AirPods จากสินค้าที่โดน Bully สู่ยอดขายพุ่งกว่าครึ่ง
ถ้าใครยังจำได้ตอนช่วงที่ Apple เพิ่งจะเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ นั่นคือ AirPods เมื่อปี 2017 กระแสที่ตีกลับตอนนั้นกลายเป็นด้านลบซะส่วนใหญ่
ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมือนเอาหูฟัง EarPods มาตัดสายทิ้งดื้อๆ ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย เป็นสินค้าที่โดน Bully มาตั้งแต่วันเปิดตัว จนเกิดมีมที่ใครเห็นก็ต้องขำกึกๆ กัก ๆ แน่
อีกหนึ่งข้อกังวลนั่นก็คือมันน่าจะหลุดหายง่ายมาก เพราะเป็นหูฟังไร้สายโดยสมบูรณ์ (True Wireless) และไม่ได้เป็นแบบ In-Ear ราคาก็สูงระดับหนึ่งเลย ถ้าหายไปซักข้างคงมีน้ำตาตกในกันบ้าง และหลาย ๆ ข้อสังเกตที่ทำให้มีคนด่ามากกว่าคนชม
แต่ใครจะไปคิดว่าสองปีผ่านไป Airpods สินค้าที่โดนบุลลี่ในตอนนั้น กลับมียอดขายพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ แบบฉุดไม่อยู่ และไตรมาสล่าสุดมียอดขายพุ่งจากเดิมถึงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ iPhone มียอดขายลดลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์
ด้วยความเป็นหูฟังที่ใส่ง่าย ใครที่ชินกับ EarPods มาอยู่แล้วก็คงหลงรัก AirPods ขึ้นมาได้ไม่ยาก และคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นตามราคา การเชื่อมต่อที่สะดวกเพียงแค่เปิดฝาแล้วสวมหูฟังเท่านั้น คนที่ใช้อุปกรณ์อื่นในระบบ iOS และ OS อยู่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเสียเงินกับมัน
ส่วนใครที่กังวลเรื่องที่หูฟังอาจจะหลุดหาย เมื่อลองใช้ดูแล้วทำให้รู้สึกว่าเวลาหูฟังหลุดมันหลุดเพราะว่ามีสายนี่แหละ เดี๋ยวก็เผลอเกี่ยวมือเกี่ยวนิ้ว แต่พอไม่มีสายแล้วก็ตัดปัญหาตรงนั้นไปได้เลย แต่เรื่องการถอดแล้ววางลืมน่าจะต้องแล้วแต่คนแล้วแหละ
ก่อนหน้านี้เราจะเห็นหลาย ๆ คนมาเล่าบรรยากาศการซื้อขาย AirPods ในประเทศเกาหลีใต้ว่าซื้อง่ายจ่ายคล่อง ไม่เหมือนกำลังซื้อของที่ราคาห้าพันเลยแม้แต่น้อย หรือถ้าใครไปประเทศเกาหลีใต้จะเห็นว่านอกจากเคสโทรศัพท์หลากรุ่นแล้ว สินค้าที่วางขายรองลงมาก็คือเคสสำหรับใส่ AirPods นี่แหละ ทำให้เห็นว่ามันขายดีแค่ไหน
ถึงแม้ราคาที่ไทยจะแพงแบบงง ๆ (คือแพงกว่าราคาในต่างประเทศประมาณ 2,000 บาท) แต่ก็ยังคงมีคนใช้กันเยอะนะ เพราะหากบวกลบคูณหารแล้วใครที่ชอบฟังเพลงยังไงก็คุ้มค่า ใช้ในชีวิตประจำวันได้สะดวก หรือสามารถซื้อจากต่างประเทศก็ได้เพราะถ้ามีปัญหาก็สามารถเคลมได้ที่ Apple Store ICON SIAM
จนวันนี้ Airpods ก็ได้พัฒนารูปลักษณ์ไปอีกขั้น ด้วยการออก AirPods Pro ที่มีระบบกันเสียงรบกวนและกันน้ำได้ (แต่กลายเป็นว่าแรกเห็นดันตลกกว่าเดิมอีก โอย อะไรกันนี่) มีลักษณะคล้ายหูฟัง In-Ear ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ปลื้มเพราะไม่ได้ใส่ง่ายแบบเดิมแล้ว แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเราก็ไม่อยากบุลลี่สินค้าใด ๆ จาก Apple อีกแล้ว เพราะยอดขายออกมาอาจจะทำให้เราเงิบตอนหลังก็ได้
แซวเล่นขำๆ กันจริงๆ
และในต่างประเทศได้จำหน่าย AirPods Pro ไปแล้ว พบว่าคุณภาพก็ดีขึ้นตามราคาจริง ๆ สามารถสั่งการได้มากขึ้นด้วยการบีบที่ก้านหูฟัง ระบบกันเสียงรบกวนก็ใช้งานได้ดีแถมยังเปิดสลับกับโหมดฟังเสียงภายนอกได้ด้วย แต่ยังมีข้อเสียคือใช้ได้ต่อเนื่องเพียง 4 ชั่วโมง
ตอนนี้เราเริ่มเห็นว่าคนหันมาสนใจหูฟังแบบ True Wireless กันมากขึ้น ด้วยทั้งความสะดวกสบายและไฟล์ทบังคับเพราะโดนเอาช่องใส่หูฟังออกซะงั้น เลยมีสินค้าหูฟังไร้สายออกมาแข่งกันเยอะมาก ทีนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละคนแล้วแหละว่ารุ่นไหนยี่ห้อไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา รวมทั้งคุณภาพและราคาที่เราจะเอื้อมถึงแบบไม่เดือดร้อนการเงินด้วยนะ