ไขปริศนา! ทำไม YouTube Premium ราคาไม่เท่ากัน ทำไมบางเครื่องใช้ฟรีได้ 4 เดือน และคำตอบอีกเพียบ?

ไขปริศนา! ทำไม YouTube Premium ราคาไม่เท่ากัน ทำไมบางเครื่องใช้ฟรีได้ 4 เดือน และคำตอบอีกเพียบ?

ไขปริศนา! ทำไม YouTube Premium ราคาไม่เท่ากัน ทำไมบางเครื่องใช้ฟรีได้ 4 เดือน และคำตอบอีกเพียบ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ (6 พ.ย. 62) สำหรับ Youtube Premium บริการดูยูทูปแบบไม่มีโฆษณา พร้อมเนื้อหาพิเศษจาก Youtube Original และ  “YouTube Music” แอปพลิเคชันสตรีมมิงเพลงของ YouTube ที่ก่อนหน้านี้ได้มีเปิดตัวไปในประเทศต่าง ๆ กว่า 71 ประเทศทั่วโลก โดยแอปนี้จะช่วยให้คอเพลงค้นพบเพลงที่ชื่นชอบได้มากขึ้น รวมไปถึงค้นพบรายการโปรโมตใหม่ ๆ รู้ก่อนใครไม่ตกเทรนด์ภายใต้คอนเซป “YouTube is the place for music”

YouTube Music คืออะไร

YouTube Music เป็นบริการสตีมมิงเพลงที่มาพร้อมแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะ โดยแอปนี้จะรวบรวมเพลงและอัลบั้มอย่างเป็นทางการของหลากหลายศิลปิน รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอ เพลย์ลิสต์ เพลงรีมิกซ์ เพลงคัฟเวอร์และผลงานการแสดงสดที่อยู่บน YouTube ด้วย ซึ่งรายการทั้งหมดนี้จะถูกจัดระเบียบโดย AI ของ YouTube ตามพฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยลงลึกถึงช่วงเวลาที่เราทำกิจกรรมด้วย เช่น ช่วงบ่ายเพลย์ลิสต์หรือเพลงที่แนะนำจะเป็นเพลงสบาย ๆ ฟังเพลิน ๆ ระหว่างทำงาน แต่ช่วงเย็นเพลย์ลิสต์หรือเพลงที่แนะนำจะมีจังหวะที่เร้าใจมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เราไปออกกำลังกายในฟิตเนส เป็นต้น

ทำไม YouTube Music จึงแตกต่างจากบริการสตีมมิงเพลงอื่น ๆ

คุณกิตติเพชร ภิงคารวัฒน์ ผู้ดูแลพันธมิตรฝ่ายเพลงในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระบุว่า YouTube Music นั้นมีข้อแตกต่างจากแอปพลิเคชันสตรีมมิงเพลงอื่น ๆ ถึง 6 ข้อด้วยกัน ดังนี้

  1. มีทุกอย่างครบ จบในที่เดียว เพราะ YouTube Music มีทั้งเพลง อัลบั้ม มิวสิกวิดีโอ เพลย์ลิสต์ เพลงรีมิกซ์ เพลงคัฟเวอร์และผลงานการแสดงสด
  2. แนะนำเพลงที่เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งส่วนนี้ทำได้โดยใช้ AI เก็บรวบรวมพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ไว้ ทำให้แนะนำเพลงได้อย่างตรงใจของทุกช่วงเวลา
  3. เพลย์ลิสต์หลายพันรายการ ถ้าใครที่นึกไม่ออกว่าอยากเพลงอะไร YouTube Music ก็มีให้เลือกว่าพันเพลย์ลิสต์ไม่ว่าจะเป็น ไทยพอปฮอตฮิต, ไทยร็อกฮอตฮิต หรือลูกทุ่งฮอตฮิต เป็นต้น
  4. การค้นหาเพลงแบบอัจฉริยะ หากคุณไม่รู้ว่าเพลงนี้ชื่อเพลงอะไร จำได้แค่เนื้อร้องบางท่อน ก็สามารถใช้เนื้อร้องท่อนนั้นค้นหาเพลงได้เลย ซึ่งจุดนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบของ YouTube Music ที่เป็นบริษัทลูกของ Google นั่นเอง
  5. วิดีโอยอดฮิต เพราะว่ามีมิวสิกวิดีโอเปิดตัวใหม่ ๆ อยู่ทุกวัน หากคุณไม่อยากพลาดหรือกลัวคุยกับใครไม่รู้เรื่องฟีเจอร์นี้ก็ช่วยได้มากทีเดียว
  6. การสลับไปมาระหว่างวิดีโอและเพลง เรียกว่าเป็นไม้เด็ดของ YouTube Music ที่เรียกเสียงฮืฮฮาได้กลางงานแถลงข่าวเลยทีเดียว จากการที่เปิดเพลงอยู่ดี ๆ ก็สามารถสลับไปยังมิวสิกวิดีโอได้ทันที แถมเพลงยังเล่นต่อเนื่องไม่มีสะดุด!

