[Scoop] สรุปงาน OPPO Strategy Launch ในภูมิภาค APAC ครบทุกรส ที่คุณต้องรู้

OPPO Brand มือถือ ที่หลายคนรู้จักกันดีเกี่ยวกับมือถือกล้องถ่ายภาพสวย สเปกเครื่องดีและมีหลายเรื่องที่น่าสนใจโดยเฉพาะกล้องของเครื่อง แต่ล่าสุดนี้เนื่องจากเป็นโอกาสครบรอบ 10 ปีที่ทำตลาดใน APAC นอกจากเรื่องการย้ายส่วนงานดังกล่าวมาที่ มาเลเซีย และครั้งนี้ทีม sanook hitech ได้ลัดฟ้าไปยังมาเลเซีย เพื่อฟังกลยุทธ์และทิศทางที่จะไปของ Brand มือถือค่ายนี้กันว่าจะมีความน่าสนใจแค่ไหน 

OPPO กับ APAC 

จากความสำเร็จใน 10 ปีที่ผ่านมา OPPO ก็ครองใจผู้บริโภคชาวเอเชียมากขึ้น ดังนั้นนพวกเขาเห็นความสำคัญมากขึ้น โดยพวกเขาเลือกเปิดตัว APAC Hub Center ที่ประเทศ มาเลเซีย ไว้ประจำภูมิภาค เพราะจุดประสงค์หลายเรื่องเช่นการทดลองเรื่อง 5G, การขยายกลุ่มสินค้าอื่นอย่างชัดเจน  

นอกจากนี้ OPPO ยังเผยสถิติการเปิดร้านที่ อินโดนิเซีย ได้จำนวนมากและยังมีโลกงานผลิตมือถือ ช่วยสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้มากพอสมควร ดังนั้นการก้าวต่อไปของ OPPO จะเป็นอีกครั้งที่น่าสนใจ 

 

5G ในทิศทางของ OPPO  

ถ้าพูดถึงในเรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของ OPPO 5G Landing Project ที่เกิดขึ้นที่ช่วงงาน MWC 2019 ที่ผ่านมา ก็ได้การตอบรับที่ดีมาก ซึ่งในรอบนั้นได้ปล่อยมือถือ 5G อย่าง OPPO Reno 10x Zoom 5G และตอนนี้ในภูมิภาคก็ได้รับความร่วมมือกับ 2 ผู้ให้บริการในประเทศไทยเกี่ยวกับโปรเจ๊คดังกล่าว 

และ OPPO มองว่า 5G จะมาพัฒนาหลากหลายเรื่องทั้ง AI, Big Data, จนทำให้ยุคของการทำงานด้วย IoT นั้นมีความหลากหลาย โดย OPPO ยังคงให้มือถือเป็นจุดสั่งการหลักเพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใกล้ตัว 

นอกจากนี้ในความร่วมมือกับ Qualcomm คุณจะได้เห็นมือถือ 5G กับชิปใหม่ล่าสุด Qualcomm Snapdragon 865 รุ่นใหม่ที่มีการฝั่ง Modem ภายในตัว โดยมือถือรุ่นดังกล่าวจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า  

OPPO กับการที่ไม่ได้ทำแค่มือถือ 

นอกจากเรื่องของ 5G ที่จะเป็นจุดกำเนิดทุกอย่างที่รวดเร็วมากขึ้น OPPO เองยังเปิดเผย Platform สำหรับอุปกรณ์ IoT ที่มีหลากหลายพันธมิตร โดยมีความเป็นไปได้ว่า ทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อหากันได้ และเน้นเรื่องของความปลอดภัย, ใช้งานง่าย, ประหยัด  

ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ที่เปิดตัวก็คือ OPPO 5G CPE T1 หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณ 5G ยังเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อที่มีการพัฒนาขึ้นโดย OPPO สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้งานภายในบ้าน และที่ทำงาน พร้อมทั้งสร้างมุมมองและประสบการณ์ในการใช้งาน 5G แอปพลิเคชัน และการใช้งาน Wi-Fi ได้อย่างเต็มสปีด OPPO 5G CPE T1 ยังขับเคลื่อนโดยโมเด็ม Qualcomm Snapdragon X55 5G ในการซัพพอร์ตแบบ Standalone (NSA) และ Non-Standalone (SA) Modes, การแบ่งปันคลื่นความถี่แบบไดนามิก (DSS) และ 5G Roaming ทั่วโลก 

