ย้อนดูวิวัฒนาการความล้ำของ OPPO F Series กว่าจะมาเป็น OPPO Reno2 F ในปัจจุบัน!
อย่างที่รู้กันตลาดสมาร์ทโฟนมีการแข่งขันอย่างดุเดือดมาโดยตลอด OPPO แรกเริ่มตีตลาดด้วยการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งโดยตั้ง Positioning ให้กับตัวเองเป็น ‘Selfie Expert’ ต้องย้อนความกันนิดนึงว่าแต่เดิมกล้องหน้าในโทรศัพท์มือถือมีฟังก์ชั่นหลักคือ ใช้สำหรับ Video Call ทำให้หลายๆแบรนด์ไม่ได้ให้ความละเอียดกับกล้องหน้ามากนัก แต่หลังจากที่กระแส Selfie มาแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แบรนด์โทรศัพท์มือถือต่างๆ กลับมาเพิ่มความคมชัดให้กับกล้องหน้ากัน และ OPPO ก็เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยความพิเศษของกล้อง OPPO ที่มาพร้อมโหมดแต่งหน้าสวย ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน โดยเฉพาะสาวๆ ที่สามารถลดริ้วรอย ทำหน้าสวยใสได้เบ็ดเสร็จในเครื่องเดียว และด้วยความที่ราคาของ OPPO เป็นราคาที่จับต้องได้ และมาพร้อมสเปคครบดั่งรุ่นแพงๆ ทำให้ OPPO เป็นที่นิยมมาโดยตลอด และรุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดีคือ OPPO F series สมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน และยังคง Key Selling Point ของแบรนด์คือ ‘Selfie Expert’
ปี 2016 จุดเริ่มต้นของ OPPO F1
OPPO F1 มาพร้อมจุดเด่นด้านการถ่ายภาพ Selfie คมชัด สวยงามทุกช็อต ด้วยโหมด Beautify 3.0 และกล้องหน้าที่มีความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพเซลฟี่สวยเนียนเป็นธรรมชาติในได้ราคาไม่ถึงหมื่น จึงเป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจล้นหลาม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ F series
OPPO F1 PLUS และ OPPO F1S พร้อมฟังก์ชั่น Beautify เซลฟี่สวย
รุ่นที่ตามกันมาติดๆก็คือ OPPO F1 Plus ที่ยังคงเอกลักษณ์ Selfie Expert แต่เพิ่มขนาดหน้าจอที่กว้างถึง 5.5 นิ้ว พร้อมความละเอียดแบบ Full HD และฟังก์ชั่น Beautify ที่อัพเกรดขึ้นเป็นเวอร์ชั่น 4.0 ให้เซลฟี่สวยเป๊ะยิ่งขึ้น พร้อมราคาเปิดตัวแค่หมื่นต้นๆ แต่ถ้าอยากเซลฟี่สวยแบบ Beautify 4.0 ในราคาไม่ถึงหมื่นก็มี OPPO F1s ที่เปิดตัวหลัง OPPO F1 Plus ไม่ถึง 4 เดือน ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ก็ยังคงขายดิบขายดี เพราะถูกใจคนที่ชอบเซลฟี่กันสุดๆ และเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มวัยรุ่นที่อาจจะยังมีรายได้ไม่มากนัก
2017 เปิดตัว OPPO F5 พร้อม AI Beauty
OPPO ตระกูล F Series พัฒนาความล้ำขึ้นมากเรื่อยๆ พร้อมกับตอกย้ำเรื่องความเป็น Selfie Expert ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยี AI วิเคราะห์ใบหน้าเข้ามาทำให้เราได้รูปสวยผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งได้เพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 6 นิ้ว ให้คุณเห็นหน้าจอได้อย่างเต็มตา และมาในราคาที่จับต้องได้เพียงหมื่นต้นๆเท่านั้น
2018 เปิดตัว OPPO F7 และ F9 พร้อม AI Beauty 2.0 เวอร์ชั่นอัพเกรด
