YouTuber สายคริปโตงานเข้ารับคริสต์มาส! YouTube ไล่ลบคลิปเงินสกุลดิจิทัล
ถือเป็นข่าวใหญ่และข่าวด่วนมากเมื่อ CrytoNews รวมถึงสื่อต่างชาติรายงานข่าวว่า YouTube เริ่มทำการบล๊อก และ ลบวิดีโอในช่องต่างๆ ของ YouTuber หลายรายที่ทำวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัล
ข่าวนี้ได้มีการส่งต่อแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วใน Twitter และ Reddit โดยหนึ่งใน YouTuber สายคริปโตฯ คนแรก ๆ ที่เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในช่องของตัวเองจากการแบนในครั้งนี้ก็คือ Ben Perrin Marketing Director ของ Bull Bitcoin และเขายังมีช่อง YouTube ให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับ Cryptocurrency ซึ่งเขาทำมากว่า 3 ปีแล้ว และมีจำนวนผู้ติดตามมากกว่า 31,500 คน
นอกจากนี้ยังมี YouTuber รายอื่น ๆ อีกหลายรายที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับคริปโตหรือเงินดิจิทัล เช่น Chris Dunn ซึ่งเป็น content creator ที่มีชื่อเสียงในวงการคริปโตมานานก็ทวีตว่าวิดีโอของเขาก็ถูกบล๊อกด้วยเหตุผลในลักษณะเดียวกัน
ส่วนช่อง YouTube ของ Ivan on Tech ซึ่งเปิดช่องมานานกว่า 10 ปี และมีผู้ติดตามกว่าสองแสนราย และยอดวิวหลายล้านครั้งก็ทวีตว่าวิดีโอของเขาก็ถูกบล๊อก ตามภาพที่เห็นคือวิดีโอใน playlist ทั้งหมดในช่องของเขาไม่สามารถรับชมได้ ทุกวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคริปโตจะขึ้นข้อความว่า Video unavailable
เหตุผลที่ทาง YouTube แจ้งกลับมาหลังจากมีการไล่ลบคลิปวิดีโอออกจากช่อง คือ
Content ต่าง ๆ เหล่านี้ ถือเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ของ YouTube ถึงกับ ถือเป็นเนื้อหาที่อันตรายและเป็นภัย ซึ่งหาก YouTuber รายใดที่ถูกลบคลิปแต่ยังพยายามฝ่าฝืนโพสต์เนื้อหาในลักษณะนี้อีก อาจรุนแรงถึงขั้นถูกแบนหรือโดนปิดช่องได้
หลังจากมีการแชร์เรื่องราวนี้ออกไป ก็มีการถกเถียงตามมาในโลกออนไลน์ถึงเหตุผล และการกระทำของ YouTube ว่าเกิดจากสาเหตุใด อะไรอยู่เบื้องหลัง และเป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ กับการใช้ข้อกล่าวหาที่รุนแรงระดับนี้ เมื่อเทียบกับหลักเกณฑ์ของชุมชน ที่ผลิตเนื้อหาในลักษณะนี้มาตลอดหลายปี
มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แตกต่างกันไปเช่น เกิดความผิดพลาดกับระบบคัดกรองเนื้อหาของ YouTube หรือมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายระบบคัดกรองเนื้อหาที่เกี่ยวกับคำว่า ‘ICO’ ซึ่งยังไม่ชัดเจนในเรื่องกฏระเบียบ ข้อบังคับทางกฏหมาย
YouTuber รายหนึ่งที่ชื่อ Omar Bham เจ้าของช่อง Crypt0 ตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการโจมตี Cryptocurrency โดยกล่าวในวิดีโอของเขาว่า YouTube และ Google อาจถูกแรงกดดันจากรัฐบาล หน่วยงานกำกับดูแล หรือกลุ่มอำนาจเก่าภาคการเงินการธนาคาร ที่อยากหยุดกระแสความนิยมของ Crypto และ Blockchain ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเสียผลประโยชน์จำนวนมหาศาลของกลุ่มคนบางกลุ่ม ฯลฯ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนี้ คือเริ่มมีการประท้วงจากกลุ่ม YouTuber และผู้ติดตามจำนวนมาก ที่เริ่มมีการพูดถึงการย้ายช่องออกจาก YouTube ไปอยู่บน Platform อื่นอย่าง LBRY, DLive ฯลฯ ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง ทำให้ปราศจากตัวกลางหรือผู้ควบคุม มีมาตราฐาน และสัดส่วนในการแบ่งผลประโยชน์ระหว่างศิลปิน หรือ ผู้ผลิตเนื้อหา ที่เป็นธรรมมากขึ้นกว่าเดิม
ผลของการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรกับเหล่า YouTuber (สายคริปโตฯ) รวมไปถึง YouTube ที่ตัดสินใจเลือกใช้มาตราการเด็ดขาดในเรื่องนี้ จะส่งผลดีหรือร้ายในระยะยาวคงต้องติดตามดูกันต่อไป