กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ มือถือจาก sanook hitech อีกครั้ง สำหรับรอบนี้ขอนำเสนอ Lenovo Z6 Pro หลังจากที่รีวิวรุ่นเริ่มต้นอย่าง A6 Note กันไปแล้ว ด้วยสเปกของรุ่นนี้ท็อปจริงกับ Snapdragon 855 มาดูกันว่าจะตอบสนองได้ดีขนาดไหน

แกะกล่อง Lenovo Z6 Pro

ภายในกล่องของ Lenovo Z6 Pro จะประกอบไปด้วย

ตัวเครื่อง Lenovo Z6 Pro
สาย USB-C to USB-C
ที่ชาร์จกำลัง 18W (รองรับ USB-C)
คู่มือ / ใบรับประกัน
เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
เคสใส

รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Lenovo Z6 Pro

เริ่มต้นกับหน้าจอของเครื่องรุ่นนี้จะมีขนาด 6.39 นิ้วเท่านั้น ซึ่งถือว่าไมได้มีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป แต่ขนาดของเครื่องค่อนข้างเล็กพอสมควร

ขณะที่ส่วนบนของหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมกับเซนเซอร์และ ลำโพงสำหรับฟังสนทนา และมีแทบแจ้งเตือนในหน้าจอ

ส่วนล่างสุดมีปุ่มควบคุมที่สามารถเปลี่ยนเป็นแบบ Gesture Control หรือการปัดขึ้น หรือ ลงได้เช่นเดียวกัน และมี ป่มแบบที่คุณเห็นอยู่นี้ ทุกอย่างตั้งค่าได้ใน Setting > 4D U-Touch

sa_z6pro_bimg_20200120_180157
sa_z6pro_bimg_20200120_180309

รอบตัวเครื่องของเครื่องจะมาพร้อมกับบอดี้โพลี่คาร์บอนเนต มาพร้อมกับบอดี้ที่เงางามและสวยไม่น้อยเลยทีเดียวประกอบไปด้วย ฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ด้านล่าง พร้อมกับ Micro SD ที่ไว้สลับกับซิมการ์ดใบที่ 2

ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับเปิด / ปิด ตัวเครื่อง

ส่วนบนมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟัง, ไมโครโฟนและเซนเซอร์

ส่วนล่างของเครื่องจะมาพร้อมกับไมโครโฟน, ลำโพงตัวเครื่อง และ USB-C

ด้านหลังมาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวมาพร้อมกับ LED Flash พร้อมกับส่วนที่กล้องอยู่จะมีเส้นสีแดงเพื่อบอกโทนสีระหว่าแดงกับดำที่ตัดกันได้อย่างลงตัวพร้อมกับโลโก้ Lenovo แนวตั้งที่ดูดีไม่น้อย

ภาพรวมของดีไซน์ / น้ำหนัก / สีสันที่เข้ามาจำหน่าย

การออกแบบของเครื่องถือว่าออกแบบได้กำลังดีถือได้ง่าย และจับได้ดีแต่ว่าอาจจะลื่นไปหน่อยเมื่อเทียบกับการใช้งานด้านการถ่ายภาพเป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สีสันของเครื่องถือว่าเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งได้เลยครับ

ส่วนสีสันมาทั้งหมด 2 สีคือ สีแดง / ดำ และสี เขียว / ดำ แล้วแต่จะเลือกครับ

เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ Lenovo Z6 Pro

สเปกของ Lenovo Z6 Pro

ขนาด: 157.5 x 74.6 x 8.7 มิลลิเมตร

หนัก: 185 กรัม
หน้าจอแสดงผล : ขนาดประมาณ 6.39 นิ้ว เป็นแบบ Super AMOLED ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล
ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 855 / GPU: Adreno 640
RAM : 8 GB
ROM : 128 GB

ความจำเสริม : Micro SDXC ความจุ 512GB
ระบบปฏิบัติการ: Android 9 ครอบทับด้วย ZUI 11.1
WiFi 802.11 AC (Dual Band)
Bluetooth 5.0
การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G LTE-A

กล้องหลัง 4 ตัว:
กล้องตัวแรก มุมมองกว้าง ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, F/1.8
กล้องตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล,F/1.8
กล้องตัวที่สามเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F2.4
กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ไว้สำหรับถ่ายวิดีโอ
มีเซนเซอร์ 3D ToF Camera
กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล
รองรับ: สแกนนิ้วบนหน้าจอ( fingerprint )
รองรับ : nano SIM Dual SIM + Micro SD (Hybrid Slot)

มาตรฐานระดับการกันน้ำ -
แบตเตอรี่ : Li-Po 4000 mAh รองรับ Fast Charge 18W
สี: Red, Blue/Green

การทดสอบประสิทธิภาพ

ผลการทดสอบจาก Antutu = 423961 คะแนน

ผลการทดสอบจาก Geekbench 5 = Single Core = 727 คะแนน | Multi Core = 2621 คะแนน

เมื่อเห็นคะแนนของเครื่องออกมาแบบนี้ถือว่าทำได้ดีเหมือนกันครับเพราะ ขุมพลังอย่าง Qualcomm Snapdragon 855 และมาพร้อมกับ GPU ที่มีประสิทธิภาพ ส่วนในในเรื่องของการเล่นเกมต่างๆ ผมให้ความเห็นว่า ยังคงให้ผลคาดหวังที่ดี แต่หน้าจอยังไม่ใช่ 90Hz บางเกมอาจจะยังไม่ดึงประสิทธิภาพของเครื่องมาเท่ากับเกมหรอก แต่ผมว่าเท่านี้ก็ใช้ได้

การทดสอบระบบเชื่อมต่อ / ใช้นำทาง

การเชื่อมต่อรองรับ WiFi AC, 4G LTE-A, Bluetooth 5.0 และรองรับการบอกสัญญาณ GPS ทั้ง A-GPS และ GPS ที่ให้ความแม่นยำสูงเหมือนกันครับ

การทดสอบการแสดงผลภาพ / ระบบเสียง

หน้าจอแบบ Super AMOLED รองรับความละเอียด Full HD ให้สีสันที่สวยงามและคมชัดเจนแบบไม่ผิดหวังเลยครับ แต่การตอบสนองเล่นเกมต้องทำใจ มือถือรุ่นนี้ไม่ได้ออกแบบเพื่อให้เล่นเกมตั้งแต่แรก แต่ถ้าเอาไปชมภาพยนตร์ถือว่าสอบผ่านเลยครับ

ส่วนระบบเสียงมีการติดตั้ง Dolby ATMOS แต่ให้ลำโพงเครื่องมาตัวเดียว อาจจะน้อยไปหน่อย อย่างไรก็ตาม การรองรับทั้ง FM Radio และ Media File อย่างมากมาย

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย

ในเรื่องระบบปฏิบัติการของเครื่องรุ่นนี้รองรับ Android 9 (Pie) มาพร้อมกับ ZUI 11.1 ที่ปรับปรุงการทำงานใหม่เรียบง่ายใช้งานไดีดีไม่น้อย และยังมีกลิ่นอายของ Pure Google มาเล็กน้อย สิ่งที่ยังต้องลุ้นคือการอัปเดตนั่นเอง

ฟีเจอร์ต่างๆ เน้นพื้นฐานให้ครบทั้งเครื่องอัดเสียง, เครื่องคิดเลข, วิทยุ, โปรแกรมเชื่อมต่อเช่น SYNCit หรือถ้าต้องการเพิ่มก็สามารถโหลดเพิ่มได้ผ่าน Google Play Store

แต่ว่าเรื่องที่ดูเหมือนจะ OK คือระบบความปลอดภัย เพราะให้ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอที่ทำงานได้รวดเร็ว แต่ต้องสแกนตั้งแต่แรกให้แม่นยำ แต่ที่ไม่ OK คือระบบสำรองเช่นการสแกนใบหน้า กลับไม่ใส่มาให้

เปิดกล้องของ Lenovo Z6 Pro

สำหรับกล้องหลังของเครื่องรุ่นนี้มีทั้งหมด 4 ตัวประกอบไปด้วย

กล้องตัวแรก มุมมองกว้าง ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, F/1.8
กล้องตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล,F/1.8

กล้องตัวที่สามเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F2.4
กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ไว้สำหรับถ่ายวิดีโอ

ทำงานร่วมกับระบบ Auto Focus และ LED Flash ส่งผลให้ภาพรวมออกมาถือว่าทำงานได้ดีและไม่มีปัญหาและถือว่าสเปกได้

ฟีเจอร์ของกล้อง Lenovo Z6 Pro

ในส่วนโหมดของกล้องจะแต่ต่างจากมือถือรุ่นอื่นๆ โดยสามารถเปลี่ยนเป็นโหมดถ่ายภาพและวิดีโอ หากกดที่กล่องรูปทรง 8 เหลี่ยม เพื่อเปลี่ยนโหมดการทำงาน และ HDR ที่เหมาะสม และนอกจากนี้จุดอ่อนของเมนูที่น่าสนใจคือ ซูมจะใช้ยากไปหน่อย

