จัดให้รีวิว Sennheiser MOMENTUM Wireless Gen3 ปี 2019 หูฟังครอบหูเสียงดี ใส่สบาย
Sennheiser MOMENTUM Wireless เป็นหนึ่งในหูฟังไร้สายแบบครอบหูที่หลายคนติดตามกันมานานครับ ซึ่งรุ่นที่เราจะรีวิวในครั้งนี้ถือเป็นรุ่นที่ 3 หรือจะเรียกไม่ให้งงว่า Momentum 3 หรือ Momentum Wireless 2019 ก็ได้ครับ กลับมาคราวนี้ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจทีเดียว
การออกแบบของ Sennheiser MOMENTUM Wireless การออกแบบหูฟังดูดี งานประกอบดี ฟองน้ำหูฟังนิ่มมาก และครอบได้ทั้งใบหู มีกระเป๋าผ้าและอุปกรณ์เสริมครบ แต่กระเป๋าแถมดันไม่ใช่กระเป๋าแข็ง
เรื่องการดีไซน์ก็ยังคงเอกลักษณ์ของตระกูล MOMENTUM Wireless เอาไว้ครับ คือตัวแป้นหูฟังทั้ง 2 ข้างสามารถเลื่อนปรับตำแหน่งให้เหมาะสมสำหรับใบหูของเราได้ ซึ่งตรงหมุดที่ยึดระหว่างแป้นกับก้านหูฟังก็จะเป็นโลโก้ของ Sennheiser สะท้อนแสงสวยงาม ซึ่งฟองน้ำของหูฟังและก้านหูฟังนั้นหุ้มด้วยหนังแกะนุ่มพิเศษ ทำให้เมื่อรวมกันแล้วทำให้เป็นหูฟังที่ใส่สบายๆ มากๆ สามารถใส่ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมงโดยที่หูไม่ล้า เพราะฟองน้ำจะครอบใบหูไปทั้งหมด ไม่มีส่วนไหนที่ทับใบหูให้เจ็บเลย ตัวหูฟังก็มีน้ำหนักเพียง 306 กรัม ก็ทำให้ใส่ได้สบายครับ
เมื่อไม่ใช้หูฟัง ก็สามารถพับเก็บได้โดยเมื่อพับเก็บ หูฟังก็จะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ และเมื่อกางออกมาก็จะเปิดขึ้นมาเอง ทำให้ Sennheiser MOMENTUM Wireless ไม่จำเป็นต้องมีสวิทซ์เปิด-ปิดบนตัวหูฟัง และเมื่อกางออกมาใช้งานครั้งแรกก็จะเข้าสู่โหมด Pairing เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ
Sennheiser MOMENTUM Wireless มาพร้อมกระเป๋าผ้ากึ่งแข็ง คือฝาบน-ล่างทำเป็นผ้าแข็งเอาไว้ ส่วนบริเวณชิปด้านข้างเป็นฝานิ่ม ทำให้เป็นกระเป๋าที่สามารถกดยุบลงไปได้ ซึ่งต่างจากกระเป๋าของ Sony WH-1000XM3 ที่เป็นกระเป๋าแข็งทั้งใบ แต่โดยรวมก็ถือว่าให้กระเป๋าที่ดูดี น่าใช้ เหมาะกับราคา และในกระเป๋าก็ยังเป็นที่เก็บสาย USB-C, หัวแปลง USB-A สำหรับชาร์จ และสาย 3.5 mm สำหรับฟังเพลงผ่านสาย แต่ไม่มีไมค์ในสายนะ เวลาคุยโทรศัพท์ก็ใช้ไมค์ที่หูฟังเป็นหลัก ซึ่งจะขาดก็เพียงหัวแปลง 2 ขาสำหรับใช้บนเครื่องบินครับ ส่วนถ้าพกพาทั้งแพ็กเกจ คือกระเป๋า สายทั้งหมด และหูฟังนั้นมีน้ำหนักรวมที่ 501 กรัม ก็พกพาไม่ยากครับ
ส่วนแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 17 ชั่วโมงครับ ซึ่งเราเทสต์ฟังเพลง ดูหนังอยู่ทั้งวัน ก็ใช้งานได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวหมดระหว่างวันครับ และสามารถชาร์จกลับได้ผ่านพอร์ต USB-C ซึ่งก็น่าจะหาหัวชาร์จได้ไม่ยากแล้วในปัจจุบัน
Sennheiser MOMENTUM Wireless มีให้เลือก 2 สีคือสีดำที่เราได้มารีวิวในครั้งนี้ และสีขาว-เทาที่ก็ดูหรูหราไม่แพ้กันครับ
การควบคุม Sennheiser MOMENTUM Wireless ควบคุมหูฟังได้ง่าย ด้วยปุ่มจริงๆ ไม่ต้องจำท่าทางเยอะเหมือนหูฟังสมัยใหม่ มีแอปสนับสนุนที่ปรับแต่งรูปแบบการทำงานของหูฟังได้อีกเยอะ และค้นหาหูฟังได้ รองรับ Amazon Alexa ในตัว แต่ไม่รองรับ Google Assistant ในตัว ต้องใช้งานผ่านโทรศัพท์
การควบคุมการทำงานของ Sennheiser MOMENTUM Wireless นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาครับด้วยปุ่มจริงๆ ไม่ได้มีการควบคุมด้วยระบบสัมผัสแฟนซีเหมือนหูฟังรุ่นอื่นๆ ก็ทำให้เข้าใจง่ายดีครับ
- เปิด-ปิดหูฟังแค่กางกับพับหูฟัง
- มีเซ็นเซอร์ที่ตัวหูฟัง แค่เอาหูฟังออกจากหูเพลงก็จะหยุด (ซึ่งบางทีก็ตรวจผิด แค่หาวเพลงก็หยุดแล้ว)
- สวิทซ์บนสุดไว้เปิด-ปิดโหมดตัดเสียงภายนอก และเลื่อนลงมาเพื่อเอาเสียงภายนอกเข้าสู่หูฟัง (Transparent Hearing)
- มีปุ่มเร่งเสียง ลดเสียงแยกกัน
- ปุ่มกลางระหว่างเร่งเสียง-ลดเสียงเป็นปุ่มสารพัดประโยชน์ ใช้เล่นเพลง-หยุดเพลง, กด 2 ทีเพื่อข้ามเพลง, กด 3 ทีเพื่อย้อนเพลง และถ้ามีสายโทรเข้าก็กดเพื่อรับสาย-ตัดสาย
- ปุ่มล่างสุดเป็นการเรียกใช้ผู้ช่วยดิจิตอล และกดค้างเพื่อเข้าโหมดเชื่อมต่อหูฟัง
- นอกจากนี้ที่ตัวหูฟังยังรองรับ NFC ทำให้แตะโทรศัพท์กับหูฟังเพื่อเชื่อมต่อได้เลย
- บนหูฟังมีไฟเล็กๆ 1 ดวงเพื่อแสดงสถานะการทำงาน ทั้งการชาร์จ หรือสถานะปิด-เปิด
Sennheiser MOMENTUM Wireless นั้นรองรับ Amazon Alexa ในตัวเพียงค่ายเดียว ถ้าต้องการใช้ Google Assistant ก็สามารถใช้ผ่านโทรศัพท์ที่รองรับได้ แต่จะต้องเปิดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อใช้งาน ไม่ได้ใช้งานได้ทันทีเหมือนหูฟังที่รองรับ Google Assistant ในตัว
หูฟังรุ่นนี้ยังสามารถปรับแต่งรูปแบบการทำงานได้อีกหลายอย่างผ่านแอป Sennheiser Smart Control ซึ่งสามารถปรับโหมดการทำงานของ Active Noise Cancellation (ANC) ได้อีก 3 โหมดคือ
- Max ตัดเสียงรบกวนรอบข้างเต็มที่ (โหมดมาตรฐานเวลาเปิดใช้ ANC จากหูฟัง)
- Anti Wind ตัดเสียงลมที่อาจจะรบกวนเวลาเดินทาง
- Anti Pressure โหมดที่ช่วยให้ฟังเพลงได้ผ่อนคลายขึ้น ด้วยการปรับแรงดันอากาศในหูให้สบาย
นอกจากนี้ยังสามารถปรับการทำงานของโหมด Transparent Hearing ให้ยังเล่นเพลงต่อไปแม้เราจะโยกสวิทซ์เลื่อนให้เสียงภายนอกเข้ามาแล้ว (โหมดมาตรฐานคือเพลงจะหยุดเมื่อเปิดให้เสียงภายนอกเข้ามา) และที่สำคัญคือปรับ EQ ให้ตรงใจได้ในแอปนี้ครับ
ในส่วนของการหาหูฟังนั้นไม่ได้ทำผ่านแอป Sennheiser Smart Control นะครับ แต่ไปใช้แอปภายนอกที่ชื่อว่า Tile ซึ่งเป็นแอปของผู้ผลิตแท็ก Bluetooth สำหรับติดตามข้าวของ ก็สามารถลงทะเบียน Sennheiser MOMENTUM Wireless เข้าไปในแอป Tile เพื่อใช้ตามหาหูฟังได้ โดยแอปจะจำตำแหน่งล่าสุดที่เชื่อมต่อกับหูฟังเอาไว้ และสามารถสั่งให้หูฟังส่งเสียงพร้อมสั่นเพื่อระบุตำแหน่งได้ด้วย (ใช่ครับ Sennheiser MOMENTUM Wireless มีมอเตอร์สั่นในตัวด้วย!)
