[รีวิว] Huawei Mate 30 Pro สุดยอดมือถือเน้นการถ่ายภาพเต็มพิกัด ขาดเรื่องเดียว จะจบทุกอย่าง
กลับมาพบกับรีวิวมือถือและ Gadget จาก ทีม Sanook Hitech กันอีกครั้งแล้วในวันนี้ กับมือถือเรือธงปลายปีที่พูดเลยว่ามันจัดว่าน่าจับตามอง และประเด็นของค่ายนี้ที่ เป็นครั้งแรกกับบริการที่หายไป ขอแนะนำ Huawei Mate 30 Pro ครับ มารับชมกันเลย
เปิดกล่อง Huawei Mate 30 Pro (เวอร์ชั่นจำหน่ายจริง)
- ตัวเครื่อง Huawei Mate 30 Pro
- Hard Case แข็งมาก
- สายชาร์จ USB-C รองรับ Super Charge
- ปลั๊กสำหรับชาร์จไฟแบบ Super Charge
- คู่มือ
- ใบรับประกัน
- หูฟัง
รูปลักษณ์หน้าตาของ Huawei Mate 30 Pro
ขอเริ่มจากหน้าจอของมือถือรุ่นนี้จะมีขนาด 6.53 นิ้ว แต่ว่ายังมี Notch ส่วนบนความคมชัดสูงความละเอียด 2400x1176 พิกเซล ถ้ามองจากตรงนี้จะไม่เห็นของหน้าจอเลย เพราะขอบนั้นโค้งลงไปนั่นเอง รองรับมัลติทัชได้แน่นอน ส่วนล่าสุดมีปุ่มควบคุม และสามารถสั่งปิดเพื่อใช้ในการปัดเท่านั้น
ส่วนบนของหน้าจออย่างที่ทราบกันดีกว่า Huawei ติดตั้งเซนเซอร์ไว้มากมายตั้งแต่ เซนเซอร์จับความลึกตื้นของหน้า, เซนเซอร์จับใบหน้า กล้องหน้า, อินฟราเรด เป็นต้น ส่วน Ear peach ไม่มีแล้วเพราะฝั่งกับหน้าจอไปเลย
ส่วนหน้าจอด้านล่างปรับปรุงใหม่ขอบบางลงและมีปุ่มควบคุมระบบหน้าจออยู่ข้างในหน้าจอ พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอแบบ Optical ส่วนการควบคุมสามารถเลือกได้ ว่าจะเป็นแบบ สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > System (ระบบ) > Navigation (การควบคุมทิศทางของระบบ) ซึ่งเปลี่ยนได้ทั้งหมดดังนี้
- ท่าทาง (Gesture) จะใช้การปัดซ้ายมาขวาคือการย้อนกลับ, ปัดขึ้นแล้วปล่อย เท่ากับ กลับหน้าหลัก และปัดขึ้นค้างไว้จะเป็นหน้าเลือก Apps ทำงานล่าสุด หรือ Recent Apps สุดท้ายปัดซ้ายหรือขวาเพื่อเข้าสู่ Google Search
- ปุ่มกดธรรมดา (Three-Key Navigation) สามารถเลือก Back, Home และ Recent Apps สามารถเปลี่ยนแปลงได้
- แถมยังสามารถเปิดปุ่มลอยเพื่อควบคุมเหมือนกับของ iPhone ก็ได้
รอบตัวเครื่องจะออกแบบให้สวยงามด้วยการตกแต่งด้วยโลหะแต่ขอบเครื่องด้านข้างจะมีหน้าจอลงมาเยอะมาก โดย Huawei เรียกว่า Horizon Display จะงุ้มลงกว่า 88 องศา เลยทีเดียว ทำให้ฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มกดใดๆ แต่จะมีเส้นทั้งฝั่งซ้ายและขวาด มันคือเซนเซอร์สำหรับการแตกเพื่อให้ปรับระดับเสียงของเครื่องนั่นเอง
ฝั่งขวาก็จะมีปุ่มเดียวคือ Power หรือ ปุ่มเปิด / ปิดตัวเครื่อง และสีสันแตกต่างกับตัวอื่นนั่นคือสีแดงนั่นเอง
ส่วนบนสุดของเครื่องจะมีไมโครโฟน พร้อมกับ อินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า
ส่วนล่างจะมีพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Dual Nano SIM แต่เพิ่มความจำแบบ Nano Memory พร้อมกับไมโครโฟน, USB-C สำหรับชาร์จไฟ และ ลำโพงตัวเครื่อง
ส่วนหลังของเครื่องมาพร้อมกับการออกแบบกล้องเป็นทรงกลมพร้อมกับเลนส์ภายในทั้งหมด 4 เลนส์ และมี LED Flash ไว้ด้านบนคู่เหมือนกับกล้องและมีเซนเซอร์อินฟราเรดวัดเรื่องโฟกัส และยังมีโลโก้ Huawe ส่วนหลังเป็นกระจกสวยงามและสีสันดูดีไม่น้อย
ภาพรวม / น้ำหนักเครื่อง / สีสันที่จำหน่ายในเมืองไทย