กิตติเพชร ภิงคารวัฒน์ ผู้ดูแลพันธมิตรฝ่ายเพลงในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

YouTube Premium คืออะไร

อีกสิ่งหนึ่งที่เปิดตัวกันในวันนี้คือ YouTube Premium ไม่ใช่ของใหม่เอี่ยมแต่อย่างใด แต่มันคือแอปพลิเคชัน YouTube ที่เราคุ้นเคยกันดีแค่ไม่มีโฆษณาแล้ว! เริ่มต้นจ่ายเพียง 159 บาทต่อเดือน ก็บอกลาเจ้าปุ่ม Skip ไปได้เลย ถ้าหากเราซื้อ YouTube Premium ไปแล้ว ก็สามารถใช้บริการของ YouTube Music ได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องซื้อเพิ่มเติม

แพ็กเกจของ YouTube Music และ YouTube Premium

ราคาแพ็กเกจของ YouTube Music และ YouTube Premium มีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน ตามตารางด้านล่างนี้เลย

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนน่าจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแพ็กเกจของ YouTube Music และ YouTube Premium ซึ่งเราจะขอตอบไล่เรียงเป็นข้อตามนี้เลย!

YouTube Music และ YouTube Premium ใช้บนคอมพิวเตอร์ได้ไหม

  • ทั้งคู่สามารถใช้ได้ทั้งสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์เลยค่ะ
  • สามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง Play Store และ App Store (ซึ่งอย่างหลังนี้อุปกรณ์ของ Apple จะสามารถดาวน์โหลดได้จากทุกเครื่องภายใน 24 ชั่วโมงหลังเปิดตัวค่ะ ใครยังโหลดไม่ได้ ใจเย็น ๆ ไว้ก่อนนะ)

แพ็กเกจ Family Plan ใช้ได้กี่คน

  • แพ็กเกจนี้ใช้ได้ 1+5 ผู้ใช้ (เจ้าของ 1 คน และแชร์ให้คนอื่น ๆ ได้อีก 5 คน)
  • ผู้ใช้แต่ละคนไม่จำเป็นต้องใช้อีเมลเดียวกัน

แพ็กเกจ Student Plan ใช้ได้เมื่อไร

  • สำหรับประเทศไทยยังไม่มีกำหนดที่แน่ชัด แต่ทีมงานของ YouTube ประเทศไทยแจ้งว่าจะมาเร็ว ๆ นี้แน่นอน

ระยะเวลาทดลองใช้ฟรี ทำไมไม่เท่ากัน?

  • สำหรับใครที่สมัครใช้งาน YouTube Music และ YouTube Premium ในช่วงนี้จะได้ทดลองใช้ฟรี 1 เดือน
  • พิเศษสำหรับผู้ใช้สมาร์ตโฟนของ Samsung จะได้รับระยะเวลาทดลองใช้ฟรีที่นานขึ้นเป็น 2 และ 4 เดือน โดยแยกตามรุ่นของสมาร์ตโฟน ซึ่งเท่าที่เราทราบมาตอนนี้คือ
    • รุ่นที่ได้ทดลองใช้ฟรี 4 เดือนคือ Samsung Galaxy S10, S10+, Note 10, Note 10+, Galaxy Tab S6, Galaxy Tab S5e
    • รุ่นที่ได้ทดลองใช้ฟรี 2 เดือนคือ Samsung Galaxy S9, S9+, A80, A70, A50, A30, A20, A10, A10s, A20s, A30s
    • สิทธิ์นี้จะได้ถึงสิ้นเดือนก.พ. 2020

หากสมัครไปแล้วอยากย้ายเครื่องข้ามระบบปฏิบัติการจะมีผลกระทบอะไรไหม

  • สำหรับใครที่สมัครใช้งาน YouTube Music และ YouTube Premium ไปแล้ว เกิดอยากจะย้ายเครื่องขึ้นมา ไม่ว่าจะจาก Android ไป iOS หรือ iOS ไป Android ก็สามารถทำได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เนื่องจาก YouTube Music และ YouTube Premium จะผูกอยู่กับอีเมล ไม่ใช่ตัวเครื่องสมาร์ตโฟน

คุณภาพเสียงของ Youtube Music เป็นอย่างไร

ในแอป Youtube Music นั้นมีคุณภาพเสียงให้เลือก 3 ระดับ ซึ่งมีรายละเอียดต่างกันดังนี้

  • Low – รูปแบบเสียง HE-AAC ที่ Bit Rate 48 kbps
  • Normal – รูปแบบเสียง AAC ที่ Bit Rate 128 kbps
  • High – รูปแบบเสียง AAC ที่ Bit Rate 256 kbps

ข้อสงสัยของหลาย ๆ คน คงได้รับคำตอบกันไปแล้วไม่มากก็น้อย แต่คำถามสำคัญคือจะซื้ออะไรดีระหว่าง YouTube Music และ YouTube Premium ซึ่งผู้เขียนเองคงต้องตอบว่า ซื้อ YouTube Premium จะคุ้มค่ามากกว่า เพราะดูวิดีโอก็ได้ ฟังเพลงก็ดี แบบไม่มีโฆษณาคั่น บอกลาปุ่ม Skip ไปตลอดกาล แต่ท้ายที่สุดแล้วก็อยู่ที่งบประมาณและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วยนะคะ ว่าชอบฟังหรือชอบดูมากกว่ากัน ยังไงช่วงนี้มีทดลองใช้ฟรี 1 เดือนอยู่ ก็ลองไปโหลดมาเล่นกันก่อนได้ค่ะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook