[Review] Linksys VELOP AX MX5300 เร้าเตอร์ทรงตั้งยักษ์ รองรับ WiFi 6 และใช้งานง่ายมาก
กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone กันอีกครั้ง ในรอบนี้มีอุปกรณ์เครือข่ายสำหรับคนที่ต้องการความแรงแต่ไม่อยากออกจากบ้านไปซื้อ กับ Linksys VELOP AX รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับชื่อ VELOP AX MX5300 จะเป็นอย่างไร น่าใช้ไหม มาดูกัน
เปิดกล่อง Linksys VELOP AX MX5300
สำหรับ Linksys VELOP AX MX5300 ตัวใหญ่ยักษ์มีอุปกรณ์มาให้ดังนี้
- VELOP AX MX5300
- ปลั๊กไฟ + adaptor เพราะตัวใหญ่
- คู่มือ
- สาย LAN
รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Linksys VELOP AX MX5300
หากคุณได้อ่านรีวิว Linksys VELOP AX Tri-band ทรงสูง และ Dual Band ตัวเล็กสุด ก็คงคุ้นเคยกับ VELOP AX MX5300 อย่างแน่นอน แต่ถ้ายังไม่เคยอ่านขออธิบายเพิ่มคือ Linksys VELOP AX MX5300 มันก็มีหน้าตาคล้ายกับ 2 รุ่นนั้นแหล่ะ แต่ว่าถ้าพิจารณาดีๆ แล้ว มันใหญ่แทบทุกมิติ จนเรียกได้ว่า นี่มันคอนโด ย่อส่วนชัดๆ
แต่ว่าด้านหลังไม่มีช่องระบายอากาศแล้ว แต่ว่ามีการเพิ่ม LAN มาทั้งหมด 5 ช่อง แบ่งออกเป็นเสียบอุปกรณ์ได้ 6 และเสียบกับ Router ได้ 1 อัน เท่ากับ MX5300 แทนที่ Router แบบปกติได้เลย แล้วให้บริวารเป็น VELOP AX แทนก็ได้ และมี USB เสียบอุปกรณ์พร้อมกับที่เชื่อมต่อกับ Adaptor
ส่วนบนสุดมาพร้อมกับไฟบอกสถานะและช่องระบายอากาศ
ส่วนล่างสุดมีปุ่ม Reset, ปุ่ม เปิด / ปิดของ Router มาให้ และปุ่มเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โดยไม่ต้องกรอกรหัส WPS
ในภาพรวมของดีไซน์ : เมื่อเทียบเท่ากับเรื่องการออกแบบถือว่ายังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ดีและเหมาะกับพื้นที่จำกัดแต่อยากได้ของแรงเพราะรุ่นนี้มีการออกแบบเสาอากาศในการรับส่งให้ดีกว่าเดิม แถมรองรับมาตรฐาน WiFi 6
เสียบปลั๊กลองใช้ฟีเจอร์ของ Linksys VELOP AX MX5300
สำหรับการติดตั้ง Linksys VELOP AX MX5300 สามารถใช้โปรแกรมชื่อว่า Linksys สามารถโหลดมาใช้ได้ทั้ง Android และ iOS ซึ่งมีวิธีใช้งานดังนี้
- สมัคร Linksys Account ให้เรียบร้อย
- เลือกเพิ่มอุปกรณ์ จะมีโหมดเพิ่ม VELOP AX ให้เลือกตรงนั้น
- จากนั้นทำตามขั้นตอนที่โปรแกรมบอก ซึ่งจะมีขั้นต้องการเชื่อมต่อ
- จากนั้นปล่อยทำงานไปจนเสร็จ
- สำหรับ Node อื่นๆ ก็ทำขั้นตอนแบบเดียวกัน แต่ว่าไม่ต้องเสียบสาย LAN แล้ว เพราะตัวเครื่องจะจับสัญญาจาก VELOP AX โดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตามโหมดต่างๆ ของการควบคุมทั้ง เช็คความเร็ว, ดูอุปกรณ์เชื่อมต่อ Game Mode กระจายความเร็วให้เครื่องที่มีการพบว่าเล่นเกม และยังมีโปรแกรมคุมบุตรหลานในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ด้วย
