[รีวิว] OPPO Enco Free หูฟัง In Ear แบบ True Wireless ตัวแรกของ OPPO ที่เสียงไม่ธรรมดา 

ก่อนที่จะเล่าเรื่องงาน OPPO Strategy Launch Conderence ซึ่งเป็นอีกงานที่เรียกได้ว่ากำหนดทุกสิ่งที่จะเกิดในภูมิภาคโดย OPPO ก็มีเซอร์ไพรส์แบบไม่ทันตั้งตัวอันหนึ่งมาก่อน นั่นคือ หูฟังรุ่นใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ OPPO Enco Free นั่นเอง โดยคราวนี้ทีม sanook hitech จะเล่าให้ฟังกันก่อนแบบละเอียดยิบ 

ภายในกล่อง OPPO Enco Free มีอะไร 

• ตัวหูฟัง OPPO Enco Free 
• คู่มือ / ใบรับประกะัน 
• จุกเปลี่ยนขนาด S / L (ที่ติดกับหูฟังเป็นขนาด M) 
• สาย USB-C To USB-A 

รูปลักษณ์ / ดีไซน์ของ OPPO Enco Free  

แรกเห็นเป็นหูฟังที่มีกล่องทรงสีเหลี่ยมจัตุรัส ถือว่าขนาดกำลังดีไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป โดยสีที่ได้รับมาเป็นสีขาว ซึ่งผิวสัมผัสจะแตกต่างกับหูฟัง True Wireless ทั้งหมด เพราะตัวหูฟังเองเป็นแบบด้านทั้งหมด ทำให้เมื่อใช้งานจริงแล้วจับได้กำลังดี พร้อมกับโลโก้ OPPO ด้านหน้าและมีไฟบอกสถานะที่ชัดเจน โดยแสดงผลเป็นสีเขียวว่าพร้อมใช้งาน และ สีขาวสำหรับการ Pairing สีเหลือง เหลือไฟ 50% สีแดงคือ สถานะว่าไฟเหลือน้อย กว่า 25%

รอบตัวหูฟังออกแบบเรียบง่ายและดูดี แต่ว่าจะมีส่วนที่สำคัญแค่ 2 จุดได้แก่ ฝั่งซ้ายมือจะมีปุ่มสีเงินเป็นปุ่ม Pairing ไว้กดเชื่อมต่อ ส่วนล่างสุดของหูฟังจะเป็นช่องเสียบ USB-C ไว้สำหรับชาร์จไฟนั่นเอง 

 เมื่อเปิดออกมา จะมีหูฟังข้างใน เมื่อดึงออกมาจะมีก้านที่ไม่ได้ยาวมาก แต่สามารถใช้นิ้วสัมผัสขึ้นลง หรือ แตะเพื่อสั่งงานได้  

จุกที่หูนอกจากเปลี่ยนได้ยังทำจากยางที่มีคุณภาพดีนุ่มเวลาใส่ และไม่หลุดง่ายๆ แน่นอน ถือว่าเป็นอีกหูฟังที่สามารถใส่แล้วกระชับกำลังดี แต่ถ้าไม่พอดี ก็มีขนาดให้เปลี่ยนครบทั้ง S / M / L  

หลังหูฟังจะมีเส้นที่เป็นเซนเซอร์สั่งงานด้วยการสัมผัส พร้อมกับไมโครโฟนอีกข้างละตัวบนเพื่อเช็คเสียงภายนอก

ล่างของหูฟังมีขั้วสำหรับเสียบฐานชาร์จไฟและมีไมโครโฟนข้างละ 2 ตัวช่วยลด Noise ระหว่างคุยกำลังดีเลยครับ 

ลองฟีเจอร์ และ ฟังเพลงผ่าน OPPO Enco Free 

 