ตัวอย่างภาพถ่าย

ภาพกลางวัน : ด้วยความที่รูรับแสงค่อนข้างกว้างพอสมควรเลยทำให้กล้องถ่ายภาพรุ่นนี้ใช้ได้เลยครับ

sa_z6pro_cimg_20200111_202826
sa_z6pro_cimg_20200111_202834
sa_z6pro_cimg_20200111_203608
sa_z6pro_cimg_20200111_203833

ภาพกลางคืน : เห็นรายละเอียดที่ชัดเจน สีสันและรายละเอียดถือว่าสอบผ่านได้สบาย

sa_z6pro_cimg_20200103_185247
sa_z6pro_cimg_20200111_174035
sa_z6pro_cimg_20200111_202441
sa_z6pro_cimg_20200111_202834

ภาพถ่ายอื่นๆ : ในโหมดของ Lenovo Z6 Pro มีทั้ง Marco, มุมกว้าง, พาโนราม่า โหมดโปร เป็นต้น

การถ่ายวิดีโอด้วย Lenovo Z6 Pro เป็นอย่างไร

สำหรับ Lenovo Z6 Pro สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K แบบ 30FPS และ Full HD ความละเอียด 60 FPS ถือว่าใช้ได้และยังติดตั้งระบบป้องกันภาพสั่นไหว EIS และมีหลากหลายเรื่องทั้ง VLOG และพร้อมกับ Sport Mode จะรองรับการถ่ายวิดีโอได้ดีพอสมควร

กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพเป็นอย่างไร

กล้องหน้า Lenovo Z6 Pro มาพร้อมกับสเปกของกล้องหน้าที่เรียกว่าจัดเต็มพอสมควรเลยครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ UI ที่เหมือนกับกล้องหลัง ภาพถ่ายออกมาถือว่าสวยไม่แพ้กัน

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

สุดท้ายกับเรื่องแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ให้มาขนาด 4000 mAh ผลการทดสอบสามารถใช้งานได้ราวๆ 12 ชั่วโมงผ่านโปรแกรม PCMark ถือว่าทำระดับหนึ่ง แต่เมื่อใช้งานจริงแล้ว พบว่าถ้าไม่ได้เล่นเกมหนักมาก ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ถ้ามีการประมวลผลของ CPU ที่ดุเดือนก็มีสิทธิ์ที่แบตเตอรี่จะหมดเร็วได้เช่นเดียวกัน

ส่วนระบบชาร์จไฟรองรับกำลังที่ 18W เท่านั้น ดูไปแล้วน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับสเปกเครื่องแบบนี้ แต่เหตุผลก็เพราะตอบแค่ ต้นทุนครับ

สรุปหลังจากทีม sanook hitech ได้ทดลองใช้ Lenovo Z6 Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง

Lenovo Z6 Pro ถือว่าเป็นตระกูลมือถือเรือธงจับต้องได้ง่ายและสเปกถือว่าแรงฟีเจอร์เพียงพอ หน้าจอสวยและเหมาะกับใครหลายคนไม่น้อย เพราะราคาของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ 10,990 บาท

เรียกได้ว่าเป็นการกลับมานอกจากรุ่นเล็กสุดอย่าง A6 Note ที่รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้วมาเจอรุ่นนี้เลยก็ถือว่าเป็นความลงตัวที่ดีไม่น้อยเลยครับ ยกเว้นว่ามันวางขายช้าไปหน่อยเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ผมว่าเป็นขุมพลังเรือธงที่ได้ความคุ้มค่าอยู่ไม่เบาครับ

จุดเด่น

ขนาดเครื่องพอดีมือ

สเปกเครื่องจัดว่าแรงใช้ได้เลยครับ
สีสันเครื่องสวย
หน้าจอให้สีสันที่สวยและคมชัด
กล้องครบเครื่องและถ่ายภาพสวย
แบตเตอรี่อึดใช้งานได้นาน

ข้อสังเกต

เมนูกล้องซับซ้อนต้องอาศัยความคุ้นเคย
การเช้าตลาดช้าไปหน่อย
เครื่องจะร้อนเร็วเมื่อใช้งานหนักๆ
ไม่มีระบบสแกนใบหน้า

อัลบั้มภาพ [Review] Lenovo Z6 Pro มือถือสเปกเครื่องแรงจัด กล้องครบครัน ในงบหมื่นต้นๆ ก็ซื้อได้ ภาพที่ 12 / 15

[Review] Lenovo Z6 Pro มือถือสเปกเครื่องแรงจัด กล้องครบครัน ในงบหมื่นต้นๆ ก็ซื้อได้