สำหรับ OPPO F7 ยังคงคอนเซ็ปต์เรื่องเซลฟี่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี AI Beauty 2.0 ให้คุณได้ภาพถ่ายที่เป็นธรรมชาติขึ้นไปอีก ทั้งกล้องหน้าความละเอียดมากถึง 25 ล้านพิกเซล ทั้งยังรองรับระบบ HDR ช่วยคุณในเรื่องของการจัดแสงได้เป็นอย่างดี และ ในรุ่น F7 OPPO ยังได้เริ่มเปลี่ยนแปลงดีไซน์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอรอยบาก ที่นับว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ในตอนนั้น และในส่วนด้านหลังก็ได้ดีไซน์ให้มีความมันวาวเหมือนกระจก พร้อมเพิ่มลวดลายการดีไซน์แบบ 3D ทำให้มีมิติสวยงามแปลกตา
และอีกหนึ่งซีรี่ย์ที่เปิดตัวในปีเดียวกันคือ OPPO F9 ที่เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนรูปแบบดีไซน์ของ F Series ไปอีกขั้นกับการดีไซน์ไล่เฉดสีสวยงาม มาพร้อมลวดลาย 3D ด้านหลังที่ดูมีมิติสวยงาม และหน้าจอแบบ Water Drop และยังมีเทคโนโลยีชาร์จไวที่หลายคนชื่นชอบอย่าง VOOC Flash Charge ชาร์จ 5 นาทีคุยได้นานถึง 2 ชั่วโมง ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวของการพัฒนาซีรีย์ F ให้เทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปหลายๆรุ่นเลยทีเดียว
2019 เปิดตัว OPPO F11 และ F11 PRO สมาร์ทโฟนกล้องหลัง 3 กล้องความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล
และในปีนี้ OPPO ได้เปิดตัว OPPO F11 และ F11 PRO สองน้องใหม่ก่อนที่จะรวบจุดเด่นของซีรี่ย์นี้เป็น OPPO Reno2 F ความพิเศษของสองรุ่นนี้คืองานดีไซน์ใหม่ในการออกแบบหน้าจอให้มองได้อย่างเต็มตา ด้วยการย้ายกล้องหน้าขึ้นไปไว้ด้านบนตัวเครื่อง และกล้องหน้าแบบ Rising Camera จะเลื่อนขึ้นอัตโนมัติเมื่อเรียกใช้งาน ทั้งสองซีรี่ย์นี้ยังมีการชูโรงเรื่องการถ่ายภาพ Portrait พร้อมฟีเจอร์ Ultra Night Mode และมีการออกแบบตัวเครื่องให้เกิดการเล่นเฉดสีให้ด้านหลังเมื่อกระทบกับแสงจะให้ความสวยงาม
ปลายปี 2019 รวบเอา OPPO F Series รวมกับ Reno Series
ในปี 2019 ทาง OPPO ได้รวบรวมเอา DNA ของ F Series ในเรื่องของกล้องที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาโดยตลอด รวมกับ DNA ของ Reno Series ที่โดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีชาร์จไว และงานดีไซน์พรีเมี่ยม เกิดเป็น OPPO Reno2 F ที่มาในราคาที่จับต้องได้และสเปคที่เทียบเท่ากับรุ่นเรือธงเลยทีเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ OPPO ที่สามารถพัฒนาสมาร์ทโฟนให้ดีขึ้นมาโดยตลอด ทั้งการลงทุนในงานวิจัย, ความพยายามในด้านการผลิตนวัตกรรม, การนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาไว้ในสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และเรื่องของ Pricing Strategy ที่แสดงออกมาว่าสมาร์ทโฟนที่ครบครันไม่จำเป็นต้องมีราคาที่สูงเสมอ ไปจนถึงการให้บริการลูกค้าที่ดีเสมอมา ทำให้แบรนด์ OPPO เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามองต่อไปในอนาคตเลยทีเดียว
(Advertorial)