เมื่อลองสวมใส่หูฟัง OPPO Enco Free จะเน้นเรื่องของความสบายในการใส่มากกว่า คุณภาพเสียงจัดว่าใช้ได้ดีเลย เสียงกลางดี และเครื่องดนตรีประเภทเสียงออกมาชัดเจน เสียงนักร้องใส Stage กำลังดี แต่เบสยังไม่หนักมาก เท่าไหร่ เอาใจคนที่ฟังเพลงแนวปกติทั่วไป แต่ว่าหูฟังรุ่นนี้ไม่ได้ระบุว่ากันน้ำได้หรือไม่ต้องระวังเรื่องนี้หน่อย เพราะ Driver ของลำโพงมีขนาด 13.4 นิ้ว ถือว่าใหญ่พอสมควร 

แต่ว่าน่าเสียดายที่ตัวหูฟังไม่มี ระบบ Noise Canceling ระหว่างการฟังนอกสถานะที่ทำให้เมื่อฟังแล้วอาจจะมีเสียงรบกวน ซึ่งวิธีกำจัดเสียงภายนอกต้องเปิดหูฟังเสียงดังขึ้นนั่นเอง 

ไมโครโฟนของหูฟังรุ่นนี้ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นที่น่าสนใจเพราะว่ามี ข้างละ 2 ตัวทำให้ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี จากที่ได้ลองใช้โทรและคุยผ่าน Social Network กลางร้านอาหาร ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ 

ฟีเจอร์ที่หูฟังรุ่นนี้มีความโดดเด่นที่น่าสนใจมากมายได้แก่ 

• รองรับ Bluetooth 5.0 LE การเชื่อมต่ออิสระและทำงานได้รวดเร็ว 
• Tap ที่หูฟังสามารถสั่งงานได้ทั้ง ฝั่งซ้าย เลื่อนขึ้น / ลง เป็นการปรับระดับเสียง | ฝั่งขวา เลื่อนขึ้น / ลง เป็นการเปลี่ยน Track ของเพลง 
• แตะหูฟังเป็นการหยุด หรือ เล่นเพลงต่อ 
• สามารถทำงานกับระบบ Voice Assistant ได้ 

นอกจากนี้หูฟัง OPPO Enco Free คือเมื่อเชื่อมต่อกับมือถือ OPPO ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Color OS จะสามารถเพิ่มการตั้งค่าทั้ง การบอกรายชื่อเวลารับสาย, การปรับคุณภาพของเสียงให้รองรับในรูปแบบของ AAC ซึ่งจะมีคุณภาพที่สูงขึ้น 

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ 

OPPO Enco Free เคลมว่าใช้งานได้นานสุดข้างละ 5 ชั่วโมง และกล่องสามารถชาร์จไฟได้ 4 รอบ ทำให้หูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ราวๆ 20 – 25 ชั่วโมง ถือว่านานอยู่ แต่ว่า กล่องชาร์จนั้นรองรับกำลังไฟ 1A แม้ไม่ได้เร็วอะไร แต่เชื่อว่าแบตเตอรี่ขนาดเล็กแค่นั้นผมว่าเพียงพอแล้ว 

สรุปหลังจากทีม sanook hitech ได้ทดลองใช้ OPPO Enco Free สักระยะเวลาหนึ่ง 

24 ชั่วโมงกับหูฟังรุ่นนี้ผมได้ทดลองจนเรียกได้ว่าแบตเตอรี่หมด แต่ก็แสดงได้ชัดว่า OPPO Enco Free เป็นอีกหูฟังไร้สายที่สามารถใช้นำไปเที่ยวและใช้ฟังเพลงสร้างความเพลิดเพลินได้ยาวนานพอสมควร ไม่แพ้คู่แข่ง อาจจะต้องปรับเรื่องของเบส ให้มากกว่านี้อีกนิด ก็จะสมบูรณ์แบบ 

ส่วนการวางจำหน่ายยังคงต้องรอติดตามกันต่อไป ส่วนการเปิดตัวทั่วโลกคาดว่า 26 ธันวาคม นี้ คาดว่าเป็นการเปิดตัวพร้อมกับ OPPO Reno รุ่นต่อไปนั่นเอง  

แต่เรื่องราวของ OPPO ในรอบนี้ยังไม่จบครับ มีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่าหูฟังรุ่นนี้เยอะ อย่าลืมติดตามทาง sanook hitech นะครับ