นอกจากนี้ Linksys VELOP AX MX5300 จะมีเทคโนโลยีต่างๆ มากมายเช่น
- เทคโนโลยี OFDMA เทคโนโลยีซึ่งจะช่วยลดค่า Latency เพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ (Multi devices) หลายๆ เครื่อง สามารถเชื่อมต่อไวไฟความเร็วสูงพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งเราเตอร์นี้สามารถครอบคลุมพื้นที่ 3,000 ตารางฟุตต่อเครื่อง
- MU - MIMO ของเราเตอร์จะช่วยให้การดาวน์โหลดและการอัปโหลดทำได้ในเวลาเดียวกันอย่างรวดเร็ว เหมาะอย่างยิ่งในงานสตรีมมิ่งที่มีความละเอียด 4K และ 8K รวมไปถึงประสบการณ์ด้านความบันเทิงต่างๆ การเล่นเกมออนไลน์, โซเชียลมีเดีย ที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องของแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด
- เทคโนโลยี Color BSS ซึ่งช่วยขจัดสัญญาณรบกวนจากเครือข่ายใกล้เคียง ทำให้ ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ ถึงสัญญาณที่แรงและความเร็วที่มีประสิทธิภาพ
- WiFi 6 จะรองรับความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้ 5.3Gbps ให้ความเร็วสูงถึง 4 เท่าด้วยกันครับ
เรียกได้ว่า Router รุ่นนี้มีเทคโนโลยีที่ดีอย่างมาก และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับจนเรียกได้ถ้าใครมีอุปกรณ์เยอะหรือที่รองรับมาตรฐาน WiFi 6 ก็ถือว่าสอบผ่านครับ รวมถึงถ้าบ้านมีอุปกรณ์เยอะตัวนี้ก็รับอุปกรณ์ได้มากถึง 50 ชิ้นเลยครับ และ VELOP AX MX5300 จะปล่อยคลื่นสำหรับ WiFi 6 อยู่ท้ายๆ ซึ่งเป็นความถี่ที่อุปกรณ์ที่รองรับทั้ง Notebook หรือ มือถือจะจับได้นั่นเอง
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน Linksys VELOP AX MX5300 มาสักระยะเวลาหนึ่ง
เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับการขยายความสามารถของอุปกรณ์เครือข่ายในบ้าน ซึ่งถือว่าเป็น item เสริมหรือหลักได้ก็แล้วแต่จุดประสงค์
แต่ราคาของอุปกรณ์นี้จะมีราคาเริ่มต้นที่ 14,990 บาท ไปจนเกือบ 3 หมื่นบาท แล้วแต่จำนวน Node เช่นเดียวกัน แต่สามารถติดตั้งผสมกับรุ่นเล็กอย่าง VELOP AX รุ่นเล็กครับ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นอีกทางเลือกการขยายเครือข่ายภายในบ้านระหว่างช่วง Work From Home ที่ดี แต่ต้องกระเป๋าหนักหน่อยนะ
จุดเด่น
- รูปทรงทันสมัย
- วางที่ไหนก็ได้ไม่กินพื้นที่
- รองรับ WiFi 6
- เทคโนโลยีใน Router รุ่นนี้สูงมาก
- เชื่อมต่อกับ VELOP AX รุ่นเล็กกว่าได้
- มีช่องเสียบ LAN และ USB ครบเหมือนกับ Router ชั้นดี
- รัศมีการกระจายสัญญาณ กว้างมาก
ข้อสังเกต
- ราคาสูงตามเทคโนโลยีของมัน
- หากตั้งที่ระบายอากาศไม่ดี ความร้อนจะเกิดขึ้นได้สูง