หลังจากได้สัมผัสมาถือว่าเป็นอีกมือถือที่จับได้มั่นใจแต่ก็แอบหวั่นใจในเรื่องของความลื่นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งเคสที่ติดกล่องผมว่ายังไม่ได้ช่วยอะไรมาก แนะนำหาเคสซิลิโคนก็จะดีกว่า โดยเฉพาะคนที่เหงื่อที่มือเยอะ แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นกลุ่มนั้น มันจะเป็นมือถือที่สวยและดูดีเลย น้ำหนักถือว่าเบากว่า iPhone 11 Pro แต่ยังมากกว่า Note 10+ นิดหน่อย
สีสันในประเทศจำหน่ายมีแค่ Space Sliver เป็นสีเงิน ออกสีม่วง และ สีดำ เท่านั้น
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ Huawei Mate 30 Pro
สเปค HUAWEI Mate 30 Pro
- ขนาด: 158.1 x 73.1 x 8.8 มิลลิเมตร
- หนัก: 198 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : AMOLED แบบ Huawei Horizon Display ความละเอียด FHD+ 18.5:9 (1176 x 2400 พิเซล) ขนาดประมาณ 6.53นิ้ว
- ชิปเซ็ต : HiSilicon Kirin 990
- RAM : 8 GB
- ROM : 256 GB
- ความจำเสริม : Nano Memory ขนาด 256GB
- ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 (ไม่มี Google Apps)
- WiFi 802.11 AX
- Bluetooth 5.0
- กล้องหลัง 4 ตัว: เป็น Leica
>>>>กล้องตัวแรกเป็นเลนส์ SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, F/1.6(OIS)
>>>>กล้องตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล,F/1.8
>>>>กล้องตัวที่สามเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, F/2.4 (3x optical zoom)
>>>>สุดท้ายเป็นกล้อง 3D Depth Sensing - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล + เลนส์ ultra-wide + เซนเซอร์ ToF
- รองรับ: Face ID
- รองรับ: สแกนนิ้วบนหน้าจอ( fingerprint )
- 3D Face Unlock รองรับระบบปลดล็อคด้วยใบหน้าแบบ 3 มิติ
- รองรับ : nano SIM Dual SIM
- Bluetooth: 5.0
- มาตรฐานระดับการกันน้ำ IP68
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4500 mAh รองรับ Super Charge 40W และ Fast wirelessCharge 27W
- สี: Black, Space Silver
การทดสอบประสิทธิภาพ
สำหรับคะแนนของ AnTuTu ในโหมดของ High Performance Mode ทำได้ที่ 456,225 คะแนน
ส่วน Geekbench 5 ทำได้ที่ Single Core = 754 คะแนน, Multi Core = 2,870 คะแนน
จากประสบการณ์เล่นเกมด้วย Huawei Mate 30 Pro จัดว่าเป็นอีกรุ่นที่ลื่นไหลมากและสเปกเครื่องถือว่าดีมาก ในเรื่องการให้สเปกและรายละเอียดต่างๆ ถือว่าลงตัวดีเหมือนกัน นอกจากนี้ Huawei Mate 30 Pro ยังสามารถตั้งค่าส่วนบนเครื่อง หรือ Air Tigger (กดใช้งานได้ทั้งด้านบน)
การทดลองเชื่อมต่อ / ระบบนำทาง
สำหรับการเชื่อมต่อของ Huawei Mate 30 Pro รองรับการเชื่อมต่อครบทั้ง 4G LTE (ใครถามถึง 5G นั้นประเทศไทยยังไม่ประกาศใช้งานทำให้มือถือที่เป็น 5G ที่เข้าจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ยังไม่มา), WiFi 802.11 AX (WiFi 6), Bluetooth 5.0 ส่วนการนำทางถือว่าทำได้ดี
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
สำหรับหน้าจอของ Huawei Mate 30 Pro มีขนาด 6.53 นิ้วแบบโค้งและความละเอียดเพียง 2400x1176 พิกเซล แต่ยังให้สีสันดี มาพร้อมกับการเปลี่ยนโหมดการแสดงผลได้เต็มที่ทั้งเรื่องของความสว่างของหน้าจอ, รูปแบบของสีสัน และ Dark Mode เป็นต้น
