สรุปสเปกของ “Samsung Galaxy S20, Galaxy S20+ และ Galaxy S20 Ultra” ก่อนเปิดตัวคืนนี้
นับถอยหลังสำหรับการเปิดตัว Samsung Galaxy S20 Series จะประกอบไปด้วย Galaxy S20, Galaxy S20 Plus และ Samsung Galaxy S20 Ultra คาดว่าจะมาเวอร์ชั่น 5G แต่ก่อนที่จะถึงเวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการทีม sanook hitech จะมาอัปเดตข้อมูลของ Samsung Galaxy S20 Series ให้ชัดก่อนเปิดตัว โดยมีข้อมูลดังนี้
Samsung Galaxy S20
เริ่มต้นกับ Samsung Galaxy S20 ซึ่งมาแทน Galaxy S10e รุ่นเล็ก ที่มาครบทั้งกล้องหลังแม้ว่าจะยังคงใช้กล้องตัวเดียวที่ถือว่าดีอยู่แล้ว แต่มีการเปลี่ยนแปลงเลนส์ Telephoto ที่ซุมได้มากขึ้น สีสันดูสะอาดตาและตัวเครื่องจะไม่ได้ใช้หน้าจอโค้งรวมไปถึง Galaxy S20+ เช่นเดียวกัน และหน้าจอตอบสนองได้รวดเร็วเพราะค่า Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz และจะเป็นรุ่นที่ราคาเบาที่สุด โดยในยุโรปอาจจะอยู่ที่ประมาณ 30,800 บาท แต่ประเทศไทยคงต้องลุ้นกันต่อไป
สเปกคร่าวๆ ของ Samsung Galaxy S20
- หน้าจอ DynamicAMOLED 6.2″ 3200 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.2 นิ้วความละเอียดระดับ 2K พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
- ขนาดตัวเครื่อง 152 x 68 x 7.9 มม.
- น้ำหนัก 164 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 865
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 128GB รองรับการเพิ่มความจำภายนอกสูงสุด 1TB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Tele 3x ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (Digital Zoom 30x), เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
- ระบบปลดล็อค Face Recognition Ultrasonic Fingerprint
- แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh
- รองรับ Fast Charge 25W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
- Samsung Galaxy S20 (8 GB/128 GB) : 899 ยูโร (ประมาณ30,800 บาท)
- Samsung Galaxy S20 5G (12 GB /128 GB) : 999 ยูโร (ประมาณ 34,200 บาท)
- สี เทา, ฟ้า, ชมพู
Samsung Galaxy S20+
พี่กลางของตระกูลที่มาต่อยอดจาก Galaxy S10 และ S10 Plus จะมีการเปลี่ยนแปลงที่หน้าจอใหญ่ขึ้นสเปกคาดว่าดีขึ้นกว่าเดิม กับราคาเครื่องต้องทำใจว่าสูงขึ้นแน่นอน แต่ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ดีกว่าเดิม ด้วยกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวและสามารถซูมแบบ Digital Zoom ได้มากถึง 30 เท่า และมีเซนเซอร์วัดความลึกและตื่น หรือ ToF Sensor พร้อมกับรองรับที่ชาร์จกำลังสูงกว่าเดิม เรียกได้ว่าถ้าใครต้องการมือถือจัดเต็มเรื่องกล้อง แต่ไม่อยากจ่ายแพงไปถึง Galaxy S20 Ultra นี่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมากเลยครับ
สเปกคร่าวๆ ของ Samsung Galaxy S20+
- หน้าจอ DynamicAMOLED 6.7″ 3200 x 1440 พิกเซล WQHD+ (HDR10+) ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
- ขนาดตัวเครื่อง 162 x 74 x 7.8 มม.
- น้ำหนัก 188 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 865
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 128GB รองรับการเพิ่มความจำภายนอกสูงสุด 1TB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Tele 3x ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (Digital Zoom 30x), เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ ToF (Time-of-Flight) สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
- ระบบปลดล็อค Face Recognition Ultrasonic Fingerprint
- แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh
- รองรับ Fast Charge 25W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
- Samsung Galaxy S20+ (8 GB/128 GB) : 999 ยูโร (ประาณ 34,200 บาท)
- Samsung Galaxy S20+ 5G (12 GB/128 GB) : 1,099 ยูโร (ประมาณ 37,700 บาท)
- สี ดำ, เทา, ฟ้า
Samsung Galaxy S20 Ultra
ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดของ Samsung Galaxy S ในปีนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเพราะหน้าจอมาพร้อมกับ 6.9 นิ้วความละเอียดหน้าจอความละเอียดแทบจะเรียกว่า 4K เลยดีกว่า กับตัวเครื่องที่พร้อมกับกล้องหลังจัดหนักโดยมีกล้องที่เรียกว่า Space Zoom การถ่ายแบบซูมที่สามารถทำได้ทั้ง 10 เท่าแบบ Optical Zoom และ 100 เท่า สำหรับ Digital Zoom หรือ Samsung จะเรียกว่า Space Zoom พร้อมกับกล้องหลังจะมีการทำงานที่เปลี่ยนไปและขัดเกลาสีที่สวยงามมากขึ้น ผ่านเทคโนโลยี NonaCELL ความละเอียดกล้องจะมากถึง 108 ล้านพิกเซล
และข่าวลือของรุ่นนี้ที่สำคัญคือจะมาพร้อมกับเวอร์ชั่น 5G เท่านั้น รวมถึงการตรวจสอบจาก กสทช ก็ระบุว่ารุ่นนี้รองรับแต่ 5G เช่นเดียวกัน ดังนั้นใครที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนปลงมากที่สุด รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์อย่างมากเลยทีเดียว แต่ราคาอาจจะต้องทำใจเพราะจะทำลายสถิติของ Galaxy S10 แน่นอน
สเปกคร่าวๆ ของ Samsung Galaxy S20 Ultra
- หน้าจอ DynamicAMOLED 6.9″ 3200 x 1440 พิกเซล WQHD+ (HDR10+) ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
- ขนาดตัวเครื่อง 167 x 76 x 8.8 มม.
- น้ำหนัก 221 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 865
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB / 16GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 128GB / 512GB รองรับการเพิ่มความจำภายนอกสูงสุด 1TB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล, เลนส์ Tele 10x ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล(Digital Zoom 100x), เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, กล้อง ToF (Time-of-Flight) สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
- ระบบปลดล็อค Face Recognition Ultrasonic Fingerprint
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
- รองรับ Fast Charge 45W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
- Samsung Galaxy S20 Ultra 5G (12 GB/128 GB) : 1,349 ยูโร (ประมาณ 46,300 บาท)
- Samsung Galaxy S20 Ultra 5G (16 GB/512 GB) : 1,549 ยูโร (ประมาณ 53,100 บาท)
- สี ดำ, เทา
สุดท้ายนี้ ถือว่าเป็นมือถือที่สุดของ Samsung เลยก็ว่าได้ ที่จัดหนักจัดเต็มเกี่ยวกับกล้องและสเปกรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจเหมือนเคย แต่ว่า รุ่นไหนจะเข้าในประเทศไทยลุ้นกันในเช้าที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสัมผัสเครื่องรุ่นดังกล่าวแล้วจะนำมาเล่าในลำดับถัดไปครับ
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