ที่มันมีเพราะความจำเป็น ดังนั้นถ้าถามว่าดีไซน์มันสวยไหม สวยครับ แต่อย่าเอามาวัดกับมือถือสมัยนี้นะ
ส่วนบนของด้านหน้าจะมีกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมกับลำโพงตัวเครื่องและสามารถเป็นลำโพงที่สามารถแสดงผลในการเล่นเกมได้ มีไฟแจ้งเตือนดวงเล็กๆ มาให้ ภายในหน้าจอเป็นการแจ้งเตือนอย่างเดียว
ส่วนล่างของหน้าจอจะมีปุ่มควบคุมในหน้าพร้อมกับลำโพงของตัวเครื่อง เท่ากับมือถือรุ่นนี้ได้ลำโพหง้นาแบบ Stereo ที่ดังพอสมควรเลยครับ
รอบตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมที่เน้นเรื่องการระบายอากาศ พร้อมกับการดีไซน์ที่สวยงามมาก ประกอบไปด้วย ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง และขอบสุดทั้ง 2 ฝั่งจะเป็น Air Tigger (จะอยู่ทางซ้ายและขวามือ เป็นตัวขีด) ที่สามารถไว้สั่งงานทำอะไรระหว่างการเล่นเกม ก็ได้
ฝั่งซ้ายจะมีมีอะไร ยกเว้นจุดที่ปิดช่องยางไว้ต่ออุปกรณ์เสริม และสามารถเสียบชาร์จไฟได้ด้วย
ส่วนบนมาพร้อมกับ ไมโครโฟนไว้ตัดเสียงรบกวน
ส่วนล่างมีช่องเสียบ USB-C และข่าวดีครับ ยังคงให้ช่องเสียบหูฟังมาให้อยู่ครับ เย้
พลิกมาด้านหลัง การออกจะเน้นความดุดันและเน้นเรื่องระบายอกาศเพราะมีช่องระบายอากาศที่ ASUS เรียกว่า ROG AeroDynamic System พร้อมกับ กล้องหลังคู่ และมี LED Flash 1 ดวง อีกช่องใกล้ๆ กันคือไฟ LED เรืองแสง และโลโก้ ROG ที่สมารถเปลี่ยนสีทั้งหมด หลากหลายสี
ภาพรวมของการออกแบบ / น้ำหนัก / สีสันที่จำหน่าย
ภาพรวมของ ASUS ROG Phone 2 ถือว่าขนาดของเครื่องสมดุล แอบไปทางใหญ่และหนักไปนิด แต่ก็ทำให้ภาพทั้งหมดมองได้คมชัด ผมว่ามันก็เพียงพอต่อการเล่นเกมและ การจัดวางอุปกรณ์สามารถต่อเชื่อมอุปกรณ์เสริมได้ แต่ิอย่างเดียวที่แนะนำคือ ทำไมต้องใส่เคสเพราะด้านหลังที่คุณเห็นมันเรียบไปหมด อาจจะทำให้เป็นรอยได้ง่ายนั่นเอง
สีสันของมือถือรุ่นนี้ไม่ต้องเดาสให้มากเรื่อง มันก็มีแต่สีเทาที่คุณเห็น แต่ถ้าอยากเปลี่ยนสี ซื้อเคสของ ROG หรือ กดสั่งที่โหมดภายในของเครื่องก็สามารถเปลี่ยนสีไฟได้แล้ว
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ ASUS ROG Phone 2
สเปกของ ASUS ROG Phone 2
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 171 x 77.6 x 9.5 มม.
- น้ำหนัก: 240 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 3120x1440 พิกเซล
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 855+ Octa-core 2.96GHz + Adreno 640
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC/AD, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Oxygen OS 9.5 พื้นฐาน Android 9.0
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ Optical ในหน้าจอ
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 2 ตัว : 48 ล้านพิกเซล (f1.8 Main) + 13 ล้านพิกเซล (f2.2, Ultra-Wide) กล้องหน้า: 24 ล้านพิกเซล (f2.0)
- แบตเตอรี : 6000 mAh + Rog Hyper Charge 30W
- แรม : 12GB
- ความจำภายใน : 512GB
- ความจำภายนอก : -
- สี : Glossy Black
การทดสอบประสิทธิภาพ / ลองเล่นเกมด้วย ROG Phone 2
คะแนนการทดสอบประสิทธิภาพด้วย AnTuTu ทำได้ที่ 500,263 คะแนน
คะแนนการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 ทำได้ที่ Single Core = 753 คะแนน / Multi Core = 1660 คะแนน
สำหรับคะแนนการทดสอบคะแนนภาพรวมถือว่าทำได้ดีมาก และแรงเร็วพอสมควร เมื่อเล่นเกมนานก็สามารถระบายอากาศได้ดี ในโหมดปกติ แต่ถ้ามีการเพิ่มประสิทธิภาพใน X Mode ก็จะทำให้เครื่องนั้นเลนเกมได้เร็วมากขึ้น แต่แนะนำว่าถ้าต้องการเล่นเกมนาน ควรใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อให้การระบายความร้อนที่ดีขึ้นนะครับ
การทดลองเชื่อมต่อ / ลองใช้ระบบนำทาง
การทดลองการเชื่อมต่อนั้น ASUS ROG Phone ทำได้หลากหลายมาก รองรับทั้ง WiFi ไปจนถึงมาตรฐาน AD ที่สามารถส่งภาพออกได้อย่างต่อเนื่อง, ฺBluetooth 5.0 และยังได้ GPS, A-GPS ในการนำทางได้แต่ผมว่าคนที่ใช้มือถือรุ่นนี้ไม่ได้เอามาใช้ด้านการบอกพิกัดเท่าไหร่หรอกครับ
การแสดงผล / ระบบเสียง
หน้าจอของ ASUS ROG Phone 2 จัดหนักจัดเต็มอย่างมากตั้งแต่ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล ถือว่า ละเอียด แต่ยังไม่พอ รองรับการตอบสนองแบบ 120Hz ทำให้ภาพเวลาที่เล่นเกมตอบสนองมาก และยังรองรับ Touch Sensitive มากถึง 240Hz ทำให้การทัชสกรีหน้าจอแบบทันทีทันใด และรองรับรองรับค่าสี DCI-P3, HDR10+ และ SDR ด้วย สามารถทำงานร่วมกับ Amdroid Frame Work ได้ด้วย
ส่วนระบบเสียงของลำโพง ASUS ROG Phone 2 บอกได้เลยว่ามันดังมาก รองรับทั้งระบบเสียง DTS Surround สามารถแยกเสียงออกเป็นแบบ 7.1 Channel เมื่อเสียบหูฟัง และยังได้ไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัวทำให้การเล่นเกมและ Steaming ไปก็สามารถทำได้แบบไร้อุปสรรค
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของ ASUS ROG Phone 2 เลือกใช้ Android Pie และสามารถเปลี่ยน Theme ได้ 2 แบบในแบบ ROG ที่เน้นความดุดันและแบบปกติที่มีความ Pure Google อย่างมาก ก็เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละคน
ความพิเศษของรุ่นนี้คือการติดตั้ง AirTigger ปุ่มลอยด้านบนที่นอกจากทำให้เล่นเกมสนุกมาก ยังตอบสนองได้ไวกว่าเดิม 20 ms. (ของเดิม 63 ms.) ด้านหลังเป็น Glass ทำให้ป้องกันรอยได้ดี
ในเรื่องของฟีเจอร์จัดหนักจัดเต็มอย่างมากเริ่มจากโหมดควบคุมการเล่นเกมหรือ Armoury Crate สามารถปรับได้ทั้ง CPU, GPU ระบบของไฟเรืองแสงเลือกค้างสีไว้เลยก็ได้, รวมถึงเลือกระดับการระบายความร้อนของ CPU ได้ และต่อกับอุปกรณ์เสริม Aero Active ได้ดีมากขึ้น
ยังไม่จบ หากคุณเข้าไปในเกม ก็สามารถปรับแต่งได้เพิ่มสามารถเลือกบันทึกหน้าจอ, Live ไปเล่นไปด้วยเพราะตำแหน่งกล้องไม่มีการบังมือในการเล่นได้ให้คุณเล่นไป Live ไปบรรยายไปได้ด้วย และไมโครโฟนรอบตัวถึง 4 ตำแหน่งทำให้คุณ Live ได้แบบไม่ติดขัด
นอกจากนี้ ASUS ROG Phone 2 ก็ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมแบบแน่นๆ Kunai Gamepad จอยเสียบได้ทะงแบบไร้สา ผ่าน Bumper และเสียบตัวเครื่อง และเสียบต่อกับ Kunai
ส่วน AeroActive Cooling เป็นส่วนแยกที่ระบายอากาศ ควบคุมผ่าน Apps ได้และยังต่อกับจอยได้ Kunai
และ WiGig ต่อออกจอแยกหน้าจอได้ ผ่านเทคโนโลยี WiFi 802.11 AD และ ประกัน 1 ปี
ส่วนระบบความปลอดภัยของเครื่องมาพร้อมกับการสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ ที่ทำงานได้รวดเร็ว และยังมาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้าได้ด้วย
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
ASUS ROG Phone 2 ให้กล้องหลังมาทั้งหมด 2 ตัวประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
- กล้อง Ultra Wide 13 ล้านพิกเซล
รองรับระบบโฟกัสแบบใหม่ PDAF และมี LED Flash มาให้ 1 ดวงถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่ให้กล้องสเปกดีใช้ได้
ฟีเจอร์ภายในส่วนควบคุมกล้อง
สำหรับส่วนควบคุมกล้องจัดเรียกเมนูเหมือนกับมือถือทั่วไปมีให้เลือกทั้งรูปแบบการถ่ายภาพ ปกติ, บุคคลมีการละลายหลัง, วิดีโอทั้งปกติและ Motion Tracking และอื่นๆ การปรับแต่ถือว่าทำได้ง่ายและมีโหมดโปร แต่เด็ดสุดคือมี Night Mode ที่มีประสิทธิภาพดี
ตัวอย่างหลังจากลองถ่ายภาพด้วย ASUS ROG Phone 2
ภาพแสงปกติ ยังคงเก็บรายละเอียดได้ดีแม้ว่าจะไม่ได้เน้นกล้องมากนักในเรื่องของสีสันทำได้ลงตัวอย่างมากเลยทีเดียว
ภาพกลางคืน / แสงน้อย ถือว่าเซอร์ไพรส์เพราะรายละเอียดของสีทั้งโหมดปกติและ Night Mode แทบแยกไม่ออกเลย มันทำได้ดี สังเกตแค่ Night Mode จะมีการเพิ่มความสว่างเข้าไปอีกนิดหน่อย จนทำให้รายละเอียดสมบูรณ์มากขึ้น
โหมดอื่นๆ ยังคงจัดเต็มทั้งละลายหลัง, และสามารถปรับเรื่องของรายละเอียดของฟิลเตอร์ เป็นต้น
การถ่ายวิดีโอด้วย ASUS ROG Phone 2
ความละเอียดของกล้องที่รองรับสูงสุดที่ 4K 60FPS นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการถ่ายวิดีโอได้มากทั้ง Time Lapse, Slow Motion 480 FPS ในแบบ HD และยังมีระบบลดการสั่นไหวที่ชมเชยว่า มันดีจริงนะ
กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ถ่ายออกมาเป้นอย่างไร
มาดูกล้องหน้าของ ASUS ROG Phone 2 ให้ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล มีให้ปรับแค่ 3 โหมดคือ Photo จะไม่สามารถปรับอะไรได้, Portrait สามารถละลายหลังได้ดี พร้อมกับปรับความสวยของหน้าได้ด้วย และวิดีโอรองรับความละเอียด Full HD
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ
แบตเตอรี่ภายในของ ASUS ROG Phone 2 ใหญ่มาก้อนใหญ่ถึง 6000 mAh และยังสามารถใช้งานได้นานถ้าปกติเล่นเกมน้อยหรือไม่เล่น 3 วันยังอยู่ได้ แต่ถ้าเล่นเกม ทีมได้ทดลองกับเกม Asphalt 9 Legend อยู่ได้ทั้งหมด 16 ชั่วโมง ก็เริ่มอ่อนกำลัง ส่วน PC Mark ทดสอบได้ราวๆ 17 ชั่วโมง ถือว่าอึดมาก
มาถึงเรื่องการชาร์จไฟของ ASUS ROG Phone 2 รองรับระบบการชาร์จไฟกำลังสูงสุด 30W รองรับมาตรฐาน Quick Charge 4.0 และยังสามารถจ่ายไฟออกให้อุปกรณ์อื่นได้อีก กำลัง 10W ถือว่าชาร์จไฟเร็วและยังใจดี และ ASUS เคลมว่าถ้าใช้ที่ชาร์จของรุ่นนี้สามารถชาร์จไฟและเล่นเกมไปได้ด้วย ซึ่งทีม Sanook! Hitech ไม่แนะนำให้ทำอย่างยิ่ง ถ้าติดเกมหนัก แนะนำว่าซื้อ Joy Twin View ช่วยเพิ่มแบตฯอีก 5000 mAh จะดีกว่านะครับ
สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ลองใช้ ASUS ROG Phone 2 มาสักระยะเวลาหนึ่ง
ยอมรับว่าเป็นอีกมือถือที่ประทับใจในหลายเรื่อง ทั้งการเล่นเกมดี ระบายความร้อนใช้ได้อุปกรณ์เสริมมาเต็มและยังได้ในเรื่องของประสิทธิภาพเครื่องที่เรียกว่าสมกับการเป็น Gaming Smart Phone แถมยังถ่ายภาพได้ดีอีก คงหาคำว่า Perfect กับมือถือรุ่นนี้ได้มากเลยทีเดียว
หลายคนอยากรู้ว่า ASUS ROG Phone 2 จะมีราคาเท่าไหร่ คำตอบมีดังนี้
- ตัวเครื่อง ASUS ROG Phone 2 + พัดลม Active Areo Cooling = 29,990 บาท
- ASUS Kunai Gamepad ราคา 3,440 บาท
- ASUS Twin View Dock ราคา 7,490 บาท
- ชุดอุปกรณ์เสริม ASUS Sultcase Accessory ที่ประกอบไปด้วย Twin View Dock, Kunai Gamepad, เคส Lighting Armor Case เรืองได้, ASUS WiGig Display, Mobile Dock Display และกระเป๋าคาดด้านข้างใส่มือถือ ราคาทั้งหมด 27,990 ลดเหลือ 25,190 บาท (ไม่รวมเครื่องนะครับ)
สำหรับมือถือรุ่นนี้เหมาะกับใคร ถ้าคุณต้องการมือถือประสิทธิภาพสูง, ชอบเล่นเกม หรือ Born To Be Gammer พร้อมแข่ง eSport ผมว่ามันคืออีกเครื่องที่น่าสนใจอย่างมากเลยครับ และถ้าใช้งานทั่วไปผมว่ามันก็ได้ แต่เครื่องมันใหญ่เกินความจำเป็นไปหน่อยเท่านั้นเอง ฉะนั้นแล้ว ROG Phone 2 มือถือเน้นประสิทธิภาพ เพื่อเล่นเกม มันทำได้มากกว่า ราคาแบบนี้คุ้มนะครับ เหลือแค่คุณพร้อมจะเป็นเจ้าของหรือไม่ ต้องแล้วแต่เงินของคุณเองครับ
ตัวเครื่องรุ่นนี้เปิดจอง 12 - 16 พฤศจิกายน ทาง Lazada, Shopee และ Ais Online และ เริ่มจำหน่าย 25 พฤศจิกายน นี้
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยและบางลง
- อุปกรณ์เสริมแน่นๆ
- สเปกเทพที่สุดเท่าที่เคยมีมาในมือถือเล่นเกม
- จอภาพให้คุณภาพคมและละเอียด
- มี Air Tigger มาให้ในตัว
- กล้องทำได้ดีเกินความคาดหมาย
- ลำโพงตัวเครื่องคู่เสียงดีทั้งเล่นเกม และ ใช้ฟังเพลง
- 7.1 Channel บนมือถือครั้งแรก
ข้อสังเกต
- ความร้อนเกิดขึ้นง่ายระหว่างเล่นเกม
- อุปกรณ์เสริมใช้ได้เฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น
- การหาซื้อยาก
อัลบั้มภาพ 21 ภาพ