ถึงแม้ระบบเสียงเวลาเสียบหูฟังหรือ หูฟังจะให้คุณภาพที่ดีมากก็จริง แต่ว่าลำโพงตัวเครื่องเป็นแบบตัวเดียว
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบปฏิบัติการของ Huawei Mate 30 Pro ยังคงเลือกใช้ Android 10 รุ่นล่าสุด ครอบด้วย EMUI 10 แต่ว่ามันไม่มีบริการของ Google Mobile Service หรือ GMS มาให้เท่านั้นเอง แต่ยังคมี Huawei Mobile Service หรือ HMS มาให้แทน (ปกติจะมีทั้งคู่) ซึ่งเมื่อใช้งานไปแล้วอาจจะต้องหาโปรแกรมแทนเยอะ แต่ว่า ใน Line ยังไม่มีให้โหลด Apps Gallery แต่คาดว่าเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม Huawei ไม่ได้ปิดกั้นวิธีการลง Google Mobile Service สามารถหาวิธีลงได้เช่นกัน ซึ่งทีม Sanook Hitech ได้ลงและแสดงรายละเอียดไปอย่างที่เห็น
ฟีเจอร์โดดเด่นของ EMUI 10 รุ่นล่าสุดมีความน่าสนใจอย่างมาก ประกอบไปด้วย
- Dark Mode สามารถปรับให้ Apps อื่นดำได้และดำจริงจังเพราะปิดแสงสีขาวไปเลย
- การจัดหน้า Apps ให้เหมือนกับ Magazine
- Always On Display ที่สามารถแสดงผลค่อยๆ สว่างตามเวลา
- สีสันของ UI เปลี่ยนใหม่
- Fluid Animation ปัดแล้วหมุดกลับที่คุณตั้ง
- หน้าจอรองรับปากกา M Pen ที่ติดกับ Mate 20 X ได้เช่นเคย
ส่วนตัวเครื่อง Huawei Mate 30 Pro ติดเซนเซอร์ไว้เยอะมากได้แก่
- Gesture Control ปัดหน้าจอก็สามารถเลื่อนขึ้นลงได้
- แตะข้างเครื่องส่วนบนจะเป็นการปรับระดับเสียง
- ฟีเจอร์หมุนหน้าจอตามการมองของคุณ
- ฟีเจอร์ปิดการแจ้งเตือนหากมีคนแอบส่อง
- การเคาะหน้าจอในการสั่งงานฟังก์ชั่น เช่นถ้าเอาสันนิ้ว เคาะหน้าจอจะทำให้หน้าจอ Capture ได้
ระบบความปลอดภัยยังมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และ ระบบสแกนใบหน้าแบบ 3D เหมือนเดิม
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
กล้องหลังของ Huawei Mate 30 Pro มีการเรียกใหม่ว่าเป็น Super Sensing Cine Camera ประกอบด้วยกล้องหลัง 4 ตัว เซนเซอร์ 2 ตัวภายใน ประกอบไปด้วย
- กล้องตัวแรกเป็นเลนส์ SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, F/1.6(OIS)
- กล้องตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล,F/1.8
- กล้องตัวที่สามเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, F/2.4 (3x optical zoom)
- 3D Depth Sensing
ทั้งหมดมาพร้อมกับเซนเซอร์และ LED Flash คู่ด้วยเช่นเดียวกับการทำงานของกล้องถือว่าทำงานร่วมกันดี ทำการซูมสามารถทำได้แบบ Optical Zoom 3 เท่า Hybrid Zoom 5 เท่า และ Digital Zoom 10 เท่า แต่สามารถรวมพลังการซูมได้สูงสุด 30 เท่า
ส่วนควบคุมการถ่ายภาพ
เมนูการควบคุมการยังคงคล้ายกับ Huawei ทั่วไป จุดเด่นยังคงควบคุมง่าย มาพร้อมกับรูปแบบโหมดมากมายทั้ง Aperture (รูรับแสง สำหรับการถ่ายภาพลพลายหลังปกติ), การละลายหลัง, การถ่ายภาพปกติ, วิดีโอที่สามารถปรับเรื่องของ Beauty และ โหมดอื่นๆ เช่นการถ่ายภาพขาวดำ, ฟิลเตอร์ , โหมดโปร ที่รองรับ Video และรองรับ Dual View เป็นต้น แถมยังที AI Scene ปรับการแต่งภาพได้อีก
อีกข้อสังเกตคือขอบเครื่องจะมีปุ่มชัตเตอร์เล็กๆ สามารถเลื่อนเพื่อปรับตำแหน่งการกดถ่ายภาพได้สะดวกมากขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei Mate 30 Pro
สำหรับภาพชุดแรกเป็นโหมดปกติ ให้สีสันเหมือนกับ Huawei ทั่วไป ถ้าใครอยากได้ภาพสีสดแนะนำให้ลองเปิดฟิลเตอร์ vivid ก็จะช่วยเพิ่มสีสันได้มากพอสมควร