อีกชิ้นหนึ่งคือ  OPPO Enco Free หูฟังแบบไร้สาย ซึ่งจะเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 แต่คุณสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่ 

>> [รีวิว] OPPO Enco Free หูฟัง In Ear แบบ True Wireless ตัวแรกของ OPPO ที่เสียงไม่ธรรมดา 

Color OS 7 มีอะไรใหม่บ้าง 

สำหรับ Color OS เวอร์ชั่นที่ 7 รุ่นใหม่ล่าสุดตอนนี้มีกปล่อยอัปเดตในเวอร์ชั่น Trial Version นั่นเอง แต่ว่าเบื้องต้นที่คุณอยากรู้ว่า Color OS 7 มีอะไรที่น่าสนใจบ้างมาดูกัน 

• การปรับเปลี่ยน icon ให้ดูเรียบง่าย เปลี่ยนรูปทรงได้ตามใจ 

• จับมือกับ Eric Sound ทำให้เสียงของระบบแจ้งเตือน เสียงเรียกเข้า เพราะขึ้น (แล้วแต่ชอบ) 
• ทำงานกับ AI มากขึ้นช่วยประมวลผลทั้ง ความจำ, RAM, CPU ให้เหมาะสมขึ้น

• Dark Mode สามารถแสดงผลทั้งกลางวันและกลางคืน 
• ปรับเรื่องของการทัชระหว่างการเล่นเกมให้ตอบสนองดีขึ้น 
• กล้องจับมือกับ Google Camera พัฒนาเป็น Camera X จะเพิ่มฟีเจอร์ที่ไม่เคยมีเช่นการเปิดกล้องให้ไวขึ้น, รองรับการทำงานของ HDR, ชัตเตอรี่เร็วขึ้น และใส่ลูกเล่นของ AI Beauty ไปเพิ่ม 
• สร้างสรรค์วิดีโอได้เองผ่าน Soloop ที่ติดตั้งอยู่ใน Reno 2 แต่ว่าเวอร์ชั่นใหม่เจ๋งกว่า 
• ได้ใช้ Android 10 ใหม่ล่าสุด 

กำหนดการปล่อยอัปเดตเฉพาะไต้หวันและสิงคโปร จะเกิดขึ้นปลายปีหน้า แต่ว่าประเทศอื่นๆ ต้องรอดูกันต่อไป แต่คาดว่าไม่นานหลังจากนี้ 

นอกจากนี้ยังยก OPPO Innolab มาจัดแสดง สิ่งที่เขาไม่ได้บอกว่าจะมาแสดงและถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่คือ มือถือกล้องหน้าซ่อนในหน้าจอ  

ซึ่งหลักการทำงานง่ายมากคือ เมื่อใช้งานอยู่จะไม่มีกล้องมาขวาง แต่ถ้าเปิดกล้องหน้ามาแล้วจะพบว่า จอส่วนหนึ่งจะถูกเปิดเป็นกล้องนั่นเอง ถ้าปิดกล้องก็จะเป็นจอแสดงผลภาพปกติ ซึ่งดีกว่ากลไกกล้องหน้า Popup อยู่ในปัจจุบัน คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาในเรือธงของ OPPO ในไม่ช้า 

รวมไปถึงเทคโนโลยี การนำ 5G มาประยุกต์ใช้เช่น 5G Cloud Gaming คุณสามารถ Streaming เกมในขนาด 4K เข้ามาในมือถือแล้วต่ออกหน้าจอได้ 

แว่น VR ที่จับของจริงและลองใส่เล่นพบว่าเมื่อทำงานกับ 5G มันทำงานได้รวดเร็วทันใจอย่างมากเลยทีเดียว และรวมไปถึงเรื่องของเทคโนโลยีกล้องของ OPPO ทั้ง Ultra Night Mode, ระบบกันสั่น เป็นต้น  และรวมถึง VOOC ที่ชาร์จไฟเร็วมากขึ้น

เรียกได้ว่าการเดินทางมาครั้งนี้ก็เปิดโลกให้เห็นว่า OPPO มีอะไรซ่อนไว้กว่าที่หลายคนคิดไว้ แต่สุดท้ายอะไรจะมาก่อน หรือ หลังต้องลุ้นกันว่าอะไรจากงานนี้ คุณจะได้สัมผัสก่อน