คุณภาพเสียงของ Sennheiser MOMENTUM Wireless
- เสียงดีเยี่ยมในสไตล์ของ Sennheiser เชื่อมต่อสัญญาณเสียงผ่านสายก็ได้ทั้ง 3.5 mm และ USB-C
- ระบบตัดเสียงรบกวนหรือ ANC ทำงานได้ดี มีโหมด Transparent Hearing เพื่อดึงเสียงภายนอกให้เข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ไม่ได้รองรับเสียงในระดับ Hi-Res เพราะหูฟังตอบสนองความถี่สูงสุดได้ 22 kHz และไม่ได้ใช้ Codec ความละเอียดสูงอย่าง aptX HD หรือ LDAC
เสียงของ Sennheiser MOMENTUM Wireless นั้นออกไปในโทน Flat หรืิอเสียงที่เหมือนกับต้นฉบับ ไม่ได้มีการปรุงแต่งเสียงไปมากนัก เวทีเสียงกว้าง รายละเอียดเสียงมาครบถ้วน เสียงเบสก็มีกำลังพอดีและไม่ไปดีกับเสียงอื่นๆ จนพร่าเลื่อน ก็สรุปว่าเป็นเสียงจากหูฟังที่ผู้ใช้ทั่วไปน่าจะชอบได้ไม่ยากนัก
หูฟังตัวนี้ใช้การเชื่อมต่อเป็น Bluetooth 5 ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์ที่รองรับ ก็ทำให้การเชื่อมต่อทำได้รวดเร็วและเสถียรขึ้น ซึ่งเท่าที่เราทดสอบมายังไม่เจอปัญหาสัญญาณหลุดเลย แม้อยู่ในที่ๆ คนเยอะ ในส่วนของ codec การเชื่อมต่อ Bluetooth นั้นรองรับเป็น AAC (สำหรับการเชื่อมต่อกับ iPhone) และ aptX ที่รองรับถึงเวอร์ชั่น LL หรือ Low Latency ซึ่งเราก็ทดลองดูหนังต่อเนื่องยาวนานผ่าน Netflix ก็รู้สึกว่าเสียงมาตรงปากตลอดครับ ซึ่งคุณภาพเสียงที่ได้จาก codec ทั้ง 2 ตัวนี้คือ AAC และ aptX ก็ให้เสียงที่คมชัด คุณภาพดี แม้ว่าหูฟังตัวนี้จะไม่ได้รองรับเสียงในระดับ Hi-Res ที่ต้องใช้โค้ดเสียงเป็น aptX HD หรือ LDAC ก็ตาม
ส่วนการตัดเสียงรบกวนภายนอกผ่านระบบ ANC นั้นก็ทำได้ดีครับ เวลาเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน เสียง Noise ความถี่ต่ำๆ เช่นเสียงฮึมของเครื่องยนต์ หรือเสียงลมระหว่างเดินทางก็ถูกตัดได้เรียบร้อยดี ซึ่งต้องเข้าใจธรรมชาติของระบบ ANC ว่ามันออกแบบมาให้ตัดเสียงความถี่กลาง-ต่ำเป็นหลักนะครับ เพราะฉะนั้นพวกเสียงพูด จึงไม่ได้ตัดออกหมด นอกจากนี้ระบบ ANC ของ Sennheiser MOMENTUM Wireless ก็ยังมีโหมด Transparent Hearing ที่เพียงแค่เลื่อนสวิทซ์ที่ตัวหูฟังก็จะดังเอาเสียงภายนอกเข้ามาในหูฟัง ทำให้เรายังคุยกับคนอื่นรู้เรื่อง หรือสามารถใส่เดินถนนได้อย่างปลอดภัยครับ เพียงแต่ว่าการเปิดใช้โหมด Transparent Hearing จะไม่ได้มีเสียงบอกว่าตอนนี้กำลังเปิดหรือปิดเสียงอยู่ ทำให้เราต้องใช้เวลาสังเกตเสียงนิดหนึ่งว่าอยู่ในโหมดไหนกันแน่ครับ
และสำหรับนักฟังเพลงที่ไม่ต้องให้เสียงเพลงสูญเสียคุณภาพจากการส่งสัญญาณไร้สายเลย หูฟังรุ่นนี้ยังสามารถฟังเพลงผ่านสาย 3.5 mm ตามปกติ หรือจะเสียบสาย USB-C เข้าไปคอมพิวเตอร์หรือมือถือเพื่อให้ส่งสัญญาณดิจิตอลมาที่หูฟังเลยก็ได้ ก็ถือว่าเป็นความยืดหยุ่นสำหรับนักฟังเพลงครับ
การคุยโทรศัพท์ด้วย Sennheiser MOMENTUM Wireless
- คุยโทรศัพท์ได้ดี เสียงคมชัดทั้งเสียงพูดของเรา และเสียงสนทนาฝั่งตรงข้าม
- รองรับการต่ออุปกรณ์ได้ 2 ตัวพร้อมกัน
- ตัวหูฟังสามารถสั่นเพื่อเตือนสายเรียกเข้าได้
Sennheiser MOMENTUM Wireless มาพร้อมไมโครโฟน 2 ตัวเพื่อตัดเสียงรบกวนและรับเสียงพูดเวลาคุยโทรศัพท์ ซึ่งเท่าที่เราทดสอบคุยสายสนทนามา ฝั่งตรงข้ามก็ได้ยินเสียงเราชัดเจนดี เพียงแต่ว่าอาจจะต้องพูดดังขึ้นกว่าปกตินิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งถ้าโทรศัพท์ของเรารองรับการคุยผ่านเทคโนโลยีอย่าง VoLTE ก็ให้เสียงฝั่งตรงข้ามที่ได้ยินผ่านหูฟังนั้นชัดเจนมากเหมือนมาพูดอยู่ต่อหน้า
หูฟังรุ่นนี้ยังมีความพิเศษที่สามารถเชื่อมอุปกรณ์ได้ 2 ตัวพร้อมกัน เช่นเรามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง ก็สามารถสลับรับสายจากทั้ง 2 เครื่องโดยไม่ต้องสลับ Bluetooth ไปมา นอกจากนี้ที่ตัวหูฟังยังมีระบบสั่น เมื่อมีสายเรียกเข้า หูฟังก็จะสั่นเพื่อเตือนให้เรารับสายได้ด้วย
Sennheiser MOMENTUM Wireless หูฟังระดับท็อปที่น่าใช้งาน
ก็ถือว่าการกลับมาครั้งนี้ของ Sennheiser กับหูฟัง MOMENTUM Wireless รุ่นที่ 3 นั้นทำออกมาได้ดีเลยนะครับ ด้วยเสียงที่ดีเยี่ยม ระบบตัดเสียงรบกวนที่ทำงานได้ดี คุณภาพงานประกอบหูฟังที่ดี ตัวฟองน้ำหูฟังก็นุ่มมากจนสามารถใช้งานได้ทั้งวัน ซึ่งราคาในไทยก็เปิดตัวมาที่ 14,990 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่แข่งขันกับหูฟังไร้สายตัวท็อปของค่ายอื่นๆ ได้ ก็เป็นอีกหนึ่งหูฟังที่น่าไปลองฟังกันดู อาจจะเสียเงินได้ไม่ยากครับ