การถ่ายภาพกลางคืน โหมดปกติสีสันอาจจะยังจืด แต่ยังเก็บรายละเอียดได้ ถ้าต้องการสีเช่นเดียวกันครับ เปิดฟิลเตอร์ vivid ก็ช่วยได้ ส่วนรายละเอียดในการซูมถ้ามากกว่า 5 เท่าอาจจะแตกได้ครับ
โหมดการถ่ายภาพอื่นมีทั้ง AI Scene และมีรูปแบบอื่นๆ อีกมากมายทำให้มือถือรุ่นนี้สร้างสรรค์ผลงานได้ดีอย่างมากเลยทีเดียว
การถ่ายวิดีโอด้วย Huawei Mate 30 Pro
สำหรับกล้องของ Huawei Mate 30 Pro ยังคงให้กล้องหลังที่รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS แต่ว่าความพิเศษของรุ่นนี้คือการปรับแต่งจากโหมดโปร เพิ่มการรับแสงจากการตั้ง ISO ได้สูงทำให้ภาพออกมาจะคมชัด และนอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายทั้ง Timelapse, Ultra Slowmotion ในแบบ 7,680 FPS และมีระบบกันสั่นที่ดี แถมยังเชื่อมต่อกับ OSMO Mobile 3 ได้อย่างดี
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลของ Huawei Mate 30 Pro เป็นอย่างไร
กล้องหน้าของ Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมกับความละเอียด 32 ล้านพิกเซล แต่ลูกเล่นเนื่องจากมีการเซนเซอร์วัดชัดลึก ทำให้การเก็บรายละเอียดของกล้องหลังทำได้ดีมากเลยครับ และวิดีโอรองรับในแบบ Full HD เหมือนเดิม
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
แบตเตอรี่ของ Huawei Mate 30 Pro อัปเกรดจากเดิม เพิ่มเป็น 4500 mAh ถือว่าความจุเยอะมากเลยและเทียบเท่ากับคู่แข่ง แต่เมื่อใช้งานทั่วไปถ้าใช้หนักก็สามารถอยู่ได้หนึ่งวันพอดี แต่ถ้าทดสอบจาก PC Mark สามารถอยู่ได้ 17:39 ชั่วโมง
สำหรับระบบการชาร์จไฟของ Huawei Mate 30 Pro รองรับกำลังไฟจาก Adapter ติดกล่องกำลังสูงสุดถึง 40W รองรับ Wireless Charge 27W และจ่ายไฟกับอุปกรณ์อื่น (Wireless Reverse Charging) เคลมว่าเร็วขึ้น 2 เท่าจากของเดิม
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้งาน Huawei Mate 30 Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง
เป็นอีกความประทับใจอีกครั้งหนึ่งว่า Huawei Mate 30 Pro ก็เป็นมือถือที่อัดนวัตกรรมมาเยอะ แม้ว่าอาจจะมีเรื่องของ Google เข้ามา แต่ถ้าคุณมองข้ามเรื่องนี้ นี่เป็นอีกมือถือที่ยังคงต้องบอกว่า กล้องดีจริง รายละเอียดต่างๆ ถือว่าให้มาครบถ้วนเลยทีเดียว อาจจะไม่ชอบที่จอโค้งมากเกินไปหน่อยครับ
ส่วนราคาของ Huawei Mate 30 Pro รุ่นที่จำหน่ายในประเทศคือ RAM 8GB / ความจำภายใน 256GB อยู่ที่ 28,990 บาท ฟังดูถูกกว่าคู่แข่ง ถ้าใครซื้อมาแล้วเชื่อว่าหลายคนก็ลง Google Mobile Service กันหมด เชื่อมผมเถอะ และนี่ก็เป็นอีกมือถือที่ผมยกให้ว่ามีกล้องที่สุดยอดแล้ว และน่าใช้ เหลือแค่คุณพร้อมจะกินอยู่ร่วมชายคาข้างกายกับมันหรือเปล่า
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพดีมาก
- กล้องตอบโจทย์ทั้งการถ่ายภาพและวิดีโอ
- จอภาพสวย
- ตัวเครื่องออกแบบได้หนากำลังดี
- ชาร์จไฟไร้สายเร็วมาก
- ราคาไม่แรงเท่าไหร่
ข้อสังเกต
- จอโค้งมาก ติดกระจกกันรอยแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
- ไม่มี Google Mobile Service
- ความน่าเป็นห่วงเรื่อง Patch Update ในอนาคตยังคงมีอยู่ต่อไป
- Nano Memory หาซื้อยากมาก
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