รีวิว Honor Band 5 สมาร์ตแบนด์ราคาประหยัด รองรับภาษาไทย จอจัดแจ่มแบบ AMOLED
Honor ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์ที่ผลิตสมาร์ตโฟนออกมาในราคาจับต้องได้พร้อมด้วยสเปกและฟีเจอร์ที่เหมาะสมกันเท่านั้น หากแต่ในโปรดักส์ประเภทอื่น ก็ยังคงใช้คอนเซ็ปต์เดียวกัน ซึ่งสมาร์ตแบน อุปกรณ์สวมใส่ข้อมือที่ตอบโจทย์คนรักการออกกำลังกายของพวกเขาอย่าง Honor Band 5 ก็ได้ออกวางจำหน่ายออกมาเป็นที่เรียบร้อย แต่จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง แบไต๋จะมารีวิวให้ทุกคนได้ทราบเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจซื้อเองครับ
สิ่งแรกที่น่าประทับใจใน Honor Band 5 คือเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องที่เบาเป็นมิตรข้อมือเอามาก ๆ ซึ่งก็เป็นผลพวงมาจากวัสดุตัวเครื่องที่ใช้ในการทำนั่นคือพลาสติกส่วนตัวสายเป็นเรซิน ซึ่งถ้านำไปใช้ในการจับค่าสถานต่าง ๆ ระหว่างที่ออกกำลังกายจะให้ความรู้สึกเบาเหมือนไม่ได้ใส่ที่ผู้เขียนมองว่าเป็นข้อดี เพราะมันจะทำให้เราออกท่าออกทางต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องรู้สึกมีอะไรแปลก ๆ หรือหนักข้อมือ แต่ทั้งนี้บางคนก็อาจจะมองว่ามันเบาไป กลัวที่เวลาข้อมือเบา ๆ ไม่รู้สึกอะไรเพราะมันหลุดไปหรือเปล่า? อยากจะบอกว่าข้อนี้ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรครับ เพราะตัวเรือนมีข้อล็อกให้หลายระดับ ก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่ามันจะไม่ปลิวไปไหน (เว้นเสียแต่มือคุณจะเล็กเอามาก ๆ อันนี้ก็คงต้องหาสายมาเปลี่ยน)
เป็นอีกข้อที่รู้สึกว้าวดี สำหรับอุปกรณ์ราคาพันต้น ๆ (1,100 บาท) ที่หน้าจอทัชสกรีน แถมยังเป็น AMOLED ซึ่งก็แน่นอนว่าจะแสดงผลของหน้าจอแบบสีสันจัดจ้าน โดยมีขนาดหน้าจอ 0.95 นิ้ว ความละเอียด 240 x 120 พิกเซล ที่เอาเข้าจริง ๆ ก็มากพอแล้วสำหรับการดูค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับการออกำลังกาย แถมเรายังสามารถเปลี่ยนหน้าของแสดงผลเข็มนาฬิกาได้ (Watch Face) ประมาณหนึ่ง
และแน่นอนว่าเมื่อเป็นสมาร์ตแบน ตัวเครื่องก็มีเซนเซอร์วัดชีพจรของเราที่ใต้เครื่อง ซึ่งก็สามารถวัดค่าต่าง ๆ ได้หลากหลาย อาทิ จำนวนครั้งการเดิน, อัตราการเต้นของหัวใจ, Sp02 (ค่าประมาณความอิ่มตัวของออกซิเจนในหลอดเลือดแดง) ที่ก็วัดได้ด้วยการรัดสายตัวเรือนให้แน่นแล้วทำการกดเช็คผ่านตัวเครื่อง และการบันทึกสถานะการนอนหลับ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล เราสามารถตามไปเช็คได้อีกทีผ่านแอปมือถือ Huawei Health โดยภาพรวมของการตรวจับค่าสถานะต่าง ๆ ก็ออกมาในเกณฑ์ที่ถูกต้องประมาณหนึ่ง อาจจะต้องไปบวกลบเพิ่มบ้างอีกนิด ๆ หน่อย ๆ
Honor Band 5 ยังรองรับภาษาไทยในส่วนของการแจ้งเตือนผ่านตัวเครื่องอีกด้วย (แต่ผู้เขียนไม่ชัวร์ว่าตัวเครื่องมีเมนูภาษาไทยให้ไหม เพราะเครื่องที่ผู้เขียนได้มารีวิวไม่มี) ซึ่งก็เป็นข้อดี เพราะเราจะได้อ่านได้เลยเวลาใครส่งข้อความมา ไม่ต้องไปคอยควักหยิบมือถือมาดูโดยตรง แต่จะมีข้อจำกัดนิดหน่อยตรงที่หน้าจอไม่ได้แสดงผลการแจ้งเตือนแบบสี
มาถึงเรื่องที่สำคัญไม่แพ้พาร์ตอื่น ๆ นั่นคือแบตเตอรี่กันบ้าง Honor Band 5 ถือได้ว่ามีอายุการใช้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งที่น่าพึงพอใจใช้ได้ โดยหากใส่ไว้ติดตัวตลอด ก็จะหมดประมาณ 4 – 5 วัน แต่ถ้าถอด ๆ ใส่ ๆ อันนี้ก็อยู่ได้มากหน่อยประมาณเกือบอาทิตย์ (5 – 6 วัน) ซึ่งก็เป็นระยะเวลาที่ไม่มากและก็ไม่น้อยจนเกินไป แต่หากไปเทียบกับคู่แข่งแบรนด์อื่น ๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกันก็อาจจะด้อยกว่าเขาอยู่ประมาณ 1 วันอายุแบตเตอรี่ ส่วนวิธีการชาร์จก็ไม่ซับซ้อนอะไร โดยตัวกล่องจะมีหัวชาร์จเฉพาะมาให้ที่มีหัวเป็น Micro USB ที่ก็ไม่ได้มีข้อเสียในเรื่องของการชาร์จเพราะตัวเครื่องแบตเต็มค่อนข้างไว แต่อาจจะมีปัญหาในเรื่องของการหาสายมาเสียบในจังหวะฉุกเฉินเพราะหัวนี้มันโบรานสมัยไปแล้ว
สรุป Honor Band 5
ภาพรวม Honor Band 5 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ตแบนด์ที่น่าสนใจตัวหนึ่งที่จะดึงดูดให้เราจับจองเป็นเจ้าของด้วยราคาค่าตัวเพียง 1,190 บาท ก่อนที่จะได้รับรู้ว่าหน้าจอก็ไม่ขี้เหร่เพราะเป็นประเภท AMOLED ที่ตัวเครื่องก็มีน้ำหนักที่ไม่ทำร้ายข้อมือผู้ใช้งาน รองรับภาษาไทย และมีอายุต่อการชาร์จหนึ่งครึ่งที่น่าพึงพอใจที่แม้จะน้อยกว่าคู่แข่งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก