เปิดตัว HUAWEI P40 Series สมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อปฏิวัติวงการถ่ายภาพประจำปี 2020

เปิดตัว HUAWEI P40 Series สมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อปฏิวัติวงการถ่ายภาพประจำปี 2020

เปิดตัว HUAWEI P40 Series สมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อปฏิวัติวงการถ่ายภาพประจำปี 2020
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อีกมือถือรุ่นหนึ่งที่ตอนนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Huawei P40 Series ที่แน่นอนว่าวันนี้ครอบครัว P Series จูงมือกันมาเปิดตัวด้วยกันถึง 3 รุ่นประกอบไปด้วย HUAWEI P40, HUAWEI P40 Pro และพี่ใหญ่สุดอย่าง HUAWEI P40 Pro+

เอาเป็นว่าเปิดตัวก็แล้วราคาก็เห็นแล้วเรามาไล่ดูกันดีกว่าว่าทั้ง 3 รุ่นมีความโดดเด่นแล้วจัดว่าเด็ดขนาดไหน?

การดีไซน์ของเครื่องที่รอบนี้จัดมาใหม่สุดเพราะทุกรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอไร้ขอบ ไร้ติ่งแบบ HUAWEI Quad-Curve Display แบบใหม่นั้นเอง

มาลงรายละเอียดกันต่อครับ เริ่มต้นกับรุ่นใหญ่อย่าง HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI P40 Pro+ ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.58 นิ้ว Flex OLED ให้ความละเอียดสูงระดับ 2640x1200 มากกว่ารุ่นเดิมชัดเจน พร้อมกับการตอบสนองที่ Smooth มากขึ้นในแบบ Refresh Rate 90Hz และอัตราส่วนหน้าจอ 19.8:9 ให้การแสดงผลสี DCI-P3 HDR และลดแสงสีฟ้าได้เช่นเดียวกัน พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือ แต่ถ้าเป็นน้องเล็กอย่าง HUAWEI P40 P40 จะมาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดเล็กกว่านิดหน่อยคือมาพร้อมกับหน้าจอ 6.1 นิ้ว แต่ยังได้หน้าจอแบบ OLED เหมือนกัน 

Huawei P40 Series

ขอบหน้าจอเป็นโค้งทั้งหมด และขอบหน้าจอยังดูเรียบไปกับเครื่องไม่ว่าจะจับมุมไหน ขอบหน้าจอจะบางเพียง 1.7 มิลลิเมตร และ ขอบบนและล่างหน้าจอบางเพียง 2.4 มิลลิเมตร ถือว่าบางพอสมควรเลยทีเดียว   

Huawei P40 Series
Huawei P40 Series

ในการเปิดตัวของมือถือรุ่นนี้มีการใช้เทคโนโลยี Nano-Tech Ceremic สำหรับด้านหลังในรุ่น Pro Plus ทำให้ดูแข็งแรงแต่กว่าจะใช้ผลิตได้ก็ 5 วัน ต่อ 1 แผ่น แต่รุ่นที่เหลือใช้กระจกธรรมดาและเติมสีสันแบบสุดขีด 

Huawei P40 Series

การวางกล้องเน้นความสมดุลมากขึ้นและมีการออกแบบให้ดู พรีเมี่ยมมากขึ้น ทำให้ถือแล้วดูโปรฯ มากขึ้น  

 Huawei P40 Series

ส่วนสีสัน แบ่งออกเป็น 

Huawei P40 Series

Huawei P40 และ P40 Pro : Ice White, Deep Sea Blue, Matte Black, Sliver Forst, Blush Gold  

Huawei P40 Series

Huawei P40 Pro Plus : Ceramic White และ Ceramic Black 

ฟีเจอร์ และสเปกของ Huawei P40 Series

สเปกของ Huawei P40  

  • หน้าจอ OLED ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล ขนาด 6.1 นิ้ว    
  • ขนาดตัวเครื่อง:  148.9 x 71.1 x 8.5 มม.    
  • น้ำหนัก:  175 กรัม    
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Kirin 990 5G | Mali G76MP16 
  • หน่วยความจำ:  RAM ขนาด 8GB  
  • หน่วยความจำภายในความจุ:  128GB  
  • หน่วยความจำภายนอก 
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล    
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น  
  • กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, RYYB
  • เลนส์ Tele 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Optical 3X 
  • เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล    
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP53 
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Opical 
  • แบตเตอรี่ความจุ 3800mAh    
  • รองรับ Fast Charge 22.5W (แบบสาย) 
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 ไม่มี Google Mobile Service 
  • ราคาในประเทศไทย: (ยังไม่ระบุ) ส่วนราคายุโรป €799 หรือประมาณ28,550 บาท
  • สี: Ice White, Deep Sea Blue, Matte Black, Sliver Fors และ Blush Gold 

สเปกของ Huawei P40 Pro  

  • หน้าจอ OLED ความละเอียด 1200 x 2640 พิกเซล ขนาด 6.58 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz    
  • ขนาดตัวเครื่อง:  158.2 x 72.6 x 9 มม.    
  • น้ำหนัก:  203 กรัม    
  • ชิปเซ็ตประมวลผล:  Kirin 990 5G | Mali G76MP16 
  • หน่วยความจำ:  RAM ขนาด 8GB  
  • หน่วยความจำภายในความจุ:  256GB  
  • หน่วยความจำภายนอก Nano Memory 
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล    
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น  
  • กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F1.9 RYYB, OIS
  • เลนส์ Telephoto แบบ Periscope ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล Optical 5X ซูมได้สูงสุด 50 เท่า 
  • เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล    
  • เลนส์ 3D ToF Sensor 
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Opical 
  • แบตเตอรี่ความจุ: 4200mAh    
  • รองรับ Fast Charge 40W (แบบสาย) Wireless Charge 27W พร้อมระบบ Reverse Wireless Charging 
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 ไม่มี Google Mobile Service 
  • ราคาในประเทศไทย : (ยังไม่ระบุ) ส่วนราคายุโรป €999 หรือประมาณ 35,697 บาท
  • สี:  Ice White, Deep Sea Blue, Matte Black, Sliver Forst และ Blush Gold 

สเปกของ Huawei P40 Pro+

  • หน้าจอ OLED ความละเอียด 1200 x 2640 พิกเซล ขนาด 6.58 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz    
  • ขนาดตัวเครื่อง 158.2 x 72.6 x 9 มม.    
  • น้ำหนัก 226 กรัม    
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Kirin 990 5G | Mali G76MP16 
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB  
  • หน่วยความจำภายในความจุ 512GB  
  • หน่วยความจำภายนอก Nano Memory 
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล    
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 5 ตัว แบ่งออกเป็น  
  • กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F1.9 RYYB OIS
  • เลนส์ Telephoto แบบ Periscope ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล Optical 10X ซูมได้สูงสุด 100 เท่า 
  • เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล    
  • เลนส์ 3D ToF Sensor 
  • เลนส์ Telephoto 3X ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Opical 
  • แบตเตอรี่ความจุ 4200mAh    
  • รองรับ Fast Charge 40W (แบบสาย) Wireless Charge 40W พร้อมระบบ Reverse Wireless Charging 
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 ไม่มี Google Mobile Service 
  • ราคาในประเทศไทย : (ยังไม่ระบุ)  ส่วนราคายุโรป €1,399 หรือประมาณ 50,000 บาท
  • สี: Ceremic White และ Ceremic Black 

 
Huawei P40 Series

ด้านสเปกมีความคล้ายกับ Huawei Mate 30 Pro 5G เพราะเลือกใช้ Kirin 990 รองรับ 5G และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นก็ไม่ได้แตกต่างจาก Huawei Mate 30 Pro ที่จัดหนักจัดเต็มเรื่องนี้ แต่เรื่องที่น่าสังเกตคือ แบตเตอรี่ของทั้งคู่ ให้ขนาดใหญ่ โดย P40 ให้ขนาด 3800 mAh, Huawei P40 Pro และ P40 Pro Plus ให้ขนาด 4200 mAh ซึ่งเทียบเท่ากับ รุ่นที่แล้วแต่ถ้ารุ่น P40 Pro Plus รองรับกำลังชาร์จไฟไร้สาย 40W 

Huawei P40 Series

Huawei P40 Series

การรองรับ 5G ของ P40 Series สามารถรองรับได้ทั้ง SA และ NSA กับเทคโนโลยีในอนาคต และรองรับ eSIM ทำให้ตัวเครื่องใส่ซิมการ์ดได้สูงสุด 3 ใบ และสลับเป็น Nano Memory ได้ด้วย และยังรองรับ WiFI 802.11 AX หรือ WiFi 6 ได้เช่นเดียวกัน 

Huawei P40 Series

ระบบปฏิบัติการ มาพร้อมกับ Android 10 และครอบด้วย EMUI 10.1 เปลี่ยนแปลงหลายจุดทั้ง 

  • การแสดง Wallpaper ในหน้าล็อกสกรีน 
  • Always On Display มีมิติมากขึ้น 
  • การปัดเป็นธรรมชาติที่ดูง่ายกว่าเดิม 
  • การเปลี่ยน Multi Window ทำได้ง่ายแค่ Drag and Drop และสามารถทำได้มากถึง 3 หน้า และยังใช้ตอบข้อความผ่านการดูวิดีโอได้ด้วย 

Huawei P40 Series

  • การต่อเชื่อมต่อเชื่อมกับ Ai Life ผ่าน Celia คำสั่งเสียงใหม่ของ Huawei สั่งตั้งแต่ตั้งปลุก, การทำงานของเครื่อง ค้นหาสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย 
  • ควบคุมง่ายผ่าน Multi Device Control Panel และลากขึ้นมาสั่งได้อุปกรณ์เช่นย้ายการโทรไปอยู่ที่ทีวีระหว่าง Video Call ก็ได้เป็นต้น 

Huawei P40 Series
Huawei P40 Series

  • Mee Time การโทรที่มีวิดีโอที่มีความละเอียดสูงและสามารถใช้งานทั้ง Screen Shairing หรือจะส่งออกหน้าจอ และอื่นๆ รวมถึงการปรับแต่งเสียง 

Huawei P40 Series
Huawei P40 Series

  • Huawei Share ส่งภาพและวิดีโอได้ง่าย และรวมถึง Drag and Drop ข้อมูลได้เช่นเดียวกัน และรวมถึงการเอา Screen ขึ้น เชื่อมต่อทั้ง WiFi, เชื่อมต่อลำโพงที่รองรับ และอื่นๆ อีกมากมายที่จะใช้ได้ในอนาคต 

Huawei P40 Series

  • Cross Device Photo Gallery สามารถดูภาพจากอุปกรณ์อื่นของ Huawei ที่ลงทะเบียนโดยอุปกรณ์ของคุณ 

Huawei P40 Series

  • HMS หรือ Huawei Mobile Service แม้ว่าจะไม่มี Google แต่ในเรื่องของการใส่ Apps ใน Huawei Apps Gallery ยังคงรองรับและมีผู้ใช้มากขึ้น โดยมีประเทศรองรับกว่า 170 ประเทศ, 400 ล้านคนที่ใช้งาน และมีนักพัฒนากว่า 1.3 ล้านคน ซึ่งแบ่งออกเป็นทั้ง Quick Apps และ Apps ปกติ แถมยังมี สำนักข่าวชื่อดัง รวมไปถึง เกมต่างๆ เริ่มเข้ามา 

ในเรื่องของกล้อง  

 ความสามารถของกล้องในตัว Huawei P40 Series ไม่ได้ทิ้งติดตั้งมาให้ครบเครื่อง แบ่งออกเป็น  

Huawei P40  

Huawei P40 Series

  • กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ RYYB F1.9 
  • เลนส์ Tele 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Optical 3X 
  • เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F2.2 
  • มีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิของสีมาให้ 8 Multi Color LED 

Huawei P40 Pro 

Huawei P40 Series

  • กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล,  เซนเซอร์ RYYB F1.9 
  • เลนส์ Telephoto แบบ Periscope ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล Optical 5X ซูมได้สูงสุด 50 เท่า  
  • เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล     
  • เลนส์ 3D ToF Sensor 

สเปกกล้องคล้ายกับรุ่นเดิมก็จริงแต่มีการอัปเกรดเซนเซอร์ใหม่ทำให้การถ่ายภาพและนั้นรองรับในรูปแบบต่างๆ ได้และยังเก็บรายละเอียดได้มากพอสมควร  

Huawei P40 Pro Plus 

Huawei P40 Series

  • กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล,  เซนเซอร์ RYYB F1.9 
  • เลนส์ Telephoto แบบ Periscope ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล Optical 5X ซูมได้สูงสุด 50 เท่า  
  • เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล     
  • เลนส์ 3D ToF Sensor 
  • กล้องซูม ตัวที่ 2 แบบ 3 เท่า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 

Huawei P40 Series
Huawei P40 Series
Huawei P40 Series

นอกจากเรื่องพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น รองรับทั้งแบบ Octa PD ที่เก็บรายละเอียดได้ดีแล้วยังมาพร้อมกับ ISO รองรับมากถึง 4096K  เมื่อลองดูแล้ว Huawei P40 สามารถถ่ายภาพได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะไม่ต้องใช้รูรับแสงเวลาถ่ายภาพกลางคืนใหม่มาก 

Huawei P40 Series

Huawei P40 Series

แต่ความพิเศษคือ Huawei P40 Pro Plus ติดตั้งกล้องหลังซูมได้ 10 เท่า ในแบบ Optical Zoom 20 เท่าแบบ Hybrid Zoom, 100X ในแบบ Digital Zoom พร้อมกับ Dual Axis OIS และรองรับการซูมทั้ง เซนเซอร์แบบ RYYB ข้อดีคือการเก็บรายละเอียดที่ดีขึ้น 

Huawei P40 Series

มาพร้อมกับเซนซอร์ AI ใหม่ที่เรียกว่า Golden Snap สามารถรู้ถึงการถ่ายภาพของคุณย้อนหลัง และปรับแต่งภาพโดยอัตโนมัติ แถมยังลบวัตถุ หรือ คนออกไปได้ 

Huawei P40 Series

เรื่องการถ่ายวิดีโอ มีการต่อยอดจาก Huawei Mate 30 Pro ที่เคยทำได้ดีอยู่แล้ว ติดตั้ง Pixel Fusion ที่ติดตั้ง รับสีได้มากถึง 16 สีต่อ 1 พิกเซล ทำให้การถ่ายกลางคืนได้และรองรับ Time Lapse Zoom เข้าไปได้ด้วย และการถ่าย 4K Timelapse ได้เช่นเดียวกัน แถมด้วย Ultra Slow Motion เท่ากับ Mate 30 Pro  

Dual-View Video สามารถถ่ายภาพได้ทั้งกล้องตัวหลัก และซูมเข้าไปได้  

Huawei P40 Series

ติดตั้งไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวและมีการจัดการให้เสียงมาได้รอบทิศและตัดเสียงรบกวนได้ด้วยเช่นเดียวกัน 

Huawei P40 Series

Huawei P40 Series

ส่วนกล้องหน้าให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบปลดล็อคหน้าจอได้ที่ทุกสภาพแสง และรองรับ Smart Gesture Control, AI Private View และ เซนเซอร์อินฟราเรด, การถ่ายภาพวิดีโอ 4K Selfie Video และติดตั้ง Depth Sensor ทำให้จับเรื่องความลึกและใช้สแกนใบหน้าได้แบบเดียวกับ Huawei Mate 30 pro 

Huawei P40 Series

และสามารถใช้ได้กับ Profoto ไฟสำหรับในการทำให้สว่างในการถ่ายภาพได้ 

ส่วนราคาของ Huawei P40 Series มีดังนี้ 

Huawei P40

  • Huawei P40 799 (RAM 8GB / 128GB) ยูโร หรือประมาณ 28,xxx บาท เริ่มวางจำหน่าย 7 เมษายน 2020 ในยุโรป 

Huawei P40 Pro

  • Huawei P40 Pro (RAM 8GB / 256) ราคา 999 ยูโร หรือประมาณ 35,xxx บาท เริ่มวางจำหน่าย 7 เมษายน 2020 

Huawei P40 Pro+

  • Huawei P40 Pro Plus (RAM 8GB / 512GB) ราคา 1,399 ยูโร หรือประมาณ 50,xxx บาท วางจำหน่าย มิถุนายน 2020 

Huawei P40 Pro+

Huawei P40 Pro+
Huawei P40 Pro+
Huawei P40 Pro+
Huawei P40 Pro

อุปกรณ์เสริมมีทั้ง เคสกันน้ำ, และ Crytral Case ให้เลือก แต่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ว่ารุ่นไหนเหมาะกับใคร ทีมแบ่งออกเป็นสรุปต่างๆ ดังนี้ 

  • Huawei P40 ถ้าคุณไม่ได้เน้นกล้องมากมาย นี่ก็เป็นคำตอบที่น่าสนใจ 
  • Huawei P40 Pro ต้องการกล้องและสีสันของเครื่องไม่อยากเอื้อมไปเรือธง 
  • Huawei P40 Pro Plus เพิ่มทุกอย่างให้ท็อป และเน้นกล้องแบบจริงจังขอซูมเยอะไว้ก่อน 

สำหรับประเทศไทยราคาจะตามนี้หรือไม่หากมีความคืบหน้าทีม Sanook Hitech จะนำมาบอกเล่ากันต่อไป 

อัลบั้มภาพ 205 ภาพ

อัลบั้มภาพ 205 ภาพ ของ เปิดตัว HUAWEI P40 Series สมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อปฏิวัติวงการถ่ายภาพประจำปี 